Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > ข้อสอบโอลิมปิก
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #61  
Old 27 กรกฎาคม 2008, 13:30
Anonymous314's Avatar
Anonymous314 Anonymous314 ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 16 มีนาคม 2008
ข้อความ: 546
Anonymous314 is on a distinguished road
Default

เจอวิธีพิสูจน์แล้วครับ ขอบคุณครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #62  
Old 01 สิงหาคม 2008, 23:49
owlpenguin's Avatar
owlpenguin owlpenguin ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 มีนาคม 2008
ข้อความ: 386
owlpenguin is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ passer-by View Post
คุณ owlpenguin สุดยอดมากครับ ที่หาฟังก์ชันนี้ออกมาได้ในข้อ 8 แต่ยังมีคำตอบอื่นอีกนะครับที่ไม่ใช่ฟังก์ชันตรีโกณมิติ
อันนี้ได้ไหมครับ
$f(x)=\cases{\ln{2x}&, 0<x\leq\frac{1}{2}\cr -\ln(2-2x)&, \frac{1}{2}<x<1}$
อย่างน้อยก็แน่ใจว่าต่อเนื่องแน่ๆล่ะครับ แล้วก็ differentiable ทุกจุดในช่วง (0,1)
(กว่าจะคิดออกก็ใช้เวลาหลายวันแหละครับ)
ส่วนข้อ ข) นี่ คิดว่ามีคำตอบแน่ๆครับ เพราะจำนวนสมาชิกของ Domain กับ Range มันเท่ากัน (คือ $\aleph_1$ ทั้งคู่) ดังนั้นมันก็น่าจะมี 1-1 correspondence ล่ะครับ

01 สิงหาคม 2008 23:51 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ owlpenguin
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #63  
Old 02 สิงหาคม 2008, 00:01
Anonymous314's Avatar
Anonymous314 Anonymous314 ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 16 มีนาคม 2008
ข้อความ: 546
Anonymous314 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Anonymous314 View Post
ข้อ 9 ขอ hint หน่อยครับ รู้แต่สูตร
ถ้า O และ O' เป็นจุดศูนย์กลางของวงกลมล้อมรอบและวงกลมแนบใน จะได้ว่า กำหนดระยะห่าง O กับ O' เป็น $x$
$\frac{1}{r^2}=\frac{1}{(R+x)^2}+\frac{1}{(R-x)^2}$
ถ้าได้สูตรนี้ก็เสร็จ แต่จะพิสูจน์สูตรนี้อย่างไรครับ
พิสูจน์สูตรนี้ลองใช้การประกบรูปสามเหลี่ยมและปีทากอรัสและจัดรูปครับ ไม่ยากเลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #64  
Old 02 สิงหาคม 2008, 22:52
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ owlpenguin View Post
อันนี้ได้ไหมครับ
$f(x)=\cases{\ln{2x}&, 0<x\leq\frac{1}{2}\cr -\ln(2-2x)&, \frac{1}{2}<x<1}$

ส่วนข้อ ข) นี่ คิดว่ามีคำตอบแน่ๆครับ เพราะจำนวนสมาชิกของ Domain กับ Range มันเท่ากัน (คือ $\aleph_1$ ทั้งคู่) ดังนั้นมันก็น่าจะมี 1-1 correspondence ล่ะครับ
ฟังก์ชันนั้นใช้ได้ครับ เป็นแนวคิดที่ดีทีเดียว

ฟังก์ชันด้านล่างเป็นอีกตัวอย่างครับ (define บน (0,1))

$$ f(x) = \frac{2x-1}{1-|2x-1|}$$

ส่วนข้อ ข) exist แน่นอนครับ เพียงแต่ประเด็นคืออยากให้ยกตัวอย่างออกมาให้เห็นกันจะจะไปเลยว่า หน้าตาฟังก์ชันเป็นอย่างไร


p.s. ข้อ 16 - 25 น่าจะตามมาก่อนกำหนดที่ผมบอกไว้ เผื่อจะได้มีเวลาคิดเลขนานขึ้น
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #65  
Old 02 สิงหาคม 2008, 23:50
RoSe-JoKer's Avatar
RoSe-JoKer RoSe-JoKer ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤศจิกายน 2007
ข้อความ: 390
RoSe-JoKer is on a distinguished road
Default

