Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์ทั่วไป > ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 20 พฤษภาคม 2004, 09:40
tana's Avatar
tana tana ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 31 มีนาคม 2001
ข้อความ: 145
tana is on a distinguished road
Post 1,2,3,4 มิติ

1. จุด เรามองไม่เห็นเพราะไม่มีขนาดใดๆเลย ( ที่เราเห็นจุดได้จากการวาดรูปนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า จุด จริงๆ )

2. เส้น เราก็มองไม่เห็น เพราะยาวอย่างเดียว ไม่มีความหนา

3. รูปทรง 3 มิติ เรามองเห็น ( ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามองเห็นในโลกนี้ คือ 3 มิติ )

4. 4 มิติ เราไม่สามารถวาดเป็นรูปออกมาได้

" อยากถามว่าตามที่ผมอธิบายมานี้ถูกรึเปล่าครับ ถ้าผิดตรงไหนก็ช่วยอธิบายให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ "
__________________
" จุดสูงสุด คือ เบื้องล่างที่ผ่านมา จุดสูงค่า คือ สิ่งใดหนอชีวี "
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 20 พฤษภาคม 2004, 15:57
warut warut ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 พฤศจิกายน 2001
ข้อความ: 1,627
warut is on a distinguished road
Smile

เห็นด้วยครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 21 พฤษภาคม 2004, 00:14
Rudolph Rudolph ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 23 เมษายน 2001
ข้อความ: 12
Rudolph is on a distinguished road
Post

เอ่อ คำถามนี้ไม่น่าจะหาคำตอบได้นะครับ
จุด เส้น หรือ ระนาบ ล้วนเป็นโครงสร้างในคณิตศาสตร์ซึ่งไม่สามารถมาแสดงตัวแบบตรง ๆ ได้ในโลกจริง ๆ ครับ

การที่เราจะมองเห็นของต่าง ๆ ก็ล้วนเกิดมาจากการที่แสงตกกระทบแล้วสะท้อนเข้าตาเราทั้งนั้น ถ้าจุดมองเห็นว่ามีตัวตนอยู่จริงก็จะต้องมีอย่างน้อย 1 อะตอม (ให้แสงสะท้อน) ซึ่งก็แสดงว่าจุดมีขนาด ก็จะขัดกับความสมมติฐานเบื้องต้น

ถ้าจุดมองไม่เห็น ก็แสดงว่าไม่มีอะไรให้สะท้อน ก็ไม่มี atom หรือ physical structure ใด ๆ ทั้งนั้น แสดงว่าจุดไม่มีตัวตน ซึ่งก็ไม่ใช่แน่ ๆ ครับ (จุดอาจจะเป็นหลุมดำขนาดเล็กมากกกกก :-> )

แต่ผมก็เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ถามนะครับ ที่เข้าใจว่าจุดไม่มีขนาด (หรือมองว่ามีขนาดแต่ขนาดเล็กกกก แบบว่าเล็กกว่าสิ่งใด ๆ แต่มีตัวตน) น่ะถูกแล้ว แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องมองเห็นหรือมองไม่เห็นครับ

ป.ล. ผมเคยได้ยิมมาว่า จุด นี่อนิยามครับ ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน วานผู้รู้ด้วย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 21 พฤษภาคม 2004, 14:29
Pich Pich ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 กรกฎาคม 2001
ข้อความ: 151
Pich is on a distinguished road
Post

ผมว่าความคิดเห็นของคุณ tana ถูกนะครับ
ในความเห็นของผม มิติคล้ายๆกับเป็นจำนวนชุดข้อมูลที่ใช้ในการอธิบายอะไรซักอย่างหนึ่ง เช่น
1 มิติก็คือ มี ตัวเลข 1 ตัวที่ใช้อธิบาย
2 มิติก็คือ มี ตัวเลข 2 ตัวที่ใช้อธิบาย
3 มิติก็คือ มี ตัวเลข 3 ตัวที่ใช้อธิบาย
4 มิติก็คือ มี ตัวเลข 4 ตัวที่ใช้อธิบาย
...............
n มิติก็คือ มี ตัวเลข n ตัวที่ใช้อธิบาย

