5 อันดับน่าลงทุนจากแหล่งรับซื้อโอเมก้ามือสอง

[admeadme]

มองหาแหล่งรับซื้อโอเมก้าสำหรับการลงทุน

ถ้าหากคุณต้องการลงทุนในนาฬิกา Omega หรือมองหาแหล่งลงทุน ร้านรับซื้อนาฬิกา Omega ที่ให้ราคาดี มีการประเมินราคาที่เป็นธรรม ขอแนะนำให้เริ่มต้นมองหาแหล่งรับซื้อโอเมก้าที่น่าเชื่อถือ มีหน้าร้าน และมีประสบการณ์ยาวนานในการเปิดร้านรับซื้อ Omega เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถเป็นตัวการันตีคุณภาพของร้านรับซื้อโอเมก้า หรือนาฬิกาแบรนด์เนมหรูต่าง ๆ ได้


ทำไมถึงต้องมองหาแหล่งรับซื้อโอเมก้าเพื่อการลงทุน

เนื่องจากนาฬิกา Omega ได้รับความนิยมในแวดวงนาฬิกาไม่น้อยไปกว่านาฬิกาแบรนด์หรูรุ่นอื่น ๆ ซึ่งก็ถือว่ามีโอกาสสูงที่นาฬิกาบางรุ่นของ Omega จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปในตลาดรับซื้อโอเมก้า โดย TimeThai เป็น 1 ในแหล่งรับซื้อโอเมก้าที่ตอบโจทย์สำหรับการลงทุนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเรามีนาฬิกา Omega มือสองหลายรุ่น หลากหลายสไตล์ที่ได้รับการคัดเลือก และประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าคุณจะมองหารุ่นยอดฮิต น่าลงทุน อย่าง Omega Seamaster มือสอง หรือจะเป็นกลุ่ม Speedmaster ที่ “TimeThai” ร้านรับซื้อ Omega ของเราพร้อมให้เยี่ยมชมผ่านหน้าร้านแล้ววันนี้

Omega 5 รุ่นยอดนิยมสำหรับการลงทุน

Omega เป็นนาฬิการะดับพรีเมียมที่มีชื่อเสียง และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตนาฬิกาชาวสวิสที่เก่าแก่ที่สุด ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่สร้างชื่อเสียง รวมถึงยังเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่สวมใส่บนดวงจันทร์ การเดินทางหลายครั้งสู่อวกาศ การเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และการปรากฏตัวในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์หลายเรื่อง ทำให้กลายเป็นแบรนด์ที่นักสะสม นักลงทุนต่างให้ความสนใจในตลาดรับซื้อนาฬิกา Omega เพราะผลตอบแทนที่ประสบความสำเร็จหลายชิ้นจากแบรนด์นี้ โดยทั่วไปแล้วการลงทุนในนาฬิกาสุดหรูเป็นวิธีการออมที่ทำกำไรและสามารถสร้างกำไรได้ในอนาคต แน่นอนว่านักลงทุนทุกคนต่างมองหาผลตอบแทนจากการลงทุน และนาฬิกา Omega เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุน ซึ่งรุ่นไหนบ้างที่น่าลงทุน ตามไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยด้านล่างนี้

1. Omega Speedmaster “Snoopy” (Ref. 3578.51.00)

Omega Speedmaster “Snoopy” เป็นหนึ่งใน Omega Limited Edition ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดรับซื้อโอเมก้ามือสอง โดยจะมีทั้งหมด 3 รุ่น ซึ่งรุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2003 Omega ได้เปิดตัวเพื่อระลึกถึงภารกิจ Apollo 13 Omega Speedmaster “Snoopy” Ref. 3578.51.00 เปิดตัวแบบจำนวนจำกัดเพียง 5,441 ชิ้น หมายเลขการผลิตหมายถึงระยะเวลาของภารกิจอพอลโล 13 (142 ชั่วโมง 54 นาทีและ 41 วินาที) ซึ่งหน้าปัดย่อยทั้ง 3 อัน ที่ตำแหน่ง 9 มีเหรียญเงินนูนขึ้น เป็นรูป Snoopy อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่น พร้อมกับประโยค “Eyes on the Stars” ส่วนรุ่นที่ 3 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2020 เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 50 ปีที่แบรนด์ Omega ได้รับรางวัล Silver Snoopy Award ดังนั้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองกับรางวัลนี้ ทางแบรนด์จึงได้เปิดตัว OMEGA รุ่นพิเศษ อย่าง รุ่น Speedmaster ‘Silver Snoopy Award’ 50th Anniversary

2. Omega Seamaster 300 SPECTRE (Ref. 233.32.41.21.01.001)

Omega Seamaster 300 SPECTRE คือนาฬิกา James Bond รุ่น Limited Edition ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นนาฬิกาที่ดีที่สุดจนถึงปัจจุบัน รุ่นนี้เปิดตัวในปี 2015 เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัว “Spectre” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ James Bond เรื่องที่สี่ที่นำแสดงโดย Daniel Craig แม้ว่าจะไม่ได้ขายหมดในทันทีทั้งหมด 7,007 ชิ้น แต่ความต้องการและราคาสำหรับนาฬิกาพิเศษเรือนนี้เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาตามแหล่งรับซื้อนาฬิกา Omega โดย Omega Seamaster SPECTER แตกต่างจากรุ่นมาตรฐาน Omega Seamaster 300 ในยุคเดียวกัน ซึ่งมีการเปลี่ยนหน้าปัด ถอดตัวเลข "12" และขยับโลโก้ขึ้นเล็กน้อย นอกจากนี้ ขอบหน้าปัดไม่ใช่กรอบดำน้ำทั่วไป สามารถติดตามเขตเวลาที่สองได้ และหากคุณหมุนนาฬิกาไปรอบ ๆ ก็จะพบข้อความว่า "SPECTRE"

