Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์มัธยมศึกษา > ปัญหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 19 ตุลาคม 2011, 18:39
dephenul's Avatar
dephenul dephenul ไม่อยู่ในระบบ
หัดเดินลมปราณ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 01 มิถุนายน 2010
ข้อความ: 30
dephenul is on a distinguished road
Default โจทย์เรื่องฟังก์ชัน จงหาค่า f(-1)-5f(3)+4f(4)

กำหนดให้ $f(x)=x^4+ax^3+bx^2+cx+d$
โดยที่ $a,b,c,d\in \mathbf{R} $ , $f(n)=nsin\theta;n={1,2,3}$
เมื่อ$\theta$ เป็นจำนวนจริงใดๆ
จงหาค่าของ $f(-1)-5f(3)+4f(4)$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 19 ตุลาคม 2011, 19:05
LightLucifer's Avatar
LightLucifer LightLucifer ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 กันยายน 2008
ข้อความ: 2,352
LightLucifer is on a distinguished road
Default

ได้ 72 รึป่าวครับ
__________________
เหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่เหนือข้าต้องไม่มีใคร

ปีกขี้ผื้งของปลอมงั้นสินะ


...โลกนี้โหดร้ายจริงๆ มันให้ความสุขกับเรา แล้วสุดท้าย มันก็เอาคืนไป...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 19 ตุลาคม 2011, 19:15
dephenul's Avatar
dephenul dephenul ไม่อยู่ในระบบ
หัดเดินลมปราณ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 01 มิถุนายน 2010
ข้อความ: 30
dephenul is on a distinguished road
Default

ผมยังคิดไม่ออกหรอกครับ ^^ เอาโจทย์มาแชร์ให้ลองคิดกันดู
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 19 ตุลาคม 2011, 19:38
LightLucifer's Avatar
LightLucifer LightLucifer ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 กันยายน 2008
ข้อความ: 2,352
LightLucifer is on a distinguished road
Default

ผมให้ $P(x)=f(x)-xsin\theta$ จะได้ $P(x)=(x-1)(x-2)(x-3)(x-k)$ จะได้ $f(x)=(x-1)(x-2)(x-3)(x-k)+xsin\theta$ แล้วก็แทนค่าตอบเลยครับ
__________________
เหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่เหนือข้าต้องไม่มีใคร

ปีกขี้ผื้งของปลอมงั้นสินะ


...โลกนี้โหดร้ายจริงๆ มันให้ความสุขกับเรา แล้วสุดท้าย มันก็เอาคืนไป...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 19 ตุลาคม 2011, 20:24
dephenul's Avatar
dephenul dephenul ไม่อยู่ในระบบ
หัดเดินลมปราณ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 01 มิถุนายน 2010
ข้อความ: 30
dephenul is on a distinguished road
Default

ผมได้120อ่ะครับ วิธีทำของคุณLightLucifer ถูกแล้ว น่าจะผิดตอนบวกลบคูณหาร
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 19 ตุลาคม 2011, 20:26
LightLucifer's Avatar
LightLucifer LightLucifer ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 กันยายน 2008
ข้อความ: 2,352
LightLucifer is on a distinguished road
Default

555+ จริงด้วย
__________________
เหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่เหนือข้าต้องไม่มีใคร

ปีกขี้ผื้งของปลอมงั้นสินะ


...โลกนี้โหดร้ายจริงๆ มันให้ความสุขกับเรา แล้วสุดท้าย มันก็เอาคืนไป...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 20 ตุลาคม 2011, 12:58
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

$f(n)=nsin\theta $ นิยามเฉพาะ $n=1,2,3$

หา $f(-1)$ ยังไงครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 23 ตุลาคม 2011, 10:43
PP_nine's Avatar
PP_nine PP_nine ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 เมษายน 2010
ข้อความ: 607
PP_nine is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ lek2554 View Post
$f(n)=nsin\theta $ นิยามเฉพาะ $n=1,2,3$

หา $f(-1)$ ยังไงครับ
จะมอง $\sin \theta = k$ เป็นค่าคงที่ธรรมดาๆก็ได้ครับ จะได้มองง่ายๆ

วิธีทำก็อย่างที่คุณ LightLucifer ได้เฉลยไปแล้ว

สรุปก็คือ $P(x)=(x-1)(x-2)(x-3)(x-r)+kx$ เมื่อ $r$ คืออีกรากของสมการที่เรายังไม่รู้

และเมื่อเราแทนค่าตามที่โจทย์ต้องการ ค่าคงที่พวก $r,k$ ก็จะหายไปเหลือเพียงตัวเลยยังไงล่ะครับๆ
__________________
keep your way.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 23 ตุลาคม 2011, 12:48
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

#8 แต่เงื่อนไข

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ LightLucifer View Post
ผมให้ $P(x)=f(x)-xsin\theta$ จะได้ $P(x)=(x-1)(x-2)(x-3)(x-k)$ จะได้ $f(x)=(x-1)(x-2)(x-3)(x-k)+xsin\theta$
เป็นจริงเฉพาะ $x=1,2,3$ นี่ครับ

23 ตุลาคม 2011 12:48 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ lek2554
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 23 ตุลาคม 2011, 13:58
PP_nine's Avatar
PP_nine PP_nine ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 เมษายน 2010
ข้อความ: 607
PP_nine is on a distinguished road
Default

งั้นผมจะอธิบายให้เลยละกันๆ

อ้างอิง:
กำหนด $f(x)=x^4+ax^3+bx^2+cx+d$ เมื่อ $a,b,c,d\in \mathbb{R}$
$f(n)=kn$ สำหรับ $n={1,2,3}$ เมื่อ$k$ เป็นจำนวนจริงใดๆ
จงหาค่าของ $f(-1)-5f(3)+4f(4)$
สร้าง $p(x)=f(x)-kx$ สังเกตว่า $p(1)=p(2)=p(3)=0$ เพราะ $f(x)=kx$ สำหรับ $x=1,2,3$

(ที่คุณ lek2554 สงสัยมันใช้แค่ตรงนี้ครับ ต่อจากนี้ไปไม่ได้เกี่ยวกับอันนี้แล้ว)

โดยทฤษฎีเศษเหลือก็จะได้ว่า $x-1,x-2,x-3$ ต่างเป็นแฟคเตอร์ของ $p(x)$

แต่ $p(x)$ ก็ต้องมี 4 รากเหมือนกับ $f(x)$ เพราะมีดีกรี 4 เท่ากัน สมมติให้อีกรากที่เรายังไม่รู้เป็น $r$

ก็จะได้ $p(x)=(x-1)(x-2)(x-3)(x-r)$ แล้วค่อยแทนลงไปในสมการเดิมได้ $f(x)=(x-1)(x-2)(x-3)(x-r)+kx$

ที่เหลือก็คิดเลขธรรมดาๆครับ

$f(-1)=(-2)(-3)(-4)(-1-r)-k=24+24r-k$

$-5f(3)=-5(3k)=-15k$

$4f(4)=4(4-1)(4-2)(4-3)(4-r)+4(4k)=96-24r+16k$

จับรวมกันก็จะได้ $f(-1)-5f(3)+4f(4)=24+96=120$
__________________
keep your way.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 23 ตุลาคม 2011, 15:38
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

#10
ผมคิดว่าจากข้อมูลที่โจทย์กำหนด ไม่เพียงพอที่จะสรุปว่า ค่าของ $f(-1) , f(4)$ จะอยู่ในรูป $k$ หรือเปล่าครับ

เพราะการสร้าง $f(x)=p(x)+kx$ เปรียบเสมือนกับ

ให้ $p(x)=(x-1)(x-2)(x-3)(x-r)$ และ $g(x)=kx ,x=1,2,3$

$f(x)=p(x)+g(x)$ จะได้ $D_{p+g}=\left\{1,2,3\right\}$

ดังนั้น $f(-1) , f(4)$ จึงไม่นิยาม

23 ตุลาคม 2011 19:28 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ lek2554
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 23 ตุลาคม 2011, 15:51
LightLucifer's Avatar
LightLucifer LightLucifer ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 กันยายน 2008
ข้อความ: 2,352
LightLucifer is on a distinguished road
Default

ให้ P(x) เป็นพหุนามอ่ะครับ ผมไม่เข้าใจตรง Domain อ่ะครับ
__________________
เหนือฟ้ายังมีฟ้าแต่เหนือข้าต้องไม่มีใคร

ปีกขี้ผื้งของปลอมงั้นสินะ


...โลกนี้โหดร้ายจริงๆ มันให้ความสุขกับเรา แล้วสุดท้าย มันก็เอาคืนไป...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 23 ตุลาคม 2011, 16:29
หยินหยาง's Avatar
หยินหยาง หยินหยาง ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่จักรวาล
 
วันที่สมัครสมาชิก: 06 มกราคม 2007
ข้อความ: 2,921
หยินหยาง is on a distinguished road
Default

มาช่วยให้วุ่นไปอีกครับ

ท่านเล็กปีเถาะครับ โจทย์ข้อนี้จะเห็นว่ามีตัวคงที่ที่ไม่ทราบค่า 4 ตัวคือ $a, b, c, d$ และโจทย์ให้หาค่าของ $f(-1)-5f(3)+4f(4)$ จะเห็นว่าถ้าเราแทนค่าตามที่โจทย์ต้องการแล้วมันก็ยังติดตัวคงที่อยู่ดี คนออกโจทย์จึงสร้างเงื่อนไขเพื่อให้ได้คำตอบ เป็นค่าที่แน่นอน โดยกำหนดให้ว่า
ถ้า แทน $ x = 1 ,f(1) = \sin \theta = 1+a+b+c+d$
ถ้า แทน $ x = 2 ,f(2) = 2 \sin \theta = 16+8a+4b+2c+d$
ถ้า แทน $ x = 3 ,f(3) =3 \sin \theta = 81+27a+9b+3c+d$
แต่ถ้าแทน $ x = 4 ,f(4) = 256+64a+16b+4c+d$

ดังนั้นถ้าเราแทนค่าตามที่โจทย์ถามก็จะหาคำตอบได้ยากอยู่ดีเทคนิคที่เค้ามักทำกันก็คือสร้างฟังก์ชั่นใหม่ตามเงื่อนไขของโจทย์โดยที่ยัง มีความหมายและค่าเหมือนเดิม ก็คือทำแบบความเห็นข้างบนที่ได้แสดงไว้แล้วฟังก์ชั่นใหม่ที่สร้างขึ้นมาก็คือ

$f(x)=(x-1)(x-2)(x-3)(x-k)+x \sin\theta = f(x)=x^4+ax^3+bx^2+cx+d$
จะเห็นว่าเมื่อแทนค่า $x$เป็นค่าอะไรก็ตามก็ยังตรงตามเงื่อนไขโจทย์ครับ

วุ่นพอมั้ยครับท่านเล็กปีเถาะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 23 ตุลาคม 2011, 18:09
PP_nine's Avatar
PP_nine PP_nine ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 เมษายน 2010
ข้อความ: 607
PP_nine is on a distinguished road
Default

โดเมนไม่ต้องห่วงครับ เพราะ $f$ เป็นพหุนามดีกรี 4 ที่มีโดเมนบนจำนวนจริงอยู่แล้ว (ทำให้ $p$ เป็นดีกรี 4 ด้วย)

โดยมีเงื่อนไขพิเศษ บลาๆๆ อย่างที่คุณหยินหยางได้อธิบายแล้วไงครับๆ
__________________
keep your way.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 23 ตุลาคม 2011, 20:18
lek2554's Avatar
lek2554 lek2554 ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กันยายน 2010
ข้อความ: 1,035
lek2554 is on a distinguished road
Default

ขอบคุณท่านซือแป๋ และน้อง ๆ ครับ

ผมเข้าใจผิดไปเองครับ ไปมองเงื่อนไข $f(n)=nsin\theta ,n=1,2,3$ ว่าเป็นฟังก์ชันใหม่ $g(x)=xsin\theta ,x=1,2,3$

ทำให้มองการสร้าง $f(x)=p(x)+xsin\theta $ ว่าเป็นเรื่องพีชคณิตของฟังก์ชัน ซึ่ง $D_{p+g}=D_p\cap D_g$

จริง ๆ แล้วเป็นเพียงเทคนิคการสร้างฟังก์ชันให้ได้ตามเงื่อนไขที่โจทย์กำหนด

และค่าของ $f(-1),f(4)$ จะต้องอยู่ในรูป $sin\theta $

เนื่องจากเมื่อแทนค่าตามที่ท่านซือแป๋แสดงให้ดู แล้วแก้สมการ ค่าของ $a,b,c,d$ จะอยู่ในรูป $sin\theta $

ไม่เคยใช้เทคนิคนึ้เลย งง ครับ

แล้วถ้าผมให้ $f(x)=x^3+bx^2+cx+d$ เมื่อ $a,b$ และ $c$ เป็นค่าคงตัว โดยที่ $f(1)=2012$ และ $f(2)=2555$ แล้วตั้งคำถามให้ได้คำตอบเป็นค่งคงตัว จะมีเทคนิคไหม๊ครับ

อันนี้ตั้งโจทย์เล่น ๆ นะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 01:35


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha