สสวท รอบ 2 ออกแล้ววววว.....

[เด็กตรอกจันท์]

อีกอย่างนึงครับ ข้อสอบรอบสองก็ไม่เคยเห็นกันเลย
แล้วจะฝึกให้เด็กเขียนอย่างไร
แต่ผมทราบว่าบางโรงเรียน มีข้อสอบเก่ารอบสองหลายปีเลย
แล้วเด็กอื่นจะเอาแนวอะไรไปฝึกฝนเขียนละครับ ?

ทำไม สสวท จึงไม่แจกเด็กกลับบ้านแบบรอบแรกครับ
ปีต่อๆ ไป เด็กทุกคนจะได้มีโอกาสศึกษาเตรียมตัวได้เท่าเทียมกัน



ขอบคุณ ครู whatshix มากที่ชี้แนะครับ

[Amankris]

#15
คำถามน่าสนใจมาก

จะตอบคำถามนี้ได้ ต้องดูจุดประสงค์การจัดแข่งของสสวท.ครับ

ว่าเค้าต้องการให้ เขียนเป็น หรือแค่ สอบได้ ก็พอ

[whatshix]

มุมมองของผมเนี่ย
การฝึกฝนเขียนควรจะฝึกฝนตั้งแต่เด็กครับ
แต่ทั้งนี้ก็ต้องตามศักยภาพของเด็กนะ
เพราะแน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้ ที่เด็กจะเขียนได้อลังการแบบงานของผู้ใหญ่

สมัยเป็นเด็กประถม ผมจำได้ว่า ก็ต้องเขียนแสดงวิธีทำส่งอาจารย์เหมือนกันนะ
คิดว่าสมัยนี้ การแสดงวิีธีทำอาจจะถูกปล่อยปละมากเกินไป สสวท ซึ่งเป็นสถาบันที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมการสอนฯ
ก็เลยอยากจะเน้นที่จุดนี้เป็นพิเศษกระมัง (อันนี้ผมคาดเดาเอาเองนะ อย่าพึ่งเชื่อล่ะ)

แต่ก่อนอื่น การสอนการเขียนงานนี่ คงเป็นไปเพื่อสร้างศักยภาพทางหนึ่งให้เด็กมากกว่าไปโฟกัสที่ สสวท(รอบสอง) ครับ
โอเคล่ะ สนามแข่งขันต่างๆ มีข้อดี คือ ช่วยกระตุ้นบรรยากาศทางการศึกษา ให้ครูและเด็กอยากพัฒนาตัวเอง
แต่ถ้าคิดถึงการแข่งขันจนเกินไป มันจะะทำลายความสนุกในการเรียนการสอนเสียเปล่าๆ

[หยินหยาง]

อันที่จริงข้อสอบของสมาคมคณิตศาสตร์ประถม ก็มี part แสดงวิธีทำ ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ ส่วนที่อยากจะรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะถูก ทางสมาคมจะมีการเฉลยในวรสารคณิตศาสตร์ฯ ที่ออกโดยสมาคม ซึ่งก็จะบอกว่าแต่ละส่วนที่ตอบได้กี่คะแนนของข้อนั้น ก็จะเหมือนการตรวจข้อสอบบรรยายทั่วไป ที่มักจะดู keyword ของข้อนั้นๆ ปัญหาเท่าที่ทราบน่าจะมาจากกระบวนการสอน ตัวผู้สอน เป็นหลัก มักจะเน้นโจทย์ที่เป็นประโยคสัญลักษณ์มากกว่า ที่จะเน้นการเขียนแสดงวิธีทำ

[theme2010]

ข้อสอบรอบ2 สสวท. รู้สึกว่าจะอยู่ในเอกสารแนวคิดที่แจกให้กับผู้ที่เข้าค่ายนะ แต่ว่าจะเป็นของปีเก่าๆ

[whatshix]

มาเสวนากันต่อ (ผมชอบกระทู้แลกเปลี่ยนความคิดกันแบบนี้นะ มันกระตุ้นบรรยากาศดี )

ที่ถามว่า ทำไมข้อสอบคณิตนานาชาติที่ฮ่องกง (คงหมายถึง โปว เหลียง ก๊ก) ไม่มีการเขียน
ผมเดาว่า คงเป็นเพราะข้อจำกัดทางภาษาของเด็กครับ ตอนแข่งขันจริงนี่ บางประเทศยังต้องให้มีวิทยากรไปแปลโจทย์ให้

ส่วนการแข่งขันวิชาการนานาชาติของ สพฐ
พอดีผมเคยมีโอกาสเคยเข้าฟังการสัมนา-อบรม ของท่านอาจารย์ปราโมทย์ ขจรภัย
ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวเรือใหญ่ของการแข่งขันรายการนี้
จริงๆแล้ว ท่านก็ให้ความสำคัญกับเทคนิคการสอน และรากฐานของการสอนมากๆครับ
เพียงแต่ว่า ระบบการทำงานคณะทำงานของการแข่งขันรายการนี้ จะเป็นการแต่งตั้งคุณครูจากทั่วประเทศให้เข้ามาช่วยงาน
ซึ่งสามารถดึงตัวมาช่วยได้ภายในระยะเวลาจำกัดเท่านั้น ถ้าเป็นข้อสอบแบบเขียนแสดงวิธีทำ อาจกินเวลาทำงานนานเกินไป
ที่สำคัญคือ จำนวนผู้เข้าสอบรอบสองของรายการนี้ น่าจะเยอะกว่า สสวท รอบสอง (เพราะคัดเลือกรอบแรกเป็นเขต)
นอกจากนี้ การแข่งขันของ สพฐ ก็เพื่อคัดเลือกตัวแทนไปแข่งในระดับนานานชาติ ซึ่งไม่มีการเขียน ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวข้างต้นครับ
(ทั้งนี้ทั้งนั้น เหตุผลในย่อหน้านี้ เป็นการคาดการณ์ของผม อย่าพึ่งเชื่อนะครับ)

ต่อไป เราจะมาว่ากันถึงเหตุผลที่ทำไมบางรายการถึงไม่ยอมแจกข้อสอบเด็กกลับบ้าน
ผมเคยได้ยินข่าววงใน (ดังนั้น เมื่อเป็นข่าวที่ไม่มีพยาน หลักฐาน ยืนยัน ท่านก็อย่าพึ่งเชื่อ เช่นกัน )
เมื่อประมาณไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในการแข่งขันรอบสองของรายการหนึ่ง ไม่รู้ว่าคนจัดแจกข้อสอบ หรือเด็กจำออกมา
แต่ที่แน่ๆ ผู้ปกครองเอาข้อสอบไปให้ติวเตอร์เฉลย และคำตอบที่ได้ ก็ทำให้ผู้ปกครองมั่นใจว่า ลูกของตนน่าจะติด
แต่ผลประกาศออกมา ปรากฏว่า ไม่มีชื่อของเด็กคนนั้นครับ
เรื่องใหญ่เลยทีนี้ ผู้ปกครองคนนั้นก็ไปร้องเรียนถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงฯเป็นเรื่องเป็นราวกันเลยทีเดียว

และเป็นที่น่าสังเกตว่า ปีนี้ แม้กระทั่งรอบแรก การแข่งขันวิชาการนานานชาติของ สพฐ ก็ไม่ให้ข้อสอบคืนกลับมา
ผมได้ยินมาว่า (อีกแหละ )
มีบางสำนักพิมพ์นำข้อสอบไปเฉลย และพิมพ์ขายเป็นล่ำเป็นสัน (ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม)
โดยไม่ได้ขออนุญาตทางเจ้าของข้อสอบ
ปีนี้ทาง สพฐ จึงเข้มเรื่องการเผยแพร่ข้อสอบและเฉลยมากเลยครับ

เรื่องที่ผมเล่ามาทั้งหมด ขอย้ำว่าอย่าพึ่งเชื่อครับ เพราะมันไม่มีหลักฐานและพยาน
เอาเป็นว่า อ่านกันสนุกๆครับ

[เด็กตรอกจันท์]

คุณ whatshix ครับ

1.ถ้าปกปิดข้อสอบได้หมดจริงก็ยุติธรรมดี แต่ทุกปีก็มีหลายโรงเรียนได้กันมาดู ได้เปรียบเยอะครับ

2.การปกปิดข้อสอบ ถ้าทำกันในการสอบคัดเลือกเข้าเรียนก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละสถาบัน
แต่ในการสอบแข่งขันเพื่อพัฒนาการศึกษาถ้าไม่แจกออกมา ขบวนการเรียนรู้มันไม่จบครับ
คนเป็นครูคงทราบดี หลายที่ก็แจกออกมาได้ สมาคม ราชภัฏ สิรินธร ประกายกุหลาบ

เหตุผลต่างๆ ที่ว่ามาฟังดูดีมากครับ แต่ช่างบั่นทอนพัฒนาการทางการเรียนรู้คณิต และวิทย์ของเด็กมาก
ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรแล้ว

