Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์มัธยมศึกษา > ปัญหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 05 พฤศจิกายน 2007, 01:09
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Smile 100 โจทย์คณิต พิชิต Admission

หนังสือรวมข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยของญี่ปุ่น คล้ายๆกับหนังสือรวมข้อสอบเข้าม.ต้นของญี่ปุ่น แต่เป็นระดับชั้นที่สูงกว่า เพิ่งพิมพ์ครั้งแรก 1 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมานี่เอง ผมซื้อมาได้ครึ่งเดือนละ เพิ่งจะมีโอกาสลองทำเป็นบางข้อ เหมาะสำหรับเอาไว้ลับสมองเพื่อความมันดีครับ

Name:  100 Problems for Admission.jpg
Views: 2423
Size:  45.3 KB

ตัวอย่างโจทย์

จำนวนและสมการ
  • โจทย์ข้อที่ 1 (Doshisha University, Faculty of Law, 1981)

    แบ่งจำนวนเต็มตั้งแต่ 1 ถึง 12 ออกเป็น 2 กลุ่ม ให้เป็นกลุ่ม A และ กลุ่ม B แต่ละกลุ่มมีตัวเลขกลุ่มละ 6 ตัว สมมติให้ตัวเลขในกลุ่ม A เป็น $a_1 , a_2 , a_3 , a_4 , a_5 , a_6$ และตัวเลขในกลุ่ม B เป็น $b_1 , b_2 , b_3 , b_4 , b_5 , b_6$ ถ้าตัวเลข $b_1 , b_2 , b_3 , b_4 , b_5 , b_6$ มีตัวที่มีค่าน้อยกว่า $a_1$ อยู่เป็นจำนวน $m_1$ ตัว และในทำนองเดียวกันถ้าตัวเลขในกลุ่ม B มีตัวเลขที่มีค่าน้อยกว่า $a_2 , a_3 , a_4 , a_5 , a_6$ แต่ละกรณีเป็นจำนวน $m_2 , m_3 , m_4 , m_5 , m_6$

    จงแสดงให้เห็นว่า $(a_1 + a_2 + a_3 + a_4 + a_5 + a_6) - (m_1 + m_2 + m_3 + m_4 + m_5 + m_6)$ จะมีค่าคงที่เสมอ ไม่ขึ้นอยู่กับวิธีการที่ใช้แบ่งตัวเลขเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่ม A และกลุ่ม B

  • โจทย์ข้อที่ 2 (Tokyo University, First Round Examination, 1971)

    ตัวเลขที่ถูกต้องสำหรับเติมในช่อง $\square$ ด้านล่างคือตัวเลขอะไร
    $a , b$ เป็นจำนวนจริง จากสมการกำลังสอง
    (1) $x^2 + ax + b = 0$ และ (2) $ax^2 + bx + 1 = 0$
    ถ้าสมการทั้งสองมีรากเป็นจำนวนจริงเป็น $\lambda$ ร่วมกันแล้ว $\lambda = \square$ และ $a + b = \square$ แต่หากสมการทั้งสองมีรากที่ไม่ใช่จำนวนจริงแล้ว $a = \square$ และ $b = \square$ (หมายเหตุผู้เขียน: รากหมายถึงคำตอบของสมการ)

  • โจทย์ข้อที่ 3 (Kinki University, School of Business Administration, 1984)

    บนเส้นกราฟพาราโบลา $y = x^2$ กำหนดจุด 2 จุด $A (a, a^2)$ และ $B (b, b^2)$ โดยที่ $a > b$ จงหาเงื่อนไขของ $a, b$ ที่ทำให้บนเส้นกราฟพาราโบลานี้มีจุด $C$ ซึ่ง $\angle ACB = 90^{\circ}$

  • โจทย์ข้อที่ 4 (Tohoku University, 1976)

    กำหนดให้สมการกำลังสอง $x^2 + ax + b = 0$ มีคำตอบเป็นจำนวนเต็ม 2 ตัว ที่มีค่าเรียงต่อกัน และสมการกำลังสอง $x^2 + bx + a = 0$ มีคำตอบเป็นจำนวนเต็มที่เป็นบวก จงหาค่าของ $a, b$

  • โจทย์ข้อที่ 5 (Tokyo Institute of Technology, 1974)

    กำหนดให้ $y = \frac{3}{4}x^2 - 3x + 4$ ในช่วง $a \leq x \leq b$ $(0 < a < b)$ จะมีค่า $a \leq y \leq b$ จงหาค่าของ $a, b$
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.