ข้อ 10 (ความยาวต้องเป็นจำนวนเต็มด้วยนะครับ)
พิจารณาให้สี่เหลี่ยมทั้งหมดอยู่บนระนาบแกน $(x,y)$ โดยที่ต้องมีจุดยอดของสี่เหลี่ยมมุมฉากจุดนึงอยู่ที่ origin (ดูเฉพาะขนาด)
เห็นได้ว่าถ้าเรามีสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีจุดยอดอีกจุดคือ $(i,j)$ เราสามารถเทียบขนาดของสี่เหลี่ยมมุมฉากนี้ได้โดยการสลับแกน $(x,y)=(y,x)$
นั้นคือ สำหรับสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีจุดยอด 1 จุดคือ $(i,j)$ สามารถพลิกและนำไปเทียบกับสี่เหลี่ยมที่มีจุดยอดที่ $(j,i)$ ได้
นั้นคือสำหรับสี่เหลี่ยมมุมฉาก 1 รูปใดๆที่มีจุดยอด 1 จุดคือ $(i,j)$
พิจารณาเฉพาะแกน x เหมือนเราได้เลือกจุดในแกน x ไป 2 จุดคือ i กับ j ให้เป็นพิกัดของแกน x
เลือกสี่เหลี่ยมมุมฉากมา 2551 รูปเหมือนเราเลือกจุดไปทั้งหมด 5102 จุดในแกน x ที่มีจุดในระนาบ 2550 จุด
โดยหลักรังนกพิราบจะได้ว่ามีสี่เหลี่ยมมุมฉากอย่างน้อย 3 รูป ที่เมื่อพลิกหรือทำยังไงก็ตามสามารถทำให้มีความยาวในแนวแกน x เท่ากัน
สมมุติให้เป็น i นั้นคือสี่เหลี่ยมมุมฉากทั้งสามอาจมีจุดยอดอีก 1 จุดที่ $(i,k_1)(i,k_2)(i,k_3)$ซึ่งก็สามารถหา A,B,C ตามกำหนดได้โดยดูจากขนาดแกน y


-------
ขอถามอะไรเกี่ยวกับข้อ 11 หน่อยนะครับผมคิดว่า
PD+PE จะสั้นสุดก็ต่อเมื่อมุมที่มันทำระหว่างกันเข้าใกล้ 180 องศา ว่าแต่มันจะคิดยังไงครับผมคิดว่าโจทย์อาจจะผิดแต่ถ้าไม่ผิด ผมขอ hint เพิ่มทีครับ
__________________
Rose_joker @Thailand
Serendipity

04 สิงหาคม 2008 11:16 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ RoSe-JoKer
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #66  
Old 03 สิงหาคม 2008, 00:32
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ passer-by View Post

8. (i) ยกตัวอย่างฟังก์ชัน 1-1 ทั่วถึง จาก (0,1) ไปยังเซตของจำนวนจริง
(ii) ยกตัวอย่างฟังก์ชัน 1-1 ทั่วถึง จาก [0,1) ไปยัง (0,1)
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #67  
Old 04 สิงหาคม 2008, 04:24
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ RoSe-JoKer View Post
ข้อ 10 (ความยาวต้องเป็นจำนวนเต็มด้วยนะครับ)
พิจารณาให้สี่เหลี่ยมทั้งหมดอยู่บนระนาบแกน $(x,y)$ โดยที่ต้องมีจุดยอดของสี่เหลี่ยมมุมฉากจุดนึงอยู่ที่ origin (ดูเฉพาะขนาด)
เห็นได้ว่าถ้าเรามีสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีจุดยอดอีกจุดคือ $(i,j)$ เราสามารถเทียบขนาดของสี่เหลี่ยมมุมฉากนี้ได้โดยการสลับแกน $(x,y)=(y,x)$
นั้นคือ สำหรับสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีจุดยอด 1 จุดคือ $(i,j)$ สามารถพลิกและนำไปเทียบกับสี่เหลี่ยมที่มีจุดยอดที่ $(j,i)$ ได้
นั้นคือสำหรับสี่เหลี่ยมมุมฉาก 1 รูปใดๆที่มีจุดยอด 1 จุดคือ $(i,j)$
พิจารณาเฉพาะแกน x เหมือนเราได้เลือกจุดในแกน x ไป 2 จุดคือ i กับ j ให้เป็นพิกัดของแกน x
เลือกสี่เหลี่ยมมุมฉากมา 2551 รูปเหมือนเราเลือกจุดไปทั้งหมด 5002 จุดในแกน x ที่มีจุดในระนาบ 2550 จุด
โดยหลักรังนกพิราบจะได้ว่ามีสี่เหลี่ยมมุมฉากอย่างน้อย 3 รูป ที่เมื่อพลิกหรือทำยังไงก็ตามสามารถทำให้มีความยาวในแนวแกน x เท่ากัน
สมมุติให้เป็น i นั้นคือสี่เหลี่ยมมุมฉากทั้งสามอาจมีจุดยอดอีก 1 จุดที่ $(i,k_1)(i,k_2)(i,k_3)$ซึ่งก็สามารถหา A,B,C ตามกำหนดได้โดยดูจากขนาดแกน y


