|
|
|||||||
| สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ค้นหา | ข้อความวันนี้ | ทำเครื่องหมายอ่านทุกห้องแล้ว |
  |
|
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
|
#62
24 เมษายน 2014, 09:20
|
|||
|
|||
|
|
#64
26 เมษายน 2014, 10:38
|
||||
|
||||
|
สนทนาวงเล็กกับทีมก่อตั้งโรงเรียนวิทยาศาสตร์ระยอง นำโดยดร.พิศาล สร้อยธุหร่ำ อดีตผู้อำนวยการ สสวท.ดร.ประมวล ศิริผันแก้ว อดีตหัวหน้าสาขาฟิสิกส์ สสวท. รศ ดร.ธนิต ผิวนิ่ม รศ ดร.สมพงศ์ วิทยศักดิ์พันธุ์ ผศ.ดร.สุพัฒน์พงษ์ ดำรงรัตน์ และที่สุดยอดมาก ศาสตราจารย์ ดร.ณรงค์ ปั้นนิ่ม บอกว่าจะสอนเด็กนักเรียนรุ่นแรกด้วยตนเอง
11 มิถุนายน 2014 15:57 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ lekb
|
|
#66
23 พฤษภาคม 2014, 22:27
|
||||
|
||||
|
ผมจะไปเรียนที่นั่นตอนโตให้ได้เลย เเล้วเจอกันนะครับ
__________________
Mathematics is not about finding X but finding whY.
|
|
#70
10 กรกฎาคม 2014, 18:47
|
|||
|
|||
|
เท่าที่ติดตามสถาบันนี้เพราะลูกก็เข้าสอบคัดเลือกด้วย หลายอย่างก็ ok นะ พอมาถึงตอนประกาศผลสอบรอบสุดท้าย ลูกผมได้สำรองอันดับก็ต้นๆ สงสัยมากเพราะสอบมาไม่เคยพลาดสักรายการ ขอดูคะแนนผลสอบ พอทราบคะแนนหมดศรัทธาเลยคะแนนที่เกิดจากการสอบจริงๆของเด็กไม่มีปัญหาถูกต้องแล้ว แต่คะแนนส่วนที่ให้จากการพิจารณาผลงานที่ผ่านมาของเด็กบรรยายไม่ถูกเลยครับ ใครว่าถูกต้องแล้วช่วยอธิบายหน่อยครับ ความรู้น้อยไม่เท่ากับท่านที่จะสอนเด็กทำวิจัย วิธีการของท่านเราอาจมิหยั่งรู้ถึงได้
|
|
#71
01 ตุลาคม 2014, 18:33
|
|||
|
|||
|
อ้างอิง:
ต้องขอโทษที่ ที่มาตอบช้า ท่านต้องไป ดู clip นี้ก่อน เขาบอกไว้อย่าง ชัดแจ้งแล้วว่า เขาต้องการ เด็กแบบไหน ไอ้ประเภท ที่ กา คำตอบ อย่างเดียว เขาไม่ ต้องการครับ ( ผปค ส่วนใหญ่เข้าใจผิด ว่า ลูกเก่งต้องได้แน่นอน) มันล้าสมัยไปแล้ว ความคิดโบราณ สถาบัน แบบ ปตท เขาไม่ต้องการ http://www.youtube.com/watch?v=7eM1Dajo79U ฉะนั้น คนที่จะเข้าที่นี้ได้ ดูคุณสมบัติให้ตรงก่อน จะได้ไม่ผิดหวัง 
|
|
#72
02 ตุลาคม 2014, 23:18
|
|||
|
|||
|
ความจริงเลิกสนใจ หันหลังให้โครงการนี้ไปแล้ว แต่มีผู้มาตอบแถมว่าเราเป็นผู้ปกครองความคิดโบราณเสียอีก เลยต้องชี้แจงสักหน่อยก็แล้วกัน ประการแรกคุณอ่านชัดเจนหรือยังครับว่า เรายอมรับผลคะแนนที่เกิดจากการสอบจริงๆของเด็ก ซึ่งผลคะแนนก็เป็นไปตามธรรมชาติของเด็กคือ ส่วนใหญ่มีความสามารถใกล้เคียงกัน ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานตามหลักวิชาคือ 10 เช่นผลคะแนนวิทยาศาสตร์ในการสอบครั้งนี้มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 10.5 ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่เรื่องที่ไม่น่าจะถูกต้องก็คือ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนที่ไม่ได้มาจากการสอบจริงๆของเด็กชุดเดียวกันนี้สูงถึง 28.4 ลองนึกถึงกราฟรูประฆังกับกราฟรูปกระบอกข้าวหลามซิครับ ทำไมจะต่างกันขนาดนั้น ขอถามคุณเจมี่หน่อยเถอะครับ คุณจะโกรธใหมถ้ามีคนให้คะแนนแบบนี้กับลูกคุณ ด้านความเป็นผู้นำและการยอมรับจากเพื่อน คะแนนเต็ม 100 ให้ 0 คะแนน ด้านการมีจิตสาธารณะและความมุมานะ คะแนนเต็ม 100 ให้ 0 คะแนน ซึ่งมันไม่ตรงกับความเป็นจริงเลย จริงๆก็แค่อยากจะให้เด็กบางคนที่อาจจะนั่งทางในดูแล้วจะเป็นนักวิจัยระดับโลกแต่คะแนนสอบน้อย ก็เลยไปยัดเยียดข้อหาให้เด็กที่ไม่อยู่ในสายตา จากค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนประเภทนี้บอกให้ทราบว่ามีเด็กจำนวนไม่น้อยเลยที่ได้คะแนนสูง ไม่ทราบว่าใช้หลักฐานอะไร สถาบันใหนในประเทศไทยรับรองบ้าง(ถึงมีจริงก็น่าจะไม่กี่คน) เด็กๆที่ขอคะแนนไปดู เขามีเพื่อนอยู่หลายพื้นที่ หลายจังหวัด แลกคะแนนดูกัน เลยพอจะคาดเดาได้ว่าอะไรเป็นอะไร บรรยายไปเรื่องจะยาวเปล่าๆ หันหลังไปแล้วก็ยุติดีกว่า ส่วนที่คุณเจมี่ว่า โครงการนี้ไม่ต้องการเด็กที่กาข้อสอบเป็นเป็นอย่างเดียว คุณทราบหรือไม่ว่าข้อสอบรอบ 2 รายการนี้เป็นข้อเขียน ให้ผู้รู้จริงๆมาตอบจะดีกว่า
|
|
#73
03 ตุลาคม 2014, 08:30
|
|||
|
|||
|
เห็นด้วยกับคุณsaengdowครับ เรื่องคะแนนสอบไม่น่าจะมีข้อโต้แย้ง แต่คะแนนการพิจารณาผลงานที่ผ่านมามีข้อกังขา ลูกผมส่งผลงานครบทุกด้านและเป็นผลงานที่ได้มาจริงทำจริง แต่คะแนนบางด้านกลับหายไป ไม่มีการติดต่อสอบถามข้อสงสัยจากทางโครงการเลย ผิดกับเพื่อนของลูก แม่เขาบอกว่าข้อมูลบางอย่างถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่มีจริงกลับได้คะแนนครบ
แต่ก็รู้สึกโล่งใจที่ลูกไม่ได้ตัวจริง ถึงแม้ว่าทีมงานดี เงินถึง แต่มันเป็นปีแรกก็มีความขลุกขลักให้เห็น อดเป็นห่วงไม่ได้ครับ
|
|
#74
04 พฤศจิกายน 2014, 12:22
|
|||
|
|||
|
ดิฉันเป็นผปค.คนนึงค่ะที่ลูกเข้าร่วมสอบคัดเลือกเป็นนร.KWITในครั้งนี้ ยอมรับค่ะว่าข้อสอบรอบแรกลูกและเพื่อนลูกบ่นกันทุกคนว่าแปลกและยากมากส่วนใหญ่จะเป็นข้อสอบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นแนวคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาพอได้ฟังรายละเอียดของการสอบรอบสองจากลูกแล้วบอกได้เลยว่าคณาจารย์และทีมงานคิดและทุ่มเททำการคัดสรรนี้ อย่างหนักจริงๆ มีมุมมองที่ละเอียดลึกซึ้ง ไม่เหมือนสนามสอบที่ผ่านๆมา เด็กที่ผ่านรอบแรกเข้ามาดิฉันมั่นใจว่าเก่งกันทุกคนค่ะ
สำหรับโครงการนี้ประทับใจตั้งแต่งาน open house พอได้เห็นโครงการและทีมงานแล้วบอกได้เลยว่าการศึกษาด้านคณิตศาสตร์ของเด็กไทยมีหวังมากขึ้นจากเดิมเด็กของเราจะได้ทำการทดลองและทำงานวิ จัยจริงๆ ได้เปิดโลกกว้างโดยการเรียนการสอนที่ใช้ภาษาอังกฤษ ทำให้เด็กเข้าถึงแหล่งความรู้ได้อย่างกว้างขวางแข่งได้กับเด็กอื่นๆในโลกนี้ได้อย่างแน่นอน ตรงนี้ถึงจะเป็นเพียงจุดเริ่มต้นแต่ดิฉันสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ ไม่อยากให้ผปค./เด็กที่รักวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อ่านข้อความข้างต้นแล้วหมดศรัทธา มันจะเป็นการปิดกั้นโอกาส อยากให้เข้ามาสัมผัสด้วยตัวเอง ตัดสินใจเอง ที่ดิฉันเขียนข้อความนี้เพื่อส่งความปารถนาดีอย่างจริงใจ ขอเรียนท่านว่าเป็นโอกาสที่ดีครั้งนึงที่ไม่ควรปล่อยให้ผ่านเลยไป โดยเฉพาะเด็กเก่งที่ต้องการทุนการศึกษา 04 พฤศจิกายน 2014 17:46 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ พลิกไทย