เสริมในส่วนของ tana ก็คือ
เส้น มีตัวเลข 1 ตัว คือ ความยาวของมัน
พื้นที่ มีตัวเลข 2 ตัว คือ ความกว้างและความยาว
ปริมาตร มีตัวเลข 3 ตัว คือ ความกว้าง ความยาว และ ความสูง

แต่ถ้าเราอธิบายอะไรในปัจจุบัน เราก็ใช้ 4 มิติ (หรือเปล่า)
คือบอก อะไรก็ตามใน 3 มิติ แล้วมีในส่วนของเวลาเพิ่มขึ้นมาอีก 1 มิติ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 21 พฤษภาคม 2004, 17:33
gools's Avatar
gools gools ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 26 เมษายน 2004
ข้อความ: 390
gools is on a distinguished road
Post

ไปเข้าค่ายมาก็มีคนบอกเหมือนกันนะครับ
0 มิติ ใช้จุด 1 จุด
1 มิติ ใช้จุด 2 จุดเชื่อมต่อกัน
2 มิติ ใช้จุด 4 จุดเชื่อมต่อกัน
3 มิติ ใช้จุด 8 จุดเชื่อมต่อกัน
4 มิติ ใช้จุด 16 จุดเชื่อมต่อกัน
..................
n มิติ ใช้จุด 2n จุดเชื่อมต่อกัน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 10 พฤษภาคม 2007, 15:27
chaosterror chaosterror ไม่อยู่ในระบบ
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤษภาคม 2007
ข้อความ: 1
chaosterror is on a distinguished road
Default วัตถุใน 0,1,2,3,4 มิติ

สำหรับการนิยามของคุณ Tana ก็นับว่าถูกต้องพอสมควรครับ แต่รู้สึกจะมีการเข้าใจคลาดเคลื่อนไปบางส่วน
จากที่ผมศึกษามา การระบุวัตถุที่สามารถแสดงในมิติต่างๆ นั้นจะเป็นไปในลักษณะนี้ครับ

วัตถุ 0 มิติ คือ สิ่งที่มีตัวตน แต่ไม่สามารถบอกขนาดใน 3 มิติได้ นั่นคือ "จุด" ซึ่งเป็น "อนิยาม" ที่เมื่อให้คำนิยามจะเกิดการวกวนของคำพูดจนไม่สามารถอธิบายไปถึงจุดสิ้นสุดของนิยามได้
วัตถุ 1 มิติ คือ สิ่งที่มีตัวตนใน 3 มิติ สามารถบอกค่าได้เพียงความกว้างหรือความยาวอย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นคือ "เส้น" และ "ส่วนของเส้น" ซึ่งเกิดจากการนำจุดมาเรียงต่อกันเป็นจำนวนอนันต์ในทิศทางใดก็ตาม (ไม่ว่าจะเป็นเส้นตรงหรือไม่) ขนาดของวัตถุ 1 มิติจะบอกเป็น "ความยาว" โดยตัวกำกับมิติที่ 1 ในระบบพิกัดคือแกน x
วัตถุ 2 มิติ คือ สิ่งที่มีตัวตนใน 3 มิติ สามารถบอกความกว้างและความยาว อยู่ในระนาบของยูคลิก ซึ่งเกิดจากการขยายวัตถุ 1 มิติออกทางด้านข้างในทิศทางใดก็ตามให้เกิดเป็น "รูปร่าง" ขนาดของวัตถุ 2 มิติจะบอกเป็น "พื้นที่" โดยตัวกำกับมิติที่ 2 ในระบบพิกัดคือแกน y
วัตถุ 3 มิติ คือ สิ่งที่มีตัวตนใน 3 มิติ สามารถบอกได้ทั้งความกว้าง ความยาว และความสูง อยู่ในระบบพิกัดฉาก 3 มิติ ซึ่งเกิดจากการขยายวัตถุ 2 มิติออกในทิศทางตั้งฉากกับระนาบหรือเกิดจากการขยายวัตถุ 2 มิติออกไปทั้ง 3 ทิศทางที่ตั้งฉากซึ่งกันและกันใน 3 มิติเพื่อให้เกิดเป็น "รูปทรง" ขนาดของวัตถุ 3 มิติจะบอกเป็น "ปริมาตร" โดยตัวกำกับมิติที่ 3 ในระบบพิกัดคือแกน z

วัตถุ 4 มิติ เป็นสิ่งที่มีตัวตน มีขนาด แต่ไม่สามารถอธิบายรูปร่างลักษณะได้ใน 3 มิติ ในปัจจุบันนักคณิตศาสตร์และสถาปนิกพยายามจะสร้างรูปทรงใน 4 มิติขึ้นมาและพยายามจะแสดงรูบทรง 4 มิติลงบนกระดาษซึ่งเป็นรูปร่าง 2 มิติ
คนทั่วๆ ไปจะคิดว่ามิติที่ 4 น่าจะเกี่ยวข้องกับเวลา เพราะเวลามีพฤติกรรมไปในลักษณะเดียวกับระบบพิกัดที่มีการกำหนดช่วงเป็นสเกลาร์ สำหรับในการนิยามทางคณิตศาสตร์จะนิยามว่า "วัตถุ 4 มิติเกิดจากการนำรูปทรง 3 มิติมาขยายออกไปในทิศทางที่ตั้งฉากกับระบบพิกัดฉาก 3 มิติ หรือขยายรูปทรงออกไปทั้ง 4 ทิศทางซึ่งตั้งฉากซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดเป็น "รูปทรงที่ต่างออกไป" จากรูปทรง 3 มิติธรรมดา" ซึ่งในการนิยามลักษณะนี้ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ในปัจจุบันว่า "ทิศทางที่ตั้งฉากกับระบบพิกัดฉาก 3 มิติอยู่ในทิศทางใด??"

นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ และสถาปนิกได้พยายามค้นหาวิธีแสดงว่าวัตถุจะปรากฎออกมารูปแบบใดในมิติที่ 4 ตามความเชื่อของตน ดังตัวอย่างรูปทรงแปลกๆ ที่เรียกว่า "Hypercube" ของสถาปนิกที่ชื่อคล๊อด แบร็กดอน (ซ้าย) และรูปไฮเพอร์คิวบ์ที่เรียกว่า "เทสเซอร์แรกต์" (ขวา) หรือแม้แต่วัตถุที่เรียกว่า "ขวดแบบไคลน์" (Klein's Bottle) (ล่าง โดยเป็นรูปที่เกิดจากการคาดคะเนใน 3 มิติเท่านั้น) ที่เป็นขวดที่มีแต่พื้นที่ผิวนอกและเมื่อเทน้ำลงไปก็จะไหลออกจากขวดมาทางที่เรารินเข้าไป ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้ใน 3 มิติ แต่มีการคาดคะเนว่าอาจมีทางเป็นไปได้ใน 4 มิติ ดังรูป

..........