05 พฤศจิกายน 2007 01:11 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ TOP
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 05 พฤศจิกายน 2007, 20:16
kanakon's Avatar
kanakon kanakon ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 31 ตุลาคม 2006
ข้อความ: 523
kanakon is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ TOP View Post
[*]โจทย์ข้อที่ 4 (Tohoku University, 1976)
กำหนดให้สมการกำลังสอง $x^2 + ax + b = 0$ มีคำตอบเป็นจำนวนเต็ม 2 ตัว ที่มีค่าเรียงต่อกัน และสมการกำลังสอง $x^2 + bx + a = 0$ มีคำตอบเป็นจำนวนเต็มที่เป็นบวก จงหาค่าของ $a, b$[/list]
ผมลองตีความใหม่ดูแล้วน่าจะใช่นะครับ
ลองอีกทีนะครับเป็นบางคำตอบนะครับอาจจะมีอีก $(a,b)=(-1,0) ,(-3,2)$
__________________
ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ

$$|I-U|\rightarrow \infty $$

05 พฤศจิกายน 2007 21:33 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 5 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ kanakon
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 06 พฤศจิกายน 2007, 18:30
kanakon's Avatar
kanakon kanakon ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 31 ตุลาคม 2006
ข้อความ: 523
kanakon is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ TOP View Post

ตัวอย่างโจทย์
  • โจทย์ข้อที่ 3 (Kinki University, School of Business Administration, 1984)

    บนเส้นกราฟพาราโบลา $y = x^2$ กำหนดจุด 2 จุด $A (a, a^2)$ และ $B (b, b^2)$ โดยที่ $a > b$ จงหาเงื่อนไขของ $a, b$ ที่ทำให้บนเส้นกราฟพาราโบลานี้มีจุด $C$ ซึ่ง $\angle ACB = 90^{\circ}$
เงื่อนไขคือ $|a-b|\geq 2$
__________________
ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ

$$|I-U|\rightarrow \infty $$

06 พฤศจิกายน 2007 19:58 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 4 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ kanakon
เหตุผล: ตามคุณ nongtum
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 06 พฤศจิกายน 2007, 18:47
nongtum's Avatar
nongtum nongtum ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 เมษายน 2005
ข้อความ: 3,246
nongtum is on a distinguished road
Default

#3
a-b=2 ได้ครับ เช่น A(1,1), B(-1,1) จะมีจุด C(0,0) ที่สอดคล้องเงื่อนไขครับ อีกอย่างโจทย์บังคับ a>b อยู่แล้วครับ

ข้อ 2 เขียน $x^2+ax+b=(x-\lambda)(x-b/\lambda)$ แล้วกระจายจะได้ $a=-(\lambda+b/\lambda)$ แทน $a,\lambda$ ในอีกสมการจะได้ว่า
ในกรณีที่สมการมีรากเป็นจำนวนจริง $\lambda=1$ และั $a+b/\lambda=a+b=-\lambda=-1$
แต่หากสมการมีรากเป็นจำนวนเชิงซ้อน สมการที่สอดคล้องคือ $x^2-x+1=0$ ซึ่งทำให้ $a=-1,\ b=1$
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ
ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ)

Stay Hungry. Stay Foolish.

07 พฤศจิกายน 2007 08:35 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nongtum
เหตุผล: เพิ่มแนวคิดข้อ 2
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 06 พฤศจิกายน 2007, 21:43
M@gpie's Avatar
M@gpie M@gpie ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 09 ตุลาคม 2003
ข้อความ: 1,227
M@gpie is on a distinguished road
Default

ผมว่ามันยากกว่า Admission ปกตินะครับเนี่ย น่าจะเป็นสอบตรง ของแต่ละมหาลัยรึเปล่าครับ ??
__________________
PaTa PatA pAtA Pon!
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 07 พฤศจิกายน 2007, 08:56
nongtum's Avatar
nongtum nongtum ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 เมษายน 2005
ข้อความ: 3,246
nongtum is on a distinguished road
Default

5. (หากผมอธิบายงงๆไปหน่อย ขออภัยด้วยครับ นึกไม่ออกว่าจะเรียบเรียงแนวคิดยังไงให้ดีกว่านี้ ยังไงรบกวนเช็คด้วยครับ)
สมการพาราโบลา $y(x) = \frac{3}{4}x^2 - 3x + 4=\frac{3}{4}(x-2)^2+1$ มีค่าต่ำสุดคือ 1
เราต้องการหาบริเวณ $[a,b]^2$ ที่ $y(x)$ surjective
$y(x)$ มี Fix Points (มี $c$ ที่ y(c)=c) ที่ c=4/3,4
เพราัะ $y(x)$ เป็นฟังก์ชันเพิ่มเมื่อ $x\ge 2$ และเป็นฟังก์ชันลดเมื่อ $x\le 2$
เมื่อ $x>2$ ค่า $y$ จะเพิ่มเร็วกว่าค่า $x$ ซึ่งไม่ทำให้เกิดสี่เหลี่ยมจัตุรัส (ต้องการ $y'(x)=1$)
สี่เหลี่ยมจัตุรัสนี้กว้าง 3 หน่วย ดังนั้น $x=1=a,\ b=4$ คือคำตอบ
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ
ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ)

Stay Hungry. Stay Foolish.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 07 พฤศจิกายน 2007, 23:12
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Smile

ผมลองทำเพียงโจทย์ข้อที่ 1 เท่านั้น ช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่มีเวลาคิดเลย คงอีกสักสองสัปดาห์กว่าจะว่างมาคิดต่อ

สำหรับการตรวจเช็คคำตอบจากหนังสือ (ยังไม่ได้ตรวจสอบวิธีคิด เพราะอยากจะคิดเองก่อน )

โจทย์ข้อที่ 2 กรณีที่รากไม่ใช่จำนวนจริง คำตอบที่ได้ยังไม่ตรงกับในหนังสือ
โจทย์ข้อที่ 3 มีเงื่อนไขมากกว่า $|a-b|\geq 2$ ครับ เพราะมันมีกรณียกเว้นที่ใช้เงื่อนไขนี้ไม่ได้
โจทย์ข้อที่ 4 ยังมีคำตอบอื่นอีก
โจทย์ข้อที่ 5 คำตอบถูกต้องครับ

ว่าแต่ ไม่มีใครสนใจลองคิดข้อ 1 ดูหรือครับ สนุกดีนะครับ
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 07 พฤศจิกายน 2007, 23:19
nongtum's Avatar
nongtum nongtum ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 เมษายน 2005
ข้อความ: 3,246
nongtum is on a distinguished road
Default

ข้อแรกเท่าที่ผมลองทด เพียงแค่แสดงว่า $\sum (a_i-m_i)=21$ สำหรับทุก combination ได้ก็จบครับ แต่ผมคิดได้เฉพาะ extreme case ยังคิดกรณีระหว่างกลางไม่ออก -_-'

ส่วนข้อสองกรณีรากไม่ใช่จำนวนจริง ตอนที่โพสต์ผมก็ไม่ค่้อยชัวร์นัก เดี๋ยวจะลองเช็คดูอีกที
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ
ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ)

Stay Hungry. Stay Foolish.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 08 พฤศจิกายน 2007, 12:16
จตุราชา's Avatar
จตุราชา จตุราชา ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 13 พฤษภาคม 2007
ข้อความ: 98
จตุราชา is on a distinguished road
Default