3. Omega Speedmaster First OMEGA in Space (Ref. 311.32.40.30.01.001)

Omega Speedmaster First OMEGA in Space เคยเป็นส่วนหนึ่งของ Omega Speedmaster Heritage ซึ่ง Speedmaster FOIS ได้ถูกยุติการผลิตไปแล้ว อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ก็เป็นที่ต้องการสูงเช่นกัน นาฬิกาเปิดตัวครั้งแรกที่ Baselworld 2012 Omega Speedmaster สุดคลาสสิกนี้มาพร้อมตัวเรือนสแตนเลสขนาด 39.7 มม. และตัวเชื่อมแบบตรง ดังนั้นจึงมีขนาดเล็กกว่า Moonwatch ขนาด 42 มม. ราคาสำหรับ Speedmaster รุ่นพิเศษที่มีหมายเลขบน Chrono24 จะอยู่ระหว่าง 5,000 ถึง 7,000 ดอลลาร์ หากสามารถซื้อได้ในราคาที่เหมาะสม เมื่อเวลาผ่านไปจะมีราคาสูงขึ้นในร้านรับซื้อ Omega


4. Omega Speedmaster “Speedy Tuesday” (Ref. 311.32.42.30.01.001)

Omega Speedmaster “Speedy Tuesday” เป็นนาฬิการุ่นแรกในสองรุ่นของ Speedmaster ที่ Omega เปิดตัวพร้อมกับนิตยสารนาฬิกาออนไลน์ ซึ่งในปี 2012 Robert-Jan Broer ของ Fratello ได้เริ่มคอลัมน์รายสัปดาห์เกี่ยวกับ Omega Speedmasters ที่เรียกว่า "Speedy Tuesday" และได้เริ่มใช้แฮชแท็ก #SpeedyTuesday บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ทำให้คำศัพท์นี้เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมนาฬิกาอย่างรวดเร็ว และเนื่องในโอกาสครบรอบ 5 ปีของ #SpeedyTuesday ได้มีการปรับโฉม Speedmaster “Alaska Project III” รุ่นปี 1978 ให้ป้องกันแสงสะท้อนและอ่านง่าย มาพร้อมตัวเรือนแบบด้านและตัวเลขเรเดียลขนาดใหญ่บนหน้าปัดย่อย โดยหน้าปัดย่อยมีสีเงินโอปาลีน สีขาวตัดกับหน้าปัดสีดำ ล้อมรอบด้วยวงแหวนขอบตัวเรือนอะลูมิเนียมสีดำ ตำแหน่งบอกชั่วโมงเคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova เครื่องหมาย และหน้าปัดย่อยทั้งหมดเคลือบด้วยหมึกเรืองแสง มีโลโก้ OMEGA ตรงกลางบนคริสตัลเฮซาไลต์ทรงโดม ฝาหลังแบบขันเกลียวล้อมรอบด้วยคำว่า

5. Omega Seamaster 300 “The 1957 Trilogy” Ref. 234.10.39.20.01.001

Omega Seamaster 300 “The 1957 Trilogy” ได้ถูกเปิดในปี 2017 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของรุ่น Speedmaster, Seamaster และ Railmaster โดย Omega Seamaster 300 เป็นรุ่นที่นิยมอีกรุ่นหนึ่งที่นำจุดเด่นของ Seamaster 300 ตัวแรกกลับมาใช้อีกครั้ง ขนาดหน้าปัดในรุ่นใหม่นี้จะเล็กกว่า Seamaster 300 รุ่นแรกเล็กน้อย โดยรุ่นนี้จะยังคงมีสัญลักษณ์ Naïad บนเม็ดมะยม เช่นเดียวกับนาฬิกาทั้งสามรุ่นในรุ่น Trilogy ตัวเรือนทำจากสแตนเลสขัดเงา และมีหน้าปัด 'Tropical' สีดำ สายนาฬิกาสเตนเลสสตีลได้รับการปรับปรุงให้มีความแข็งแรง และมีโลโก้ OMEGA แบบย้อนยุคบนตัวล็อก ตัวกลไกเป็น Master Chronometer 8806 ซึ่งหน้าปัด ขอบหน้าปัด และสายนาฬิกาได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์วินเทจ

นักสะสมนาฬิกาส่วนใหญ่มองว่านาฬิกาโอเมก้าเป็นนาฬิกาที่ "ต้องมี" และจากราคา Omega มือสองที่สูงขึ้น ก็ถือเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีว่านาฬิกาแต่ละรุ่นของ Omega มีความต้องการสูงในตลาดรับซื้อโอเมก้านั่นเอง

“ค้นหานาฬิกา Omega ที่ใช่ ไว้ใจ TimeThai แหล่งรับซื้อนาฬิกา Omega ร้านรับซื้อ Omega ที่มาพร้อมบริการรับซื้อโอเมก้ามือสอง ประเมินราคาอย่างเป็นธรรม”

[gallon6341]

อันนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจมากๆ ลงทุนได้ดี Joker Gaming