ตามความเห็นส่วนตัว เราสามารถเห็นรูปในลักษณะแบบนี้ได้เมื่อเราพยายามที่จะเคลื่อนที่วัตถุ 3 มิติไปในทิศทางใดก็ตามเพียงทิศทางเดียว หรือพยาพยามจะย่อ/ขยายวัตถุ 3 มิตินั้น โดยเราใช้จินตนาการสมมติว่า มันคือ "ภาพติดตา" ซึ่งจะแสดงแนวการเคลื่อนที่ของวัตถุนั้นในเวลาเดียวกัน (ถ้านึกไม่ออกว่าเป็นแบบไหน ลองเลื่อนกล่องสี่เหลี่ยมไปทางซ้ายและทางขวาซ้ำๆ กันอยู่แบบนี้แล้วมองเลยจากกล่องไปข้างหลัง หรือลองเปิดไฟฉายใส่หน้าตัวเองแล้งเลื่อนไปมา เราจะเห็นเป็นภาพติดตา ซึ่งมีลักษณะคล้ายๆ ไฮเพอร์คิวป์ของคล๊อด แบร็กดอน) ซึ่งการที่จะเห็นภาพติดตาจำเป็นต้องอาศัยการเคลื่อนที่ในเวลาหนึ่ง ซึ่งเวลาเองก็ประพฤติตัวเป็นปริมาณสเกลาร์อยู่แล้ว จึงมีลักษณะเหมือนแกนมิติที่ 4 ในระบบพิกัด แต่ไม่สามารถระบุทิศทางได้ว่าเวลาจะตั้งแกนในทิศทางใด
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 18 พฤษภาคม 2007, 03:51
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

ในวิชาคณิตศาสตร์ชั้นสูงเรามีเซตซึ่งมีมิติที่ไม่เป็นจำนวนนับด้วยครับ(คุ้นๆว่าคุณ passer-by เคยเอาโจทย์มาให้ลองทำกันแล้ว) ที่น่าจะเคยเห็นกันก็คงจะเป็นรูป fractal ครับ ตัวอย่างเช่น Cantor Set จะมีมิติเท่ากับ $\dfrac{\log{2}}{\log{3}}$ งงดีมั้ยล่ะ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 18 พฤษภาคม 2007, 09:16
au's Avatar
au au ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไว
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 เมษายน 2005
ข้อความ: 223
au is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ tana View Post
1. จุด เรามองไม่เห็นเพราะไม่มีขนาดใดๆเลย ( ที่เราเห็นจุดได้จากการวาดรูปนั้นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า จุด จริงๆ )

2. เส้น เราก็มองไม่เห็น เพราะยาวอย่างเดียว ไม่มีความหนา

3. รูปทรง 3 มิติ เรามองเห็น ( ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามองเห็นในโลกนี้ คือ 3 มิติ )

4. 4 มิติ เราไม่สามารถวาดเป็นรูปออกมาได้

" อยากถามว่าตามที่ผมอธิบายมานี้ถูกรึเปล่าครับ ถ้าผิดตรงไหนก็ช่วยอธิบายให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ "
1 มิติ ไม่ใช่ จุด ครับ แต่เป็นเส้น
2 มิติ ไม่ใช่ เส้น ครับ แต่เป็นกว้างxยาว
3 ถูกครับ
4 ไม่มีที่สิ้นสุด
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 18 พฤษภาคม 2007, 22:51
devilzoa devilzoa ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 ธันวาคม 2005
ข้อความ: 83
devilzoa is on a distinguished road
Default

แล้ว 7 มิตินี่มันจะเป็นไงหรือครับ (ไม่รู้ผมไปฟังเขาพูดมาว่าโลกของเอเลี่ยนมีตั้ง 7 มิติ...คงแปลกน่าดูเลย)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 08 มิถุนายน 2007, 18:47
midnight's Avatar
midnight midnight ไม่อยู่ในระบบ
หัดเดินลมปราณ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 26 เมษายน 2007
ข้อความ: 29
midnight is on a distinguished road
Default

ถ้ามิติที่ 4 ไม่สิ้นสุดแล้ว มิติล่ะคะ
__________________
แนะนำด้วยนะคะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 08 มิถุนายน 2007, 21:51
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ devilzoa View Post
แล้ว 7 มิตินี่มันจะเป็นไงหรือครับ (ไม่รู้ผมไปฟังเขาพูดมาว่าโลกของเอเลี่ยนมีตั้ง 7 มิติ...คงแปลกน่าดูเลย)
คำว่า "มิติ" มันอยู่ที่ว่าเราจะนิยามมันยังไงน่ะครับ
ที่กล่าวกันว่า จักรวาลมีสี่มิติ (space-time)
ในความเข้าใจของผม หมายถึง มิติ ที่กายเนื้อเราสัมผัสได้ และใช้วิทยาศาสตร์อธิบายได้ครับ

แต่ยังมีมิติอีกมากมาย (แล้วแต่จะสร้าง) ที่กายเนื้อเราสัมผัสไม่ได้ และมันอาจจะซ้อนอยู่ในมิติที่เราอาศัยอยู่ก็เป็นได้ เช่น เราอาจจะกล่าวว่า ผี อาศัยอยู่ในอีกมิติหนึ่งซึ่งซ้อนทับกันอยู่กับมิติของมนุษย์ เป็นต้น
เรื่องนี้คุยกันยังไงก็ไม่จบครับ เพราะวิทยาศาสตร์ยังเข้าไม่ถึง และ ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน
ปัจจุบันมี String Theory ที่พยายามอธิบายปรากฎการณ์ของจักรวาลในมิติที่มีมากกว่า 4
แต่ก็ยังเป็นได้แค่จินตนาการบนเศษกระดาษของนักฟิสิกส์และนักคณิตศาสตร์ครับ เพราะเรายังสัมผัสทฤษฎีนี้ด้วยกายเนื้อไม่ได้
แต่ถ้าทำได้ โลกก็จะเปลี่ยนแปลงไปในระดับที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียวครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 11 กรกฎาคม 2007, 16:10
blacksky blacksky ไม่อยู่ในระบบ
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 08 กรกฎาคม 2007
ข้อความ: 3
blacksky is on a distinguished road
Default

สุดยอด ขอบคุณมากๆ สำหรับความรู้เรื่องมิติ เราก็ยังงงๆเหมือนกัน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 01 สิงหาคม 2007, 15:35
SuperHero_Am_Pro's Avatar
SuperHero_Am_Pro SuperHero_Am_Pro ไม่อยู่ในระบบ
หัดเดินลมปราณ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 29 มีนาคม 2007
ข้อความ: 29
SuperHero_Am_Pro is on a distinguished road
Default

>>>Gools<<<
Sorry ขอโทษครับ แบบว่า มืน่าจะใช่นา ครือ>>>
ไอ้ที่ว่า มิติอ่ะคับ 2มิติก้อใช้ 3-n จุดก้อได้นา
แล้ว 3 มิติ ไม่จำเปนต้อง 8 จุดมิใช่หรือครับ

เช่น
พีระมิด มีได้ ตังแต่ 4-n จุดเลยใช่ม้า
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 01 สิงหาคม 2007, 18:30
gools's Avatar
gools gools ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 26 เมษายน 2004
ข้อความ: 390
gools is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ SuperHero_Am_Pro View Post
>>>Gools<<<
Sorry ขอโทษครับ แบบว่า มืน่าจะใช่นา ครือ>>>
ไอ้ที่ว่า มิติอ่ะคับ 2มิติก้อใช้ 3-n จุดก้อได้นา
แล้ว 3 มิติ ไม่จำเปนต้อง 8 จุดมิใช่หรือครับ

เช่น
พีระมิด มีได้ ตังแต่ 4-n จุดเลยใช่ม้า
ใช่แล้วครับ ผมพลาดเอง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 01 สิงหาคม 2007, 20:24
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

ขอเสริมความเห็นที่ 6 ในเรื่องของ Klein Bottle อีกนิดนึงครับ ปกติแล้วเราไม่สามารถมองวัตถุนี้ในสามมิติได้ จึงต้องมองในสี่มิติแทน แต่มนุษย์เรายังสัมผัสสี่มิติไม่ได้จึงทำได้แค่จินตนาการเอาครับ จริงๆแล้วสี่มิติอาจจะไม่พอสำหรับ Klein Bottle ด้วยซ้ำ แต่ห้ามิตินั้นเพียงพอที่จะให้วัตถุชนิดนี้เข้าไปอยู่ครับ ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจาก Whitney Embedding Theorem
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 06:18


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha