สสวท. รับสมัครโอลิมปิก รอบที่ 1 แล้ว

[gon]

สสวท. รับสมัครนักเรียนมัธยมศึกษาที่มีอายุไม่เกิน 18 ปีทั่วประเทศ เข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โอลิมปิกแห่งประเทศไทย โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม - 6 มิถุนายน 2548 ผู้สนใจสามารถขอรับใบสมัครและสมัครสอบได้ที่โรงเรียนที่นักเรียนศึกษาอยู่ สอบถามเพิ่มเติมที่โทร. 0-2392-4021 ต่อ 2202 - 2207 สายตรงและโทรสาร 0-2381-4044 หรือที่เว็บไซต์ www.ipst.ac.th

คณะอนุกรรมการอำนวยการจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันคณิตศาส ตร์ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกระหว่างประเทศมีความประสงค์จะคัดเลือกผู้แทนประเทศไทยเพ ื่อส่งไปแข่งขันคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2549 จึงขอเชิญชวน นักเรียนระดับมัธยมศึกษา ที่กำลังเรียนไม่เกินชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ไม่จำกัดระดับคะแนน สัญชาติไทย และมีอายุ ไม่เกิน 18 ปี นับถึงวันที่ 30 กรกฎาคม 2548 สมัครเข้าร่วมการแข่งขันคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์โอลิมปิกแห่งประเทศไทย โดยสมัครสอบได้ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม - 6 มิถุนายน 2548 ผู้สนใจสามารถขอรับใบสมัครและสมัครสอบได้ที่โรงเรียนที่นักเรียนศึกษาอยู่

การสอบแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 2 รอบ รอบที่ 1 ผู้สมัครสอบจากทั่วประเทศ จะถูกคัดเลือกไว้สาขาวิชาละประมาณ 40 คน รอบที่ 2 นักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกจากรอบที่ 1 จะได้รับการคัดเลือกไว้สาขาละไม่เกิน 25 คน หลังจากนั้นนักเรียนที่ได้รับการคัดเลือกจากการแข่งขันคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์โอลิมปิกแห่งประเทศไทย จะต้องเข้าอบรมคัดเลือกในสาขาวิชาที่สอบ ณ สสวท. รวม 3 ครั้ง เพื่อคัดเลือกผู้แทนประเทศไทยส่งไปแข่งขันคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เคมี ชีววิทยา และฟิสิกส์โอลิมปิกระหว่างประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2549 ต่อไป

เนื้อหาวิชาที่ใช้ในการสอบทั้ง 2 รอบ ประกอบด้วย วิชาคณิตศาสตร์ ได้แก่ เซต ระบบจำนวนจริง ทฤษฎีจำนวนเบื้องต้น ตรรกศาสตร์เบื้องต้น ความสัมพันธ์และฟังก์ชัน เรขาคณิตวิเคราะห์ และภาค ตัดกรวย ฟังก์ชันตรีโกณมิติ ฟังก์ชันเอกซ์โพเนนเชี่ยลและฟังก์ชันลอการิทึม เวกเตอร์ ลำดับและอนุกรม กฏเกณฑ์ เบื้องต้นเกี่ยวกับการนับและเรขาคณิตในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

วิชาคอมพิวเตอร์ รอบที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ตรรกศาสตร์ การจัดหมู่ การเรียงลำดับ การนับ กราฟ อัลกอริทึม การเขียนโปรแกรม โครงสร้างข้อมูล รอบที่ 2 การเขียนโปรแกรมแก้ปัญหาด้วยปาสคาลหรือภาษาซี วิชาเคมี รอบที่ 1 อะตอมและตารางธาตุ พันธะเคมี สมบัติของธาตุ และสารประกอบ ปริมาณสัมพันธ์ ของแข็ง ของเหลว แก๊ส อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุลเคมี กรด-เบส ไฟฟ้าเคมี รอบที่ 2 ครอบคลุมถึงชั้น ม. 6 วิชาชีววิทยา รอบที่ 1 ไม่เกิน ม. 6 ภาคเรียนที่ 1 ตามโครงสร้าง 2 (ว 044) สำหรับโครงสร้าง 3 ยกเว้นบทพันธุศาสตร์ และบทวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต รอบที่ 2 ครอบคลุมเนื้อหาโครงสร้าง 2 และโครงสร้าง 3 วิชาฟิสิกส์ ไม่เกิน ม. 6 ภาคเรียนที่ 1 (ว 024)

ผู้สนใจขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สสวท. 924 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพ ฯ 10110 โทร. 0-2392-4021 ต่อ 2202 - 2207 สายตรงและโทรสาร 0-2381-4044 หรือที่เว็บไซต์ www.ipst.ac.th

[amited]

ขออนุญาติยืมกระทู้ ถามคำถามหน่อยครับ
คือทำอย่างไร ถึงทำให้เด็กเรียนคณิศาสต์ได้เก่งครับ
เพราะลูกสาวเพิ่งขึ้น ชั้น ม.3 มาถาม สมการกำลังสอง
ตอบลูกไม่ได้เลย เพราะผมเรียนมาแค่ ป.7 สมัยก่อน
สงสารแก่ เพราะเป็นการบ้าน
ขอบคุณครับ

[nongtum]

ถ้าจะให้ตอบคำถามนี้สั้นๆที่สุด น่าจะให้น้องเค้าอยากเรียนก่อนครับ เพราะบังคับไปก็ได้แค่ผลระยะสั้นครับ

แม้คุณอาจไม่เข้าในในสิ่งที่ลูกคุณเรียนเลย แต่คุณสามารถให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ และพยามพูดหรือทำให้เขาเห็นว่าสิ่งที่เขากำลังเรียนมีความสำคัญ อย่าบังคับ เดี๋ยวเขาจะพาลเกลียดวิชาไปเปล่าๆ เพื่อนก็มีส่วนช่วยมากครับ อีกอย่าง คุณไม่สามารถหวังให้ลูกคุณเก่งแบบปุบปับได้ เพราะโดยธรรมชาติของวิชานี้ โดยเฉพาะในระดับมัธยมต้น กว่าที่แต่ละคนจะมาได้ถึงจุดนี้ ผ่านการฝึกทำโจทย์มานับไม่ถ้วน จริงอยู่ที่บางคนแม้ไม่ชอบแต่เก่งเลขได้ นั่นเป็นผลต่อการขยันทำโจทย์และเทคนิค ส่วนจะเข้าใจจริงนานหรือไม่ไม่รู้ได้
ขอแนะนำแค่นี้ครับ

[TOP]

ทำอย่างไร ถึงทำให้เด็กเรียนคณิตศาสตร์ได้เก่งครับ

ผมเชื่อว่า หากเด็กสนใจคณิตศาสตร์ มีความพยายาม คิดและแก้ปัญหาด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ เด็กจะไม่มีปัญหากับการเรียนคณิตศาสตร์ครับ ปัญหาจึงมีอยู่ว่า จะมีเด็กสักกี่คนที่ทำได้แบบนี้ และผู้ที่มีส่วนช่วยผลักดันเด็กได้อย่างมาก คือ คุณพ่อ คุณแม่

ตัวผมเองสมัยเด็กๆ ก็ไม่ได้สนใจคณิตศาสตร์หรอกครับ จำได้ว่า ในชั้นประถม เจอปัญหาเรื่องการทอนเหรียญ ผมก็ตอบไม่ได้แล้วว่า หากขายของราคา 1 บาท 50 สตางค์ และได้รับเงินมา 5 บาท จะต้องทอนเหรียญอะไรกลับไปบ้าง เมื่อคุณพ่อรู้เข้า ก็เข้ามาติว ผมก็ตอบไปมั่วๆ กว่าจะรู้ว่ามันคือการบวกลบเลขธรรมดา ก็โดนตีจนร้องไห้ละครับ

เมื่อผมขึ้นชั้นมัธยมต้น ก็ย้ายไปเรียนที่หาดใหญ่ แต่คุณพ่อผมท่านวางแผนไว้แล้วครับว่า หากให้คนโง่อย่างผมไปเรียนแบบเดิมๆ อาจมีปัญหาได้ หากจะช่วยสอนลูกจะทำได้ถึงระดับชั้นไหนกันเชียว วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ดังนั้นท่านจึงให้ผมหยิบหนังสือเรียนคณิตศาสตร์ ออกมาอ่านด้วยตนเอง อ่านจบหนึ่งเรื่อง เจอแบบฝึกหัด ให้ทำลงสมุด จากนั้นจึงนำไปให้ลูกพี่ลูกน้องที่เรียนที่หาดใหญ่ช่วยตรวจให้

บทแรกๆก็พอจะใช้วิธีนี้ได้ครับ แต่ต่อๆไปเริ่มเกรงใจ และเป็นการรบกวนเวลามากขึ้น คุณพ่อผมจึงแนะนำให้ไปซื้อหนังสือกุญแจคณิตศาสตร์ ที่เฉลยแบบฝึกหัดในหนังสือเรียนนี่หละมาทำหน้าที่นี้แทน โดยใช้เวลาเรียนรู้ตอนกลางคืนอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง ช่วงแรกๆที่ต้องอ่านหนังสือเอง ติดปัญหา ไม่รู้จะถามใคร (จริงๆก็มีให้ถาม แต่ไม่อยากรบกวน) รู้สึกท้อแท้หลายครั้งมากครับ แต่คุณพ่อท่านก็เป็นกำลังใจให้เสมอมาว่า ลูกต้องทำได้ ไอ้ลูกพ่อ

และแล้วผมก็ค้นพบด้วยตนเองว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น ไม่มีปัญหาใดเลย ที่เมื่อได้พยายามแก้อย่างเต็มที่แล้ว เราจะแก้ปัญหานั้นไม่ได้ ความเชื่อมั่นในตนเองเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนและระดับของปัญหาที่แก้ได้ หลังจากนั้นคุณพ่อไม่ต้องมาคอยถามแล้วครับว่า อ่านหนังสือไปถึงไหนแล้ว เพราะเมื่อเด็กรู้สึกมั่นใจและสนุกไปกับเนื้อหาวิชานั้นแล้ว เด็กจะมีวิธีการเรียนรู้และแก้ปัญหาต่างๆด้วยตนเองต่อไป

แต่ถึงกระนั้นก็ตาม คุณพ่อ คุณแม่ ยังมีบทบาทสำคัญอย่างมากครับ เพราะหลายครั้งที่ผมติดปัญหาใหญ่ๆ แก้ไม่ออก จะไปอธิบายให้ท่านฟัง คุณพ่อผมก็เต็มใจ พร้อมจะรับฟังทุกปัญหาเสมอ (แม้ท่านจะไม่เคยศึกษาเรื่องนั้นมาก็ตามที) ท่านรู้จักซักถาม ผมก็พยายามจะอธิบายด้วยเนื้อหาที่คิดว่าท่านเข้าใจได้ ในระหว่างการสนทนา ผมก็จะนึกถึงวิธีการหาคำตอบได้เอง

ตรงนี้หละที่ผมอยากจะบอกกับ คุณพ่อ คุณแม่ หลายคน ว่าอย่าไปกลัวปัญหาพร้อมกับเด็กๆ หากเด็กนำปัญหามาซักถาม จงเต็มใจตอบคำถามเสมอ (แม้ว่าเราจะไม่เคยเรียนเรื่องนั้นมาก่อนเลย) หากตอบไม่ได้ ก็จงรู้จักยิงคำถามกลับไปให้เด็กได้คิด ได้ทบทวนว่าลืมอะไรไปหรือเปล่า เราไม่จำเป็นต้องรู้ในทุกเรื่อง แต่หากเรามีกระบวนการคิดแก้ปัญหาที่ดี จะช่วยเป็นแนวทางแก้ปัญหาให้กับลูกๆได้ครับ

[amited]

ขอบคุณ น้องตั้มและ คุณท๊อปด้วยครับ

[ToT]

แวะมาโฆษณาให้ สสวท. นิดนึงครับ

สำหรับน้องๆ ม.ปลาย พี่อยากแนะนำให้ลองมาเข้าร่วมค่ายอบรมของ สสวท. ซักครั้งในชีวิตนักเรียน ม.ปลายนะครับ มีเพื่อนๆพี่หลายคนที่กังวลกับการเอนทรานซ์ และคิดว่าการเข้าค่ายพวกนี้ทำให้เสียเวลาปิดเทอมไปเปล่าๆ แต่ค่ายพวกนี้นอกจากจะทำให้น้องได้รู้จักกับเพื่อนใหม่ๆที่สนใจด้านเดียวกัน ยังเป็นการเปิดโอกาสให้น้องได้สัมผัสกับวิธีการเรียนในมหาวิทยาลัย และเปิดกว้างตัวเองให้รับความรู้ใหม่ๆนอกจากในหลักสูตรอีกด้วย ( อาจารย์ที่มาสอนในค่ายจะมาจากมหาลัยหลายๆที่ ) สำหรับพี่แล้วพี่ได้รับประโยชน์จากการเข้าค่ายเยอะพอสมควรเลยทีเดียว ( พี่เข้าค่ายคอมฯ)

ยังไงก็ลองพิจารณาดูนะครับ ^ ^

ปล. ไม่ได้เข้ามานานมาก เว็บและเว็บบอร์ดพัฒนาขึ้นไปเยอะเลยครับพี่กร

[gon]

น้อง ToT บรรลุวิชาคอมแล้วอย่าลืมเอามันมาช่วยแก้ปัญหา คณิตศาสตร์ด้วยล่ะ
ตกลงมาเรียนวิศวะคอมที่จุฬา ฯ ใช่ไหมครับ. เห็นชื่อที่ไหนสักแห่ง