-------
ขอถามอะไรเกี่ยวกับข้อ 11 หน่อยนะครับผมคิดว่า
PD+PE จะสั้นสุดก็ต่อเมื่อมุมที่มันทำระหว่างกันเข้าใกล้ 180 องศา ว่าแต่มันจะคิดยังไงครับผมคิดว่าโจทย์อาจจะผิดแต่ถ้าไม่ผิด ผมขอ hint เพิ่มทีครับ
ข้อ 10 ถูกแล้วครับ (สำหรับใครที่ยังไม่ได้ลองคิด ยังมีอีกวิธีนะครับ ใช้รังนกพิราบเหมือนกัน แต่อธิบายอีกรูปแบบนึง)

แล้วก็ 5002 ควรจะเป็น 5102 ครับ ส่วนเรื่อง ความยาวเป็นจำนวนเต็ม ผมไปแก้ให้แล้วนะ

สำหรับข้อ 11
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว

04 สิงหาคม 2008 14:14 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ passer-by
เหตุผล: add more hint
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #68  
Old 04 สิงหาคม 2008, 14:13
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default

สำหรับน้อง Rose-joker ที่ถามมา ผมเรียบเรียง โจทย์ข้อ 11 ใหม่แล้วนะครับ ตอนแรกผมสลับประโยคผิดไปหน่อย เลยทำให้การสื่อสารผิดไปเยอะเลย ส่วน hint ใส่ไว้ให้ในความเห็นก่อนหน้าแล้วนะครับ
-------------------------------------------------------------------------------

ต่อด้วยข้อ 16-25 ครับ (อาจจะมีตามมาอีกเร็วๆนี้)

16. สามเหลี่ยม ABC มี $ \frac{\sin C}{\sin B } = \frac{\sin(\frac{B-C+2A}{4})}{\sin(\frac{C-B+2A}{4})}$ พิสูจน์ว่าสามเหลี่ยมนี้เป็นสามเหลี่ยมหน้าจั่ว

17. ถ้าผลคูณของจำนวนนับ 45 จำนวน มีตัวประกอบที่เป็นจำนวนเฉพาะบวกเพียงแค่ 10 จำนวนเท่านั้น พิสูจน์ว่า สามารถเลือกจำนวน k จำนวนจาก 45 จำนวนนี้ โดยผลคูณของ k จำนวนเป็น perfect square และ $ k \in \{1,2,3,4\} $

18. สี่เหลี่ยม ABCD เป็น cyclic M,N เป็นจุดกึ่งกลาง AC, BD ตามลำดับ ถ้า AC แบ่งครึ่งมุม BMD พิสูจน์ว่า BD แบ่งครึ่งมุม ANC

19. ให้ p เป็นจำนวนเฉพาะ หาจำนวนนับ a,b,c,p ทั้งหมดที่สอดคล้องกับ $ \frac{1}{p}= \frac{1}{a^2}+\frac{1}{b^2}+\frac{1}{c^2}$

20. ให้ $A= 2008^{2550}+2008^{2549}+2008^{2548}+\cdots+2008^1 +1 $ หาเศษทั้งหมดที่เป็นไปได้จากการหารตัวประกอบที่เป็นบวกของ A ด้วย 2551

21. พิสูจน์ว่าไม่มีจำนวนนับ n ที่ทำให้ $ x^n+x-1 $ หารลงตัวด้วย $ x^3-x+1$

22. (ขอไม่แปลนะครับ เดี๋ยวจะงงกว่าเดิม) How many ways are there to arrange 5 identical red, 5 identical blue and 5 identical green marbles in a straight line such that every marble is adjacent to at least one marble of the same color as itself ?

23. จุด 50 จุดบนเส้นรอบวง ถูก label ตามใจชอบด้วยเลข 1-50 ไม่ซ้ำกัน โดยทุกคอร์ดที่เชื่อมจุดเหล่านี้ ถูกทาสี 1 สีจาก 4 สีที่กำหนด พิสูจน์ว่ามีคอร์ด 7เส้นที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้พร้อมกัน
(1) นำเลขที่ label ไว้ที่จุดปลายคอร์ดทั้ง 7 เส้นมาบวกกัน ได้ผลลัพธ์เป็นเลขคี่
(2) คอร์ดทั้ง 7 เส้นไม่ตัดกัน แต่ทาสีเดียวกัน

24. สามเหลี่ยมด้านเท่า ABC ตัดวงกลมวงหนึ่งที่ D,E,F,G,H,J โดย
- D, E เป็นจุดตัดบน AB (D ใกล้ A มากกว่า B)
- F, G เป็นจุดตัดบน BC (F ใกล้ B มากกว่า C)
- H, J เป็นจุดตัดบน AC (H ใกล้ C มากกว่า A)
ถ้าพื้นที่สามเหลี่ยมด้านเท่า เท่ากับ $ 50 \sqrt{3} $ ตารางเซนติเมตร หาค่า $AJ+BE+CG$ ที่ทำให้ $ (AD+BF+CH)^2 +(DE+FG+HJ)^2 $ มีค่าน้อยสุด

25. หาค่า $ \binom{2008}{1003}-\binom{2008}{1004}+ \binom{2008}{1005}-\cdots -\binom{2008}{2008} $
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #69  
Old 04 สิงหาคม 2008, 23:11
Anonymous314's Avatar
Anonymous314 Anonymous314 ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 16 มีนาคม 2008
ข้อความ: 546
Anonymous314 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ passer-by View Post
19. ให้ p เป็นจำนวนเฉพาะ หาจำนวนนับ a,b,c,p ทั้งหมดที่สอดคล้องกับ $ \frac{1}{p}= \frac{1}{a^2}+\frac{1}{b^2}+\frac{1}{c^2}$
Hint : พยายามพิสูจน์ว่า $p|a,b,c$ ครับ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #70  
Old 05 สิงหาคม 2008, 17:11
dektep's Avatar
dektep dektep ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 มีนาคม 2007
ข้อความ: 580
dektep is on a distinguished road
Default

See here :
http://www.mathlinks.ro/viewtopic.php?t=215057
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #71  
Old 05 สิงหาคม 2008, 21:32
Anonymous314's Avatar
Anonymous314 Anonymous314 ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 16 มีนาคม 2008
ข้อความ: 546
Anonymous314 is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ dektep View Post
ไม่ยอมให้คนอื่นคิดก่อนเลยนะครับ คุณ dektep มี sol อื่นหรือเปล่าครับ
ปล. รู้สึกคุณ dektep จะเิอาแต่โพสต์ลิงค์นะครับ

05 สิงหาคม 2008 21:42 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Anonymous314
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #72  
Old 05 สิงหาคม 2008, 22:05
dektep's Avatar
dektep dektep ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 มีนาคม 2007
ข้อความ: 580
dektep is on a distinguished road
Default

พอดีมันเห็นผ่านตามานะครับ เลยเอามาโพสต์ 555

05 สิงหาคม 2008 22:06 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ dektep
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #73  
Old 06 สิงหาคม 2008, 22:38
HankTon HankTon ไม่อยู่ในระบบ
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 05 กุมภาพันธ์ 2006
ข้อความ: 9
HankTon is on a distinguished road
Default

มีเฉลยอีกมั้ยครับ

06 สิงหาคม 2008 22:41 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ HankTon
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #74  
Old 06 สิงหาคม 2008, 22:43
Tohn's Avatar
Tohn Tohn ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 26 มกราคม 2008
ข้อความ: 58
Tohn is on a distinguished road
Send a message via MSN to Tohn
Default

25.) พิจารณาผลบวก
$$\sum_{k=0}^{n}(-1)^k\binom{2n}{n+k}=\frac{1}{2}\sum_{k=0}^{n}(-1)^k2\binom{2n}{n+k}=\frac{1}{2}\binom{2n}{n}+\sum_{k=0}^{2n}(-1)^k\binom{2n}{k}=\frac{1}{2}\binom{2n}{n}$$
เนื่องจาก $$\binom{2n}{n-1}-\sum_{k=0}^{n}(-1)^k\binom{2n}{n+k}=\binom{2n}{n-1}-\frac{1}{2}\binom{2n}{n}=\frac{n-1}{2(n+1)}\binom{2n}{n}$$
ดังนั้น คำตอบคือ$\frac{1003}{2010}\binom{2008}{1004}$
__________________
I'm kak.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #75  
Old 07 สิงหาคม 2008, 05:18
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Tohn View Post
ดังนั้น คำตอบคือ$\frac{1003}{2010}\binom{2008}{1004}$
simplify ได้อีกครับ สุดท้ายจะกลายเป็น $ \binom{2007}{1002} $
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 15:40


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha