|
|
|||||||
| สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
  |
|
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
|
#3
16 มกราคม 2010, 00:25
|
||||
|
||||
1+3+5+7+....95+97+99+101
ลองเอา 1จับคู่กับ 101, 3+99 , 5+97 ,7+95...ไปเรื่อยๆ จะเห็นว่าเลขที่บวกกันเป็นเลขคี่ จาก1-101 มีเลขคี่ 51 ตัว จับคู่ได้25คู่ เศษตัวหนึ่งตรงกลางคือ 51 เพราะผลรวมการบวกแบบหัวท้ายได้เท่ากับ 102 สำหรับ 51บวกกับ51เท่านั้นจึงจะได้ 102 ดังนั้นจึงไม่มีคู่ ดังนั้นผลบวกคือ 25x(102)+51=2500+50+51 ตอบ 2601 
|
|
#4
16 มกราคม 2010, 12:40
|
||||
|
||||
|
อ้างอิง:
มันเป็นอนุกรมเลขคณิตมีสูตรว่า $s_n=\frac{n}{2}\times(a_1+a_n)$ ดูก่อนว่ามีกี่พจน์ใช้สูตร $a_n=a_1+(n-1)d$ **$a_n$คือตัวปลาย $a_1$ คือตัวต้น $d$ คือผลต่างร่วม $101=1+(n-1)2$ $\frac{100}{2}=n-1$ $n=51$ แทนค่า$n$ในสูตร$s_n=\frac{n}{2}\times(1+101)$ จะได้ว่า$s_n=\frac{51}{2}\times(102)$ ตอบ$s_n=2601$  ปล.แนะนำแค่ข้อหนึ่งส่วนข้อสองก็เป็นอนุกรมเลขคณิตเหมือนกัน
__________________
อยากไปเรียนมหิดลแต่ยังไงก็ไปไม่ถึง 
16 มกราคม 2010 12:45 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 4 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ napolsmath
|
|
#5
22 มกราคม 2010, 10:26
|
||||
|
||||
|
อ้างอิง:
คือผลรวมของเลขคี่ n ตัว = $n^2$ [ที่เริ่มจาก 1] สูตร $[\frac{ตัวแรก+ตัวหลัง}{2}]^2$ 1+3+5 = $3^2$ 1+3+5+7 = $4^2$ 1+3+5+7+...299 = $150^2$ = 22500
__________________
เคยท้อ แต่ก็ไม่ถอย ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน
|
|
#6
22 มกราคม 2010, 19:51
|
||||
|
||||
|
อ้างอิง:
__________________
|
|
#7
22 มกราคม 2010, 22:57
|
||||
|
||||
|
ดูจากรูปของคุณ NUTMATH(จักรดาว) คงเตรียมตัวสอบใช่มั้ยครับ ส่วนมากโรงเรียนกวดวิชาเข้าโรงเรียนนี้จะให้เทคนิคการจำ แต่คณิตไม่จำเป็นครับ
__________________
จงเป็นคนโง่ในสายตาผู้อื่น ดีกว่าเป็นคนโง่ในสายตาตนเอง~ุ~
|
|
#8
24 มกราคม 2010, 22:04
|
||||
|
||||
|
วิธีการบวกพจน์แรกสุดกับหลังสุด แล้วขยับถัดมาเรื่อยๆ เป็นวิธีที่เขียนไว้ในประวัติศาสตร์ของวิชาคณิตศาสตร์ ผมจำไม่ได้แล้วว่าใครเป็นคนแก้โจทย์ข้อนี้ด้วยวิธีนี้
มันติดที่ริมฝีปาก ไม่แน่ใจว่าใช่เซอร์ไอแซค นิวตันหรือเปล่า เคยอ่านมานานแล้ว ตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยมปลาย ก็เกือบยี่สิบปีก่อนโน้น 24 มกราคม 2010 22:05 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ เหตุผล: พิมพ์ตกหล่น
|
|
#12
25 มกราคม 2010, 19:13
|
||||
|
||||
|
อ้างอิง:
ตัวแรก คือ $a_1 = a$ ตัวสุดท้าย คือ $a_n = a+(n-1)d$ (ตัวแรก+ตัวสุดท้าย) คือ $(a_1+a_n) = 2a+(n-1)d$ ดังนั้น $สูตรสำเร็จ\ คือ\ \dfrac{จำนวนตัว}{2}\cdot (ตัวแรก+ตัวสุดท้าย) = \dfrac{n}{2} [ 2a +(n-1)d]$ ครับ
|
|
#13
25 มกราคม 2010, 19:40
|
||||
|
||||
|
อ้างอิง:
__________________
|
|
#14
25 มกราคม 2010, 19:58
|
||||
|
||||
|
อ้างอิง:
เช่น 1+(3+4+5+...+50) = $1+\frac{48}{2} [2(3)+(48-1)1] = 1+\frac{48}{2} [53]$ คูณเอาเองนะขอรับ 
|
| |
|
|