ผู้หลักผู้ใหญ่ทางราชการ อ้างแต่ความวุ่นวายเดือดร้อนของตนเองจากการโดนตรวจสอบฝ่ายเดียว

เด็กสอบไปแล้ว ทำไม่ได้ ก็น่าจะมีโอกาศได้ตรวจสอบ แก้ไข คิดกันต่อ ว่าต้องทำอย่าง คิดอย่างไร
เรียนรู้ตรงไหนเพิ่มเติมจึงจะทำได้ พอไม่ได้ข้อสอบออกมา ก็ทำอะไรต่อไม่ได้

แต่ตามโรงเรียนกวดวิชา ถึงไม่มีตัวจริงก็มีการรวบรวม(โดยวิธีการหลายอย่าง)ไว้ใช้ตรวจสอบ
สอน ติวเด็กได้ ต่อ ๆ ไป ยิ่งเป็นการเพิ่มความได้เปรียบสำหรับ คนเรียนกวดวิชา กับคนไม่เรียนเข้าไปอีก

แต่สนามที่แจกข้อสอบกลับ เช่น ราชภัฏ สมาคม พวกโรงเรียนกวดวิชา จะขายคอร์สหากินไม่ค่อยได้
เพราะแนวโจทย์ต่าง ๆ เปิดเผยกันให้เห็นชัดหมด ไม่มีได้เปรียบเสียเปรียบกันเลย

[หยินหยาง]

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ เด็กตรอกจันท์

การปกปิดข้อสอบ ถ้าทำกันในการสอบคัดเลือกเข้าเรียนก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละสถาบัน
แต่ในการสอบแข่งขันเพื่อพัฒนาการศึกษาถ้าไม่แจกออกมา ขบวนการเรียนรู้มันไม่จบครับ
คนเป็นครูคงทราบดี หลายที่ก็แจกออกมาได้ สมาคม ราชภัฏ สิรินธร ประกายกุหลาบ

นอกจากที่กล่าวข้างต้นยังมีการแข่งขันที่คนให้ความสนใจสูงก็แจกข้อสอบ เช่น สอวน. TMO
แต่พอเข้าถึง ค่าย สสวท.รอบลึก ก็ไม่แจก หรือถ้าแจกก็เป็นมารยาทที่ห้ามเปิดเผย

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ เด็กตรอกจันท์

เด็กสอบไปแล้ว ทำไม่ได้ ก็น่าจะมีโอกาศได้ตรวจสอบ แก้ไข คิดกันต่อ ว่าต้องทำอย่าง คิดอย่างไร
เรียนรู้ตรงไหนเพิ่มเติมจึงจะทำได้ พอไม่ได้ข้อสอบออกมา ก็ทำอะไรต่อไม่ได้

ถ้าจะให้ดีน่าจะเริ่มจากการเรียนการสอนที่โรงเรียน คือสอบกลางภาคเสร็จ สอบปลายภาคเสร็จ อย่าเพิ่งปิดเทอม มาเรียนต่อโดยการมาฟังเฉลยและถ้าคุณครูมีความสามารถสูงตรวจข้อสอบได้เร็วและมีกึ๋นในการวิเคราะห์ข้อสอบที่เด็กทำ ว่าแต่ละข้อที่เด็กทำได้มีข้อไหนและทำไม่ได้เป็นข้อไหน เพื่อจะได้นำมาชี้แนะเด็กและปรับปรุงวิธีการสอนได้อีก อย่างงี้ค่อยเป็น child center ในกรณีที่เด็กสอบไม่ผ่านต้องซ่อม ก็เลิกให้แก้โดยการทำรายงานส่ง เพราะเด็กก็ copy ส่งอยู่ดีหรือบางทีก็แก้โดยให้เขียนเพื่อคิดว่าเด็กคงได้อ่าน เอาเข้าจริงเด็กก็ลอกส่งๆอยู่ดี หรือถ้าแย่ไปกว่านั้นก็ลอกข้ามบรรทัดข้ามหน้าก็มี เพราะรู้อยู่ว่าครูก็คงไม่ได้อ่าน เดี๋ยวจะหาว่ามาบ่นและตำหนิ ไม่มีข้อเสนอ มีครับ สำหรับเด็กที่ไม่ผ่านก็นำมาสอนเสริมและบอกข้อสอบให้เด็กว่าจะออกอะไร หรือถ้าเด็กยังไม่มีความสามารถที่จะทำได้(เพราะต้องเข้าใจว่าเด็กที่ต้องซ่อมเป็นเด็กที่หัวอ่อนอยู่แล้ว) ก็ทำเฉลยให้เด็กดู หน้าที่ของเด็กก็เพียงเพื่อไปทบทวนให้เข้าใจและจำไปสอบ ส่วนข้อสอบที่ให้สอบ ก็คือข้อที่วัดสาระของการเรียนรู้ในระดับชั้นนั้นว่าคนที่ผ่านควรรู้อะไร ไม่ใช่ออกข้อสอบแบบซี้ซัวนะ ไม่งั้นก็ไม่เกิดประโยชน์

เรื่องระบบการศึกษาถ้าสนใจลองค้นดูกระทู้เก่าๆ ก็มีอยู่เหมือนกัน

[whatshix]

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ เด็กตรอกจันท์

คุณ whatshix ครับ

1.ถ้าปกปิดข้อสอบได้หมดจริงก็ยุติธรรมดี แต่ทุกปีก็มีหลายโรงเรียนได้กันมาดู ได้เปรียบเยอะครับ

2.การปกปิดข้อสอบ ถ้าทำกันในการสอบคัดเลือกเข้าเรียนก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละสถาบัน
แต่ในการสอบแข่งขันเพื่อพัฒนาการศึกษาถ้าไม่แจกออกมา ขบวนการเรียนรู้มันไม่จบครับ
คนเป็นครูคงทราบดี หลายที่ก็แจกออกมาได้ สมาคม ราชภัฏ สิรินธร ประกายกุหลาบ

เหตุผลต่างๆ ที่ว่ามาฟังดูดีมากครับ แต่ช่างบั่นทอนพัฒนาการทางการเรียนรู้คณิต และวิทย์ของเด็กมาก
ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไรแล้ว

ผู้หลักผู้ใหญ่ทางราชการ อ้างแต่ความวุ่นวายเดือดร้อนของตนเองจากการโดนตรวจสอบฝ่ายเดียว

เด็กสอบไปแล้ว ทำไม่ได้ ก็น่าจะมีโอกาศได้ตรวจสอบ แก้ไข คิดกันต่อ ว่าต้องทำอย่าง คิดอย่างไร
เรียนรู้ตรงไหนเพิ่มเติมจึงจะทำได้ พอไม่ได้ข้อสอบออกมา ก็ทำอะไรต่อไม่ได้

แต่ตามโรงเรียนกวดวิชา ถึงไม่มีตัวจริงก็มีการรวบรวม(โดยวิธีการหลายอย่าง)ไว้ใช้ตรวจสอบ
สอน ติวเด็กได้ ต่อ ๆ ไป ยิ่งเป็นการเพิ่มความได้เปรียบสำหรับ คนเรียนกวดวิชา กับคนไม่เรียนเข้าไปอีก

แต่สนามที่แจกข้อสอบกลับ เช่น ราชภัฏ สมาคม พวกโรงเรียนกวดวิชา จะขายคอร์สหากินไม่ค่อยได้
เพราะแนวโจทย์ต่าง ๆ เปิดเผยกันให้เห็นชัดหมด ไม่มีได้เปรียบเสียเปรียบกันเลย

ในฐานะคนเป็นครูสอน ผมก็อยากให้แจกข้อสอบคืนมันทุกสนามนั่นแหละ (ของฟรี ผมชอบ )

(ถึงไม่แจก ผมก็จะตามหาเอามาฝึกทำไว้สอนเด็กอยู่ดี )

[KOK]

ข้อสอบสสวท.ที่ออกแนวเขียนแบบนี้

คนที่ได้เหรียญทองในปีนี้ก็กวาดรางวัลมาแทบทั้งนั้นนะครับ

ไม่ว่าจะเป็น top 10 สิรินธรทั้งเดี่ยวและทีม

สมาคมคณิตศาสตร์ทั้งเดี่ยวและทีม

เพชรยอดมงกุฏ 10 คนสุดท้ายก็มีนะครับ



ดังนั้นถ้าเด็กพร้อมจริงไม่ว่าข้อสอบจะออกมาแนวไหน

เด็กกลุ่มนั้นก็ยังคงทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องติวให้ตรงกับข้อสอบที่ออก

ส่วนเด็กที่เก่งมากบางคนแล้วพลาดในคราวนี้

ก็จะได้นำสิ่งที่พลาด เป็นจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขปรับปรุง

เพื่อลงสู่สนามต่อๆไปนะครับ