หนังสือเล่นนี้คุ้นๆๆเคยเห็นอยู่ร้านขายหนังสือ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 08 พฤศจิกายน 2007, 19:19
RedfoX's Avatar
RedfoX RedfoX ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 13 ตุลาคม 2006
ข้อความ: 182
RedfoX is on a distinguished road
Default

เอ เอาข้อความในหนังสือมาเปิดเผย งี้จะดีหรือครับ ระวังเรื่องลิขสิทธิ์นะครับ
__________________
ชอบคณิตศาสตร์ครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 08 พฤศจิกายน 2007, 22:46
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Smile

เรื่องลิขสิทธิ์หรือครับ ผมกลับมองว่านี่เป็นการช่วยโฆษณาให้หนังสือขายดียิ่งขึ้น โดยไม่เก็บค่าโฆษณามากกว่า โจทย์ที่เอามาก็เป็นเพียงตัวอย่าง(เขียนไว้ชัดเจนแล้วว่า ตัวอย่างโจทย์)ให้ดูว่า มันมีความน่าสนใจให้ไปหาซื้อมาอ่านขนาดไหน หากไม่ยกตัวอย่างให้ดู ผมคนหนึ่งละที่ไม่รู้จะไปหาซื้อมาทำไม เพราะคิดว่ามันก็คงเป็นโจทย์ระดับข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วไป ซ้ำซาก น่าเบื่อ
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 10 พฤศจิกายน 2007, 13:19
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Smile

โจทย์ข้อที่ 1 วิธีที่ผมคิดไว้นะครับ

เรียงตัวเลขในกลุ่ม A จากน้อยไปมาก สมมติเป็น $a_1 , a_2 , a_3 , a_4 , a_5 , a_6$ ตามลำดับ

เมื่อพิจารณาตัวเลขเรียงลำดับจาก 1 ถึง 12 จะมีหน้าตาออกมาลักษณะนี้
$\cdots , b , b , a_1 , b , b , \cdots , b , b , a_2 , b , b , \cdots$
เราจะพบว่า
$m_1 = a_1 - 1$
$m_2 = m_1 + a_2 - a_1 - 1 = a_2 - 2$
$m_3 = m_2 + a_3 - a_2 - 1 = a_3 - 3$
$m_4 = m_3 + a_4 - a_3 - 1 = a_4 - 4$
$m_5 = m_4 + a_5 - a_4 - 1 = a_5 - 5$
$m_6 = m_5 + a_6 - a_5 - 1 = a_6 - 6$
หรือ $a_k - m_k = k$ นั่นเอง
ดังนั้น $\displaystyle{\sum_{k = 1}^{6} (a_k - m_k) = 1 + 2 + 3 + 4 + 5 +6 = 21}$

สำหรับแนวคิดในหนังสือ

เริ่มต้นสมมติให้เรียงตัวเลขในกลุ่ม A แบบเดียวกับข้างบน
พิจารณาค่าของ $a_k$ เราจะพบว่า
มีตัวเลขในกลุ่ม A ที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ $a_k$ อยู่ $k$ ตัว
มีตัวเลขในกลุ่ม B ที่น้อยกว่า $a_k$ อยู่ $m_k$ ตัว (จากนิยามของ $m_k$)
จำนวนตัวเลขที่น้อยกว่าหรือเท่ากับ $a_k$ มีทั้งสิ้น $a_k$ ตัว
ดังนั้น $a_k = k + m_k$ หรือ $a_k - m_k = k$
จากนั้นก็ทำต่อแบบเดียวกับข้างบน
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply


หัวข้อคล้ายคลึงกัน
หัวข้อ ผู้ตั้งหัวข้อ ห้อง คำตอบ ข้อความล่าสุด
คะแนน MIN-MAX ของ Admission 50 ทุกสาขา sck ข่าวคราวแวดวง ม.ปลาย 10 07 กรกฎาคม 2007 02:56


กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 10:35


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha