Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > พีชคณิต
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 20 พฤษภาคม 2010, 10:56
ไซโคลน ไซโคลน ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 14 มีนาคม 2010
ข้อความ: 65
ไซโคลน is on a distinguished road
Default แสดงวิธีของคาร์ดาน

ผมไม่คล่องนะครับเรื่องสมการกำลัง3อยากให้ช่วยเอาโจทย์มาแล้วใช้วิธีของคาร์ดานให้ด้วยครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 20 พฤษภาคม 2010, 12:12
kongp kongp ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 05 พฤษภาคม 2006
ข้อความ: 1,127
kongp is on a distinguished road
Default

ผมก็จำไม่ได้ แต่รู้ว่าอยู่ในเรื่องของ Galois Theory ซึ่งอยู่ในเรื่องของการประมาณเส้นทางโคจรของดวงดาว ซึ่งอาจมีส่วยเกี่ยวโยงมาถึงการก่อสร้างในสมัยบาบิโลเนียน หรือสมัยใหม่จะอยู่ในเรื่องของวงจรไฟฟ้าที่เกี่ยวกับเส้นทางการเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้า

เค้าว่าเป็นวิธีเก่า อาจเพราะมีการกำหนดตัวแปรโดยไม่จำกัดเขต จึงไม่แม่นยำพอ โดยวิธีใช้แบบที่ทำให้สูตรนี้แม่นยำก็มี
ซึ่งต้องคำนึงถึงเรื่อง Level of Abstraction กับ Complexity

โดยรวมสูตรนี้ผมมองว่าเค้าย่อยสมการเก่า โดยใช้ Square Root คุณลองคิดดูซิว่าหากใช้ Square Root กับ สมการเส้นตรงที่ทำมุม 45 องศากับแกน x แล้วพล็อตกราฟ จะเห็นว่าความชัน ณ. จุดใดๆ จะสูงเฉพาะในช่วงแรก ซึ่งบ่งถึงการลดลง โดยหากต้องการความชันมากๆ อันดับก็ต้องสูงมากขึ้นตามไปด้วย

ใครรู้ขั้นตอนช่วยโพสต์ด้วยครับ ให้แก้โจทย์เลย อาจทำให้ไม่เข้าใจสูตร
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 21 พฤษภาคม 2010, 19:42
catengland's Avatar
catengland catengland ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 14 กุมภาพันธ์ 2010
ข้อความ: 144
catengland is on a distinguished road
Default

ซักคนอธิบายที่ครับผมก็อยากรู้ PLZZZZZZZZZZZZZZ
__________________
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 21 พฤษภาคม 2010, 19:48
Siren-Of-Step's Avatar
Siren-Of-Step Siren-Of-Step ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ธรรมชาติ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 กันยายน 2009
ข้อความ: 2,081
Siren-Of-Step is on a distinguished road
Default

คาร์ดาน ศึกษาได้จาก พีชคณิต สอวน

ณ ตอนนี้ผมก็ยังใช้ไม่คล่อง
__________________
Fortune Lady
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 27 พฤษภาคม 2010, 13:49
September September ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 กันยายน 2007
ข้อความ: 67
September is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ kongp View Post
ผมก็จำไม่ได้ แต่รู้ว่าอยู่ในเรื่องของ Galois Theory ซึ่งอยู่ในเรื่องของการประมาณเส้นทางโคจรของดวงดาว ซึ่งอาจมีส่วยเกี่ยวโยงมาถึงการก่อสร้างในสมัยบาบิโลเนียน หรือสมัยใหม่จะอยู่ในเรื่องของวงจรไฟฟ้าที่เกี่ยวกับเส้นทางการเคลื่อนที่ของประจุไฟฟ้า

เค้าว่าเป็นวิธีเก่า อาจเพราะมีการกำหนดตัวแปรโดยไม่จำกัดเขต จึงไม่แม่นยำพอ โดยวิธีใช้แบบที่ทำให้สูตรนี้แม่นยำก็มี
ซึ่งต้องคำนึงถึงเรื่อง Level of Abstraction กับ Complexity

โดยรวมสูตรนี้ผมมองว่าเค้าย่อยสมการเก่า โดยใช้ Square Root คุณลองคิดดูซิว่าหากใช้ Square Root กับ สมการเส้นตรงที่ทำมุม 45 องศากับแกน x แล้วพล็อตกราฟ จะเห็นว่าความชัน ณ. จุดใดๆ จะสูงเฉพาะในช่วงแรก ซึ่งบ่งถึงการลดลง โดยหากต้องการความชันมากๆ อันดับก็ต้องสูงมากขึ้นตามไปด้วย