|
|
#75
05 พฤศจิกายน 2014, 01:06
|
|||
|
|||
|
อ่านข้อความของคุณพลิกไทยแล้วเหมือนกับการโฆษณาเลย โอเคครับนั่นคือความเห็นของคุณ แต่ข้อความที่บอกว่าทีมงานคัดเลือกมีมุมมองที่ละเอียดลึกซึ้ง ผมว่าไม่จริงแน่นอน คุณเป็นผู้ปกครองที่เข้าร่วมงาน OPEN HOUSE คุณต้องได้ยินประโยคที่ว่า "หากคะแนนใกล้เคียงกันทางเราจะเลือกผู้ที่เชื่อว่าจะเรียนได้ดีที่สุด" ใช่ใหมครับ คำกล่าวนี้ก็เท่ากับยอมรับว่ามีคะแนนส่วนหนึ่งที่จะให้หรือไม่ให้ใครก็ได้ และนี่คือสาเหตุที่เด็กจำนวนหนึ่งได้ศูนย์จากร้อยคะแนนในส่วนนี้ ความจริงก็เป็นสิทธิของทีมงาน..ที่จะทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง แต่ผมขอยกตัวอย่างให้พิจารณาเช่น ด.ช.เอ ทางบ้านฐานะไม่ค่อยดีแถมบ้านอยู่ใกล อยากไปเรียนกวดวิชาเหมือนเพื่อนๆเหมือนกัน แต่เมือคำนวณเวลาเดินทางและค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วครอบครัวสู้ไม่ไหว ผู้เป็นพ่อจึงชวนลูกเข้ามาหาความรู้ ค้นคว้าจากคำอธิบายของท่านผู้มีพระคุณหลายท่านใน WEB.นี้ (ซึ่งทั้งครอบครัวทราบซึ้งในน้ำใจของท่านเป็นอย่างยิ่ง) พอมีความรู้บ้างก็ตระเวณแข่งหาประสบการณ์ได้เหรียญรางวัลและเกียรติบัตรระดับประเทศมากมาย ส่งเป็นผลงานด้วยความภาคภูมิใจ แต่ดูคะแนนที่ได้แล้วทางทีมงาน..คงมองว่าเป็นลูกคนรวย มีเงินไปโรงเรียนกวดวิชาถึงได้ตระเวณแข่งมากมาย ส่วนเด็กอีกคนคือ ด.ช.บี ทุกอย่างทางบ้านอำนวยเลยไม่มีปัญหาได้เรียนกวดวิชาตามปกติทั่วไป ด.ช.บี ก็สอบแข่งขันรายการต่างๆคล้าย ด.ช.เอ นั่นเหละ แต่ไม่ค่อยจะได้เหรียญรางวัลหรือเกียรติบัตรชมเชยยังยาก เลยไม่ค่อยจะมีผลงานส่ง แต่เผอิญคะแนนใกล้เคียง(ด.ช.เอ มากกว่านิดหน่อย)เพราะช่วงที่สอบรอบสองของ RASA เป็นช่วงเดียวกับ TMO ด.ช.เอ ให้เวลาส่วนใหญ่กับ TMO โดยกะว่าสอบ RASA แค่ผ่านก็พอ ส่วน ด.ช.บี ว่างๆ เลยกวดวิชาอุตลุต พอคะแนนใกล้เคียงกันตามสมมติฐานอันลึกซึ้งของทีมงาน มองว่า ด.ช.บี เป็นเด็กครอบครัวด้อยโอกาส แข่งขันน้อย(เพราะส่งผลงานน้อย)แสดงว่าไม่มีเงินไปกวดวิชา ยังสามารถทำคะแนนได้ขนาดนี้ คงเป็นเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนแน่ๆ สรุปท้ายๆเลย ด.ช.เอ ได้คะแนนศูนย์กับเกือบศูนย์ ส่วน ด.ช.บี ได้ 44 กับ 51 คะแนนส่วนนี้คือคะแนนด้านความเป็นผู้นำและด้านความขยันขันแข็ง จิตสาธารณะ ไม่อยากบรรยายต่อแล้ว...มองอีกมุมก็เหมือนที่ คุณสมัครว่า เป็นการดีเสียอีกที่ทำให้ตัดสินใจง่าย เด็กก็ฮือฮาอยู่ไม่นานตอนนี้ถ้าจะให้ไปเรียนจริงๆคงต้องบังคับ ขอฝากถึงทีมงาน..สักนิด นึกถึงหัวอกคนอื่นบ้าง ตอนโฆษณาเชิญชวน กับ ตอนให้คะแนนท้ายๆ อย่าให้เหมือนว่าเขียนด้วยมือแต่ลบด้วย... หรืออย่าให้เด็กมองว่าถูกหลอกมาเชือด มหิดลวิทย์ฯเจริญก้าวหน้ามาได้เพราะมีความยุติธรรมครับ
|
| |
| เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
|
|
