เลข และ ฮอร์โมน

[passer-by]

เอามาให้อ่านเพลินๆครับ อย่าคิดมากนะ

(แปลและตัดต่อจาก หัวข้อ Mathematics and hormone จากหนังสือ Why men don't listen and women can't read map)

โดยปกติเด็กผู้ชายจะใช้ สมองส่วนหน้า ซีกขวา ในการ solve ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ขณะที่มีผลการทดสอบยืนยันว่า เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่ ใช้สมองส่วนหน้า ซีกซ้าย ซึ่งปกติควบคุมเรื่องภาษา มาช่วยในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจอะไรที่ มักจะมีเด็กผู้หญิงหลายคนมักจะชอบนับออกมาดังๆหรือพึมพำเวลาคิดเลข

แม้ดูเหมือนเด็กผู้หญิงจะไม่ค่อยโดดเด่นในคณิตศาสตร์มากนัก แต่ เชื่อไหมว่าการพัฒนาทางสมองในเด็กผู้หญิง เกิดขึ้นในช่วงวัยที่เร็วกว่าเด็กผู้ชาย ซึ่งสามารถอธิบายได้บางส่วน ว่าทำไม เจ้าหล่อนถึง ดูมีพัฒนาการดีในช่วงแรกๆ แต่เมื่อเด็กผู้ชาย เข้าสู่วัยรุ่น ทักษะทางคณิตศาสตร์ จะพัฒนามากขึ้น เนื่องมาจาก ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชาย ที่เพิ่มขึ้น

มีผลการวิจัยจาก มหาวิทยาลัย John hopkins ที่ศึกษา เด็ก gifted หรือ เด็กที่มีพรสวรรค์และมีแววอัจฉริยะ ในช่วง อายุ 11-13 ปี พบว่า เมื่อระดับแบบทดสอบยากขึ้น gifted boys จะทำได้ดีกว่า gifted girls โดยถ้าคำถามอยู่ในระดับง่าย gifted boys จะชนะ gifted girls ด้วยอัตราส่วน 2:1 เมื่อคำถามเป็นระดับปานกลาง อัตราส่วนจะเพิ่มเป็น 4:1 และเมื่อคำถามยากขึ้น อัตราส่วนดังกล่าว จะพุ่งถึง 13:1

ถึงแม้เทสโทสเตอโรน จะมีผลต่อทักษะบางอย่างทางคณิตศาสตร์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ถ้ามีฮอร์โมนตัวนี้มากๆ แล้วระดับความสามารถทางคณิตศาสตร์ในเพศชายจะเพิ่มสูงขึ้น ใน ปี 1998 Dr. Doreen Kimura แห่งแคนาดา พบว่า แม้จะเพิ่มปริมาณเทสโทส เตอโรน 2-3 เท่าในเพศชาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทักษะการให้เหตุผลทางคณิตศาสตร์เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า ตามนั้น

และดูเหมือนว่า ร่างกายอาจจะพยายามรักษาสมดุลของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเอาไว้ที่ค่าหนึ่ง ซึ่งให้ผลการทำงานดีที่สุด โดยเทสโทสเตอโรน จะมีปริมาณสูงสุด ในฤดูใบไม้ร่วง