ใครรู้ขั้นตอนช่วยโพสต์ด้วยครับ ให้แก้โจทย์เลย อาจทำให้ไม่เข้าใจสูตร
ช่วยขยายความสักนิดได้ไหมครับ ว่าจะใช่ "คาร์ดาน" ในความหมายเดียวกับที่ จขกท ถามรึเปล่า
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 10 มิถุนายน 2010, 21:27
kongp kongp ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 05 พฤษภาคม 2006
ข้อความ: 1,127
kongp is on a distinguished road
Default

น่าจะใช่ แต่ในหนังสือของ สวอน. เดาว่ากล่าวอย่างย่อ ใครลองโพสต์ให้ดูก็ดีครับ ผมไม่ได้ซื้อไว้

ของผมก็เป็นการแก้สมการกำลังสาม แต่สำหรับอะไรนั้นขออุ๊บ เพราะมันแล้วแต่คนนะซีครับ ที่จะนำไปใช้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 11 มิถุนายน 2010, 08:47
Switchgear's Avatar
Switchgear Switchgear ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 มกราคม 2006
ข้อความ: 472
Switchgear is on a distinguished road
Default

ลองอ่านเนื้อหาที่หน้า 480 ของ Higher algebra (Hall) และทำแบบฝึกหัดท้ายบทนั้นดู
ส่วนเฉลยก็มีอยู่ในเล่ม Solutions ด้วย ตามที่ผมทำ Link ไว้ในความเห็น #14 ของกระทู้ข้างล่างนี้

http://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=10359
__________________
หนึ่งปีของอัจฉริยะ อาจเทียบเท่าชั่วชีวิตของคนบางคน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 12 มิถุนายน 2010, 18:21
Ne[S]zA's Avatar
Ne[S]zA Ne[S]zA ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 13 กรกฎาคม 2008
ข้อความ: 1,221
Ne[S]zA is on a distinguished road
Default

สมการกำลังสามที่อยู่ในรูป $x^3+ax^2+bx+c=0\_\_\_\_(I)$
สามารถแปลงใหม่ได้โดย Taylor's Formula $f(x)=f(k)+f'(k)(x-k)+\dfrac{f''(k)}{2!}(x-k)^2+\dfrac{f'''(k)}{3!}(x-k)^3$
ให้ $x=y+k$ เมื่อ $k$ เป็นค่าคงที่ใดๆ จะได้ว่า $f(y+k)=f(k)+f'(k)y+\dfrac{f''(k)}{2!}y^2+\dfrac{f'''(k)}{3!}y^3$
เพราะว่า $f(k)=k^3+ak^2+bk+c$ และ $f'(k)=3k^2+2ak+b$ และ $\dfrac{f''(k)}{2!}=3k+a$ และ $\dfrac{f'''(k)}{3!}=1$
นั่นคือ $f(y+k)=(k^3+ak^2+bk+c)+(3k^2+2ak+b)y+(3k+a)y^2+y^3$
เราต้องทำให้เทอม $y^2$ หายไป เราจึงได้ว่า $3k+a=0$ หรือ $k=-\dfrac{a}{3}$
นั่นคือ $f(y-\dfrac{a}{3})=(c-\dfrac{ab}{3}+\dfrac{2a^3}{27})+(b-\dfrac{a^2}{3})y+y^3$
เพราะฉะนั้นจะได้สมการใหม่คือ $y^3+py+q=0\_\_\_\_(II)$ โดย $p=b-\dfrac{a^2}{3}$ และ $q=c-\dfrac{ab}{3}+\dfrac{2a^3}{27}$
จากสมการ $(II)$ แทนค่า $y=u+v$ ลงในสมการ $(II)$ จะได้ว่า $u^3+v^3+(p+3uv)(u+v)+q=0\_\_\_\_(III)$
ต่อไปจะหาความสัมพันธ์ระหว่าง $u,v$ โดยสมมติให้ $p+3uv=0$ หรือ $uv=-\dfrac{p}{3}$ จะได้ $u^3v^3=-\dfrac{p^3}{27}$ และจาก $(III)$ จะได้ $u^3+v^3=-q$
นั่นคือ $u^3+v^3=-q$ และ $u^3v^3=-\dfrac{p^3}{27}$ ซึ่ง $u^3,v^3$ เป็นรากของสมการ $t^2+qt-\dfrac{p^3}{27}=0\_\_\_\_(IV)$
ซึ่งรากของสมการ $(IV)$ คือ $t_1=u^3=-\dfrac{q}{2}+\sqrt{\dfrac{q^2}{4}+\dfrac{p^3}{27}}$ และ $t_2=v^3=-\dfrac{q}{2}-\sqrt{\dfrac{q^2}{4}+\dfrac{p^3}{27}}$
ดังนั้น $u$ ที่เป็นไปได้คือ $u=\sqrt[3]{t_1},\omega \sqrt[3]{t_1},\omega ^2\sqrt[3]{t_1}$ และ $v$ ที่เป็นไปได้คือ $v=\sqrt[3]{t_2},\omega \sqrt[3]{t_2},\omega ^2\sqrt[3]{t_2}$ เมื่อ $\omega =\dfrac{-1+\sqrt{3}i}{2}$
ดังนั้นค่ารากของสมการ $y^3+py+q=0$ คือ
$$y_1=\sqrt[3]{t_1}+\sqrt[3]{t_2}$$
$$y_2=\omega \sqrt[3]{t_1}+\omega \sqrt[3]{t_2}$$
$$y_3=\omega ^2\sqrt[3]{t_1}+\omega ^2\sqrt[3]{t_2}$$
เมื่อ $t_1=-\dfrac{q}{2}+\sqrt{\dfrac{q^2}{4}+\dfrac{p^3}{27}}$ และ $t_2=-\dfrac{q}{2}-\sqrt{\dfrac{q^2}{4}+\dfrac{p^3}{27}}$

ตัวอย่าง จงแก้สมการ $x^3+x^2-2=0$
__________________
||!<<<<iNesZaii>>>>!||
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 16 มิถุนายน 2010, 21:48
kongp kongp ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 05 พฤษภาคม 2006
ข้อความ: 1,127
kongp is on a distinguished road
Default

นี่จากในหนังสือใช่มั้ยครับ ที่ผมเคยเรียนมา วิธีหาค่านี้จะถูกนำไปสร้าง Z-Chart, Y-Chart ในภายหลัง ซึ่งเค้าสมมติอะไรอีกเยอะแยะกว่าจะเอาไปใช้จริงในงานวิศวกรรม และหนังสือเรื่อง Galois Theory ของ David A. Cox ได้ลงเรื่อง Cubic equation ไว้ สรุปเป็นอันเดียวกันครับ แล้วแต่คนจะเอาไปใช้

แต่ทราบมาว่างานด้านแก้สมการนี้ ก้าวหน้าไปพอสมควร สำหรับผมคงบอกได้ว่าได้แต่เรียนรู้ ปรับใช้ในงานออกแบบเครื่องจักรในตอนนี้ ด้วยโปแกรมอาจจะเป็น Comsol หรือ Proengineer หรือ Zmax ก็ดูอลังการ http://www.zemax.com/ เค้าทำเรื่อง Optics Software

ซ็อฟแวร์ฝรั่งมีเยอะมาก ผมพยายามคิดอยู่ว่าจะเป็นไปได้ไหม หากจะซื้อเค้ามาใช้ เคยเห็นโฆษณาเค้ามาก่อนนะครับ สนใจไหมครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 16 มิถุนายน 2010, 23:20
kimchiman kimchiman ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 พฤษภาคม 2010
ข้อความ: 92
kimchiman is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Ne[S]zA View Post
สมการกำลังสามที่อยู่ในรูป $x^3+ax^2+bx+c=0\_\_\_\_(I)$
สามารถแปลงใหม่ได้โดย Taylor's Formula $f(x)=f(k)+f'(k)(x-k)+\dfrac{f''(k)}{2!}(x-k)^2+\dfrac{f'''(k)}{3!}(x-k)^3$
ให้ $x=y+k$ เมื่อ $k$ เป็นค่าคงที่ใดๆ จะได้ว่า $f(y+k)=f(k)+f'(k)y+\dfrac{f''(k)}{2!}y^2+\dfrac{f'''(k)}{3!}y^3$
เพราะว่า $f(k)=k^3+ak^2+bk+c$ และ $f'(k)=3k^2+2ak+b$ และ $\dfrac{f''(k)}{2!}=3k+a$ และ $\dfrac{f'''(k)}{3!}=1$
นั่นคือ $f(y+k)=(k^3+ak^2+bk+c)+(3k^2+2ak+b)y+(3k+a)y^2+y^3$
เราต้องทำให้เทอม $y^2$ หายไป เราจึงได้ว่า $3k+a=0$ หรือ $k=-\dfrac{a}{3}$
นั่นคือ $f(y-\dfrac{a}{3})=(c-\dfrac{ab}{3}+\dfrac{2a^3}{27})+(b-\dfrac{a^2}{3})y+y^3$
เพราะฉะนั้นจะได้สมการใหม่คือ $y^3+py+q=0\_\_\_\_(II)$ โดย $p=b-\dfrac{a^2}{3}$ และ $q=c-\dfrac{ab}{3}+\dfrac{2a^3}{27}$
จากสมการ $(II)$ แทนค่า $y=u+v$ ลงในสมการ $(II)$ จะได้ว่า $u^3+v^3+(p+3uv)(u+v)+q=0\_\_\_\_(III)$
ต่อไปจะหาความสัมพันธ์ระหว่าง $u,v$ โดยสมมติให้ $p+3uv=0$ หรือ $uv=-\dfrac{p}{3}$ จะได้ $u^3v^3=-\dfrac{p^3}{27}$ และจาก $(III)$ จะได้ $u^3+v^3=-q$
นั่นคือ $u^3+v^3=-q$ และ $u^3v^3=-\dfrac{p^3}{27}$ ซึ่ง $u^3,v^3$ เป็นรากของสมการ $t^2+qt-\dfrac{p^3}{27}=0\_\_\_\_(IV)$
ซึ่งรากของสมการ $(IV)$ คือ $t_1=u^3=-\dfrac{q}{2}+\sqrt{\dfrac{q^2}{4}+\dfrac{p^3}{27}}$ และ $t_2=v^3=-\dfrac{q}{2}-\sqrt{\dfrac{q^2}{4}+\dfrac{p^3}{27}}$
ดังนั้น $u$ ที่เป็นไปได้คือ $u=\sqrt[3]{t_1},\omega \sqrt[3]{t_1},\omega ^2\sqrt[3]{t_1}$ และ $v$ ที่เป็นไปได้คือ $v=\sqrt[3]{t_2},\omega \sqrt[3]{t_2},\omega ^2\sqrt[3]{t_2}$ เมื่อ $\omega =\dfrac{-1+\sqrt{3}i}{2}$
ดังนั้นค่ารากของสมการ $y^3+py+q=0$ คือ
$$y_1=\sqrt[3]{t_1}+\sqrt[3]{t_2}$$
$$y_2=\omega \sqrt[3]{t_1}+\omega \sqrt[3]{t_2}$$
$$y_3=\omega ^2\sqrt[3]{t_1}+\omega ^2\sqrt[3]{t_2}$$
เมื่อ $t_1=-\dfrac{q}{2}+\sqrt{\dfrac{q^2}{4}+\dfrac{p^3}{27}}$ และ $t_2=-\dfrac{q}{2}-\sqrt{\dfrac{q^2}{4}+\dfrac{p^3}{27}}$

ตัวอย่าง จงแก้สมการ $x^3+x^2-2=0$
ตั้งหารสังเคราะห์ด้วย x-1 ก็ออกแล้วนี่ครับ
ไม่เห็นต้องใช้คาร์ดานเลยนี่
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 15 ตุลาคม 2010, 19:10
kongp kongp ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 05 พฤษภาคม 2006
ข้อความ: 1,127
kongp is on a distinguished road
Default

ที่ถามว่าใช่คาร์ดานเดียวกันหรือเปล่า ขอตอบว่าใช่อีกครับ คือว่าสมการการจริงๆ ก็เป็นเมตริก(ตัววัด)อันหนึ่ง มองแบบนี้แล้วเหมือนกันครับ ต่างกันก็เขียนมากเขียนน้อย ซึ่งคงเพราะแล้วแต่การนำไปใช้ เช่น สมการอันดับสูงๆ ก็นิยมใช้ ใน Concrete Mathematics เป็นโดยมากที่พบเจอนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 16 ตุลาคม 2010, 06:06
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ kimchiman View Post
ตั้งหารสังเคราะห์ด้วย x-1 ก็ออกแล้วนี่ครับ
ไม่เห็นต้องใช้คาร์ดานเลยนี่
เป็นตัวอย่างให้ลองเฉยๆมั้งครับ จะได้เช็คคำตอบได้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 24 ตุลาคม 2010, 21:04
a104373 a104373 ไม่อยู่ในระบบ
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 ตุลาคม 2010
ข้อความ: 2
a104373 is on a distinguished road
Default

โหย โคตรยากเลย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 25 ตุลาคม 2010, 12:12
Mwit22#'s Avatar
Mwit22# Mwit22# ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 04 กุมภาพันธ์ 2010
ข้อความ: 334
Mwit22# is on a distinguished road
Default

ตัวคำตอบจะติด i เสมอหรือเปล่าครับ เพราะตัว โอเมก้ามันมี i อยู่
__________________
สู้ๆ สู้เพื่อ มหิดลวิทยานุสรณ์ รุ่นที่ 22
FIGHT FOR MWIT#22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 06 ธันวาคม 2010, 21:27
krit krit ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 14 พฤษภาคม 2010
ข้อความ: 161
krit is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Mwit22# View Post
ตัวคำตอบจะติด i เสมอหรือเปล่าครับ เพราะตัว โอเมก้ามันมี i อยู่
ไม่เสมอไปครับ อย่างเช่นสมการ $x^3-6x^2+11x-6=0$ ได้คำตอบเป็น $1,2,3$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 02:25


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha