|
|
#16
22 กันยายน 2010, 11:10
|
|||
|
|||
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว  ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
|
|
#17
22 กันยายน 2010, 11:11
|
|||
|
|||
|
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
|
|
#18
22 กันยายน 2010, 11:12
|
|||
|
|||
|
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
|
|
#19
22 กันยายน 2010, 11:13
|
|||
|
|||
|
ต่อไปเป็ยชุดของ PDF
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
|
|
#20
22 กันยายน 2010, 11:13
|
|||
|
|||
|
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
|
|
#21
22 กันยายน 2010, 11:14
|
|||
|
|||
|
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
|
|
#22
22 กันยายน 2010, 11:19
|
|||
|
|||
|
$1 \cdot 1! = (2 - 1)1! = 2 \cdot 1! - 1! = 2! -1! $ $2 \cdot 2! = (3 - 1)2! = 3 \cdot 2! - 2! = 3! -2! $ $3 \cdot 3! = (4 - 1)3! = 4 \cdot 3! - 3! = 4! -3! $ . . $20 \cdot 20! = (20 - 1)20! = 20 \cdot 20! - 20! = 21! -20! $ $N = 21! -1$ $N +1 = 21! -1 +1 = 21!$ $N +1 = 21 \times 20 \times 19 \times ..... \times 1$ $N +1 = 2^{18}×3^9×5^4×7^3×11×13×17×191$ ผลบวกของจำนวนเฉพาะของ $N+1 = 2+3+5+7+11+17+19 = 77$ ฟลอร์เปิดแล้ว ชอเชิญหาความสำราญกันได้เลยครับ
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
22 กันยายน 2010 13:00 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ banker
|
|
#23
22 กันยายน 2010, 13:13
|
|||
|
|||
|
ต่ออีกสักข้อ
45 = 5 x 9 ดังนั้น ถ้าทำให้ $n \cdot 2^{2553} + 7^{2553}$ ลงท้ายด้วย 5 ก็จะหารลงตัว $7^{2553} \ $ ลงท้ายด้วย 7 $2^{2553} \ $ ลงท้ายด้วย 2 ดังนั้น ถ้า $n = 4 \ $ จะมำให้ $4 \cdot 2^{2553} \ $ ลงท้ายด้วย 8 ก็จะทำให้ $ 5 | (4 \cdot 2^{2553} + 7^{2553})$ แล้ว 9 ล่ะ ผลบวกของเลขโดดเท่ากับ 9 หรือพหุคูณของ 9 ?
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
22 กันยายน 2010 14:02 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ banker เหตุผล: ลืมเลข 9
|
|
#24
22 กันยายน 2010, 13:22
|
||||
|
||||
|
จาก$n(p(A))-n(p(C))=63 $และ$A\not=\varnothing $ แต่63เป็นเลขคี่ทำให้ได้ว่า$n(p(C))=1$ดังนั้น$(C)=\varnothing$ จะได้$n(p(A))=64$ดังนั้น(A)มีสมาชิก6ตัว จาก$n(p(A))+n(p(B))=96$และ$n(p(A))=64$จะได้$n(p(B))=32$ดังนั้น(B)มีสมาชิก5ตัว จะได้$A\cap C=\varnothing$และฺ$B\cup c=B$เพราะฉะนั้น$n(P(A\cap C))+n(p(B\cup C))+n(A)+n(B)=1+32+6+5=44$ถูกรึป่าวครับ
__________________
They always say time changes things. But you actually have to change them yourself. 
|
|
#26
22 กันยายน 2010, 14:54
|
|||
|
|||
|
ไม่รู้นับครบหรือยัง มีสี่เหลี่ยมด้านขนาน 72 รูป
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
|
|
#27
22 กันยายน 2010, 14:55
|
|||
|
|||
|
อ้างอิง:
จะตอบข้อไหน อย่าลืมก็อปคำถามมาด้วยนะครับ จะทำให้ง่ายต่อการอ่าน
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
|
|
#28
22 กันยายน 2010, 17:58
|
||||
|
||||
|
ใช้ทฤษฎีบททวินามครับ หาสัมประสิทธิ์หน้า$x^{17}$ได้$a_{17}=\frac{20!}{17!2!1!} (1)^{17}(x^5)^2(x^7)^1=3420x^{17}$ ส่วนสัมประสิทธิ์หน้า$x^{18}$จะเห็นได้ว่าไม่มีพจน์ของ$x^{18}$ดังนั้น$a_{18}=0$ จะได้$a_{17}+a_{18}=3420$ครับ
__________________
They always say time changes things. But you actually have to change them yourself.
|
|
#30
22 กันยายน 2010, 20:26
|
||||
|
||||
|
จากค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน$=\sqrt{\frac{\sum (x-\overline{x} )^2}{N} } $ และจากตารางที่ให้$\overline{x}=\frac{2n+5}{n+5} $ จะได้$\sum(x-\overline{x} )^2=5(1-\frac{2n+5}{n+5})^2+n(2-\frac{2n+5}{n+5})^2=\frac{5n^2+25n}{(n+5)^2} $ ดังนั้น$\sqrt{\frac{\sum (x-\overline{x} )^2}{N} }=\frac{\sqrt{{5n}} }{n+5} $ ต้องการชุดจำนวนที่เป็นตรรกยะดังนั้น$\sqrt{{5n}}$ต้องเป็นจำนวนเต็มบวกและถ้าื$n$เป็นจำนวนเต็มบวกที่น้อยที่สุดดังนั้น$n=5$ครับ
__________________
They always say time changes things. But you actually have to change them yourself.
|
  |
หัวข้อคล้ายคลึงกัน
|
||||
| หัวข้อ | ผู้ตั้งหัวข้อ | ห้อง | คำตอบ | ข้อความล่าสุด |
| ที่เรียนพิเศษMathไหนดีที่สุด | คusักคณิm | ฟรีสไตล์ | 27 | 12 ตุลาคม 2011 20:40 |
| คุณ ชอบ MATH หรือ SCI. มากกว่ากัน โพลล์!!! | คusักคณิm | ฟรีสไตล์ | 63 | 31 กรกฎาคม 2011 15:45 |
| ว้าวเห็นปก My math ใหม่แล้วโดนใจผมมากเลย | คusักคณิm | ฟรีสไตล์ | 44 | 06 มีนาคม 2010 18:25 |
| เฉลย Math O-NET 50 | Mastermander | ข้อสอบในโรงเรียน ม.ปลาย | 19 | 28 มีนาคม 2007 17:41 |
| ข่าวสารmath | Pich | ปัญหาการใช้เว็บบอร์ด | 19 | 01 กรกฎาคม 2002 20:46 |
|
|
![{([Son'car])}'s Avatar](customavatars/avatar10579_2.gif){kind=avatar}
