Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > คอมบินาทอริก
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #16  
Old 28 กันยายน 2009, 15:40
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

ครับผม สงสัยบรรทัดไหนก็ถามเลยนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #17  
Old 28 กันยายน 2009, 23:28
เอกสิทธิ์'s Avatar
เอกสิทธิ์ เอกสิทธิ์ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 602
เอกสิทธิ์ is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Onasdi View Post
ครับผม สงสัยบรรทัดไหนก็ถามเลยนะครับ
ผมมีคำถามเพิ่มเติมครับ เราน่าจะลอง ค้นหาจำนวนสี่เหลี่ยมขนาด i $\times $ j ดูนะครับ โดยกำหนดให้ i แทนระยะตามแนวนอน j แทนระยะตามแนวตั้ง

28 กันยายน 2009 23:30 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ เอกสิทธิ์
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #18  
Old 29 กันยายน 2009, 00:00
Onasdi's Avatar
Onasdi Onasdi ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 12 พฤษภาคม 2005
ข้อความ: 760
Onasdi is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ เอกสิทธิ์ View Post
ผมมีคำถามเพิ่มเติมครับ เราน่าจะลอง ค้นหาจำนวนสี่เหลี่ยมขนาด i $\times $ j ดูนะครับ โดยกำหนดให้ i แทนระยะตามแนวนอน j แทนระยะตามแนวตั้ง
คิดไม่ออกครับ มึนๆ
อยากถามว่าคุณเอกสิทธิ์มีวิธีอื่นสำหรับคำถามแรกไหมครับ อยากเห็น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #19  
Old 29 กันยายน 2009, 10:18
เอกสิทธิ์'s Avatar
เอกสิทธิ์ เอกสิทธิ์ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 602
เอกสิทธิ์ is on a distinguished road
Default

สูตรการหาจำนวนสี่เหลี่ยม i $\times $ j โดยกำหนดให้ i แทนความยาวตามแนวนอน j แทนความยาวตามแนวดิ่ง

ให้ $N_{ij}$ แทนจำนวนสี่เหลี่ยม i $\times $ j
จะได้ว่า

$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) + \frac{(i-1)^2}{4} กรณีที่ i เป็นจำนวนคี่$
เงื่อนไขคือ $i + 2j \leqslant 2n + 1$

$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) + \frac{i^2 - 2i}{4} กรณีที่ i เป็นจำนวนคู่$
เงื่อนไขคือ $i + 2j \leqslant 2n$

นี่ปล้ำกันมาสักพักหนึ่งเหมือนกันกว่าจะพิมพ์ออกมาได้ คิดว่าไม่น่าผิดอะไร ถ้าไม่แทนค่าอะไรผิด แนวคิดก็น่าจะถูก

ลองแทนค่า ทดลองหาผลรวมกรณี 4 ชั้น ดู ปรากฎว่าตรงกันครับ

29 กันยายน 2009 21:51 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 10 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ เอกสิทธิ์
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #20  
Old 29 กันยายน 2009, 10:33
เอกสิทธิ์'s Avatar
เอกสิทธิ์ เอกสิทธิ์ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 602
เอกสิทธิ์ is on a distinguished road
Thumbs up

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Onasdi View Post
คิดไม่ออกครับ มึนๆ
อยากถามว่าคุณเอกสิทธิ์มีวิธีอื่นสำหรับคำถามแรกไหมครับ อยากเห็น
อดใจไว้หน่อยครับ ผมทำเป็นบทความส่งนิตยสาร MY MATHS คิดว่าถ้าทางนั้นเขาพิจารณาลงพิมพ์ให้ คุณก็จะได้เห็น เพราะผมไม่ค่อยจะถนัดพิมพ์ทางนี้นักหรอก ไม่ค่อยถนัด post เป็นรูป เป็นสมการทางคณิตศาสตร์ด้วย Latex เมื่อกี้ก็ลองปล้ำกับมันมา คุณลองตรวจสอบดูก็ได้ว่าที่ผมคิดนั้นมันถูกหรือเปล่าครับ

ถ้าได้คำตอบตรงกันก็น่าจะถูก
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #21  
Old 29 กันยายน 2009, 13:00
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ เอกสิทธิ์ View Post
สูตรการหาจำนวนสี่เหลี่ยม i $\times $ j โดยกำหนดให้ i แทนความยาวตามแนวนอน j แทนความยาวตามแนวดิ่ง

ให้ $N_{ij}$ แทนจำนวนสี่เหลี่ยม i $\times $ j
จะได้ว่า

$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) - (\frac{(i-1)}{4} )^2 กรณีที่ i เป็นจำนวนคี่$
เงื่อนไขคือ $i + 2j \leqslant 2n + 1$

$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) - (1 + \frac{i}{2})(2 - \frac{i}{2})กรณีที่ i เป็นจำนวนคู่$
เงื่อนไขคือ $i + 2j \leqslant 2n$

นี่ปล้ำกันมาสักพักหนึ่งเหมือนกันกว่าจะพิมพ์ออกมาได้ คิดว่าไม่น่าผิดอะไร ถ้าไม่แทนค่าอะไรผิด แนวคิดก็น่าจะถูก
ขออนุญาตถามหน่อยครับ

1. สูตรข้างบนนี้คือสูตรหาจำนวนสี่เหลี่ยมในสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีความกว้างเท่ากับ i และความยาวเท่ากับ j หรือเปล่าครับ

2. n แทนอะไรครับ
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #22  
Old 29 กันยายน 2009, 13:44
เอกสิทธิ์'s Avatar
เอกสิทธิ์ เอกสิทธิ์ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 602
เอกสิทธิ์ is on a distinguished road
Thumbs up

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ banker View Post
ขออนุญาตถามหน่อยครับ

1. สูตรข้างบนนี้คือสูตรหาจำนวนสี่เหลี่ยมในสี่เหลี่ยมมุมฉากที่มีความกว้างเท่ากับ i และความยาวเท่ากับ j หรือเปล่าครับ

2. n แทนอะไรครับ

i แทนระยะความยาวตามแนวนอน
j แทนระยะความยาวตามแนวตั้ง
n แทนจำนวนชั้น

ขอรับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #23  
Old 29 กันยายน 2009, 16:31
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ เอกสิทธิ์ View Post
สูตรการหาจำนวนสี่เหลี่ยม i $\times $ j โดยกำหนดให้ i แทนความยาวตามแนวนอน j แทนความยาวตามแนวดิ่ง

ให้ $N_{ij}$ แทนจำนวนสี่เหลี่ยม i $\times $ j
จะได้ว่า

$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) + \frac{(i-1)^2}{4} กรณีที่ i เป็นจำนวนคี่$
เงื่อนไขคือ $i + 2j \leqslant 2n + 1$

$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) + \frac{i^2 - 2i}{4} กรณีที่ i เป็นจำนวนคู่$
เงื่อนไขคือ $i + 2j \leqslant 2n$

นี่ปล้ำกันมาสักพักหนึ่งเหมือนกันกว่าจะพิมพ์ออกมาได้ คิดว่าไม่น่าผิดอะไร ถ้าไม่แทนค่าอะไรผิด แนวคิดก็น่าจะถูก

ลองแทนค่า ทดลองหาผลรวมกรณี 4 ชั้น ดู ปรากฎว่าตรงกันครับ
ถามใหม่ (ด้วยความเกรงใจยิ่ง)

สูตรข้างบนนี้ คือสูตรหาสี่เหลี่ยม ตามรูปนี้ใช่ไหมครับ


แล้ว i กับ j นับยังไงครับ (ยังไม่เข้าใจการใช้สูตร)
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #24  
Old 29 กันยายน 2009, 16:46
เอกสิทธิ์'s Avatar
เอกสิทธิ์ เอกสิทธิ์ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 602
เอกสิทธิ์ is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ banker View Post
ถามใหม่ (ด้วยความเกรงใจยิ่ง)

สูตรข้างบนนี้ คือสูตรหาสี่เหลี่ยม ตามรูปนี้ใช่ไหมครับ


แล้ว i กับ j นับยังไงครับ (ยังไม่เข้าใจการใช้สูตร)

ใช่ครับ i คือความยาวตามแนวนอน
ใช่ครับ j คือความยาวตามแนวตั้ง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #25  
Old 29 กันยายน 2009, 17:04
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

ก็ยังงงๆอยู่ครับ

ช่วยยกตัวอย่างการใช้สูตรของคุณเอกสิทธิ์กับรูปนี้ให้หน่อยครับ




แทนค่าสูตรยังไงครับ
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #26  
Old 29 กันยายน 2009, 21:49
เอกสิทธิ์'s Avatar
เอกสิทธิ์ เอกสิทธิ์ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 602
เอกสิทธิ์ is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ banker View Post
ก็ยังงงๆอยู่ครับ

ช่วยยกตัวอย่างการใช้สูตรของคุณเอกสิทธิ์กับรูปนี้ให้หน่อยครับ




แทนค่าสูตรยังไงครับ
ให้ Nij แทนจำนวนสี่เหลี่ยม i $\times $ j
จะได้ว่า

ให้ $N_{ij}$ แทนจำนวนสี่เหลี่ยม i $\times $ j
จะได้ว่า

$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) + \frac{(i-1)^2}{4} กรณีที่ i เป็นจำนวนคี่$
เงื่อนไขคือ $i + 2j \leqslant 2n + 1$

$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) + \frac{i^2 - 2i}{4} กรณีที่ i เป็นจำนวนคู่$
เงื่อนไขคือ $i + 2j \leqslant 2n$
ยกตัวอย่างเช่นต้องการหาจำนวนสี่เหลี่ยมขนาด i × j โดยที่ i = 6 j = 1 ของรูปสี่ชั้น (n = 4)

จะสังเกตได้ว่า i เป็นจำนวนคู่ แทนค่าในสูตร
$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) + \frac{i^2 - 2i}{4} กรณีที่ i เป็นจำนวนคู่$
เงื่อนไขคือ $i + 2j \leqslant 2n$

ทดสอบก่อนว่าอยู่ในเงื่อนไขหรือไม่ในสมการเงื่อนไข $i + 2j \leqslant 2n$ จะได้
6 + 2(1) = 8 $\leqslant $ 2(4) เป็นความจริง ทดสอบเงื่อนไขผ่าน ในกรณีที่ทดสอบเงื่อนไขไม่ผ่านแสดงว่าจำนวนสี่เหลี่ยมขนาดดังกล่าวเป็น 0 (ใหญ่เกินไปบรรจุเข้าไปไม่ได้)

แทนค่าในสูตร
$N_{ij} = (n + 1 -j)(n + 2 - j - i) + \frac{i^2 - 2i}{4} กรณีที่ i เป็นจำนวนคู่$

ได้

$N_{61} = (4 + 1 -1)(4 + 2 - 1 - 6) + \frac{6^2 - 2(6)}{4}$
$N_{61} = 4(-1) + \frac{36 - 12}{4}$
$N_{61} = -4 + \frac{24}{4}$
$N_{61} = -4 + 6$
$N_{61} = 2$

ไม่เชื่อก็ลองนับดูได้เลยครับ ว่าได้ 2 รูปจริงหรือเปล่า สำหรับสี่เหลี่ยมที่มีระยะตามแนวนอนเท่ากับ 6 แนวตั้งเท่ากับ 1
มีอยู่ที่เดียวจริง ๆ คือที่ฐานของมัน ไม่เชื่อก็ลองนับดูครับ

30 กันยายน 2009 01:02 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 10 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ เอกสิทธิ์
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #27  
Old 29 กันยายน 2009, 22:29
เอกสิทธิ์'s Avatar
เอกสิทธิ์ เอกสิทธิ์ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 602
เอกสิทธิ์ is on a distinguished road
Thumbs up

ไหน ๆ ก็ไหน แล้วผมเฉลย เลยดีกว่าอันนี้เอาแนวความคิดมาจากของคุณ Onasdi แต่ผมจะเรียนเรียงรูปแบบของกระผม

หลักการของคุณ Onasdi จะอ้างอิงที่ฐานของรูป ของผมก็จะลองใช้แบบเดียวกับของเขาดู



จะเห็นได้ว่าชั้นที่ 1 จะมีเส้นตรงในแนวดิ่ง 2 เส้น เพื่อที่จะใช้ในการทำสี่เหลี่ยมดังนั้นการทำสี่เหลี่ยมจึงทำได้ $\pmatrix{2\\ 2}$รูป

ชั้นที่ 2 จะมีเส้นตรงในแนวดิ่ง 4 เส้น เพื่อที่จะใช้ในการทำสี่เหลี่ยมดังนั้นการทำสี่เหลี่ยมจึงทำได้ $\pmatrix{4\\ 2}$รูป

ชั้นที่ 3 จะมีเส้นตรงในแนวดิ่ง 6 เส้น เพื่อที่จะใช้ในการทำสี่เหลี่ยมดังนั้นการทำสี่เหลี่ยมจึงทำได้ $\pmatrix{6\\ 2}$รูป

ชั้นที่ $i$ จะมีเส้นตรงในแนวดิ่ง $2i$ เส้น เพื่อที่จะใช้ในการทำสี่เหลี่ยมดังนั้นการทำสี่เหลี่ยมจึงทำได้ $\pmatrix{2i\\ 2}$รูป

รูปสี่เหลี่ยมเหล่านี้เปรียบได้กับหัวของรูปสี่เหลี่ยม

เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพว่าเปรียบได้กับหัวอย่างไร ผู้เขียนขอแสดงดังต่อไปนี้


จะเห็นได้ว่าสี่เหลี่ยมที่อยู่ตามชั้นต่าง ๆ สามารถแปลงเป็นสี่เหลี่ยมที่ใช้ชั้นที่ i เป็นฐานได้

ดังนั้นจำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i เท่ากับ จำนวนสี่เหลี่ยมจากชั้นที่1 + จำนวนสี่เหลี่ยมจากชั้นที่ 2 + จำนวนสี่เหลี่ยมจากชั้นที่ 3 + ... จำนวนสี่เหลี่ยมจากชั้นที่ n
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\pmatrix{2\\ 2}$ + $\pmatrix{4\\ 2}$ + $\pmatrix{6\\ 2}$ + ... + $\pmatrix{2i\\ 2}$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\frac{2!}{2!} + \frac{4!}{2!\cdot 2!} + \frac{6!}{2!\cdot 4!} + ... \frac{(2i)!}{2!\cdot (2i - 2)!}$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\frac{2\cdot 1}{2!} + \frac{4\cdot 3}{2!} + \frac{6\cdot 5}{2!} + ... \frac{(2i)\cdot(2i - 1)}{2!}$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\frac{2\cdot 1}{2} + \frac{4\cdot 3}{2} + \frac{6\cdot 5}{2} + ... \frac{(2)\cdot(2i - 1)}{2}$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\frac{2\cdot 1 + 4\cdot 3 + 6\cdot 5 + ... (2i)\cdot(2i - 1)}{2}$

จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\sum_{n = 1}^{i} \frac{(2n)\cdot(2n - 1)}{2}$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\sum_{n = 1}^{i} n\cdot(2n - 1)$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\sum_{n = 1}^{i} 2n^2 - n$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $2\cdot \frac{(i)(i + 1)(2i + 1)}{6} - \frac{i(i+1)}{2}$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\frac{(i)(i + 1)(2i + 1)}{3} - \frac{i(i+1)}{2}$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\frac{(2i)(i + 1)(2i + 1)}{6} - \frac{3i(i+1)}{6}$
จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\frac{(i)(i + 1)(4i - 1)}{6}$

สรุปได้ว่า จำนวนสี่เหลี่ยมที่มีฐานที่ชั้น i = $\frac{(i)(i + 1)(4i - 1)}{6}$

หนทางใกล้ความจริงไปทุกที
กรณีที่มี n ชั้น จะมีจำนวนสี่เหลี่ยมเท่ากับ จำนวนสี่เหลี่ยมที่ฐานชั้นที่ 1 + จำนวนสี่เหลี่ยมที่ฐานชั้นที่ 2 + จำนวนสี่เหลี่ยมที่ฐานชั้นที่ 3 + ... จำนวนสี่เหลี่ยมที่ฐานชั้นที่ n

จะได้ว่าจำนวนสี่เหลี่ยมทั้งหมดของรูป n ชั้น = $\sum_{i = 1}^{n} \frac{(i)(i + 1)(4i - 1)}{6} $
กำหนดให้ N แทนจำนวนสี่เหลี่ยมทั้งหมดของรูป n ชั้น

$N = \sum_{i = 1}^{n} \frac{(i)(i + 1)(4i - 1)}{6}$
$ = \sum_{i = 1}^{n} \frac{(4i^2 + 3i -1)(i)}{6}$
$ = \sum_{i = 1}^{n} \frac{(4i^3 + 3i^2 -i)}{6}$
$ = \frac{n^2(n + 1)^2 + \frac{(n)(n + 1)(2n + 1)}{2} - \frac{n(n + 1)}{2}}{6}$
$ = \frac{n^2(n + 1)^2 + \frac{(n)(n + 1)(2n)}{2}}{6}$
$ = \frac{n(n + 1)(n^2 + n) + n(n + 1)(n)}{6}$
$ = \frac{n(n + 1)(n^2 +2n)}{6}$
$ = \frac{(n)(n + 1)(n)(n+2)}{6}$
$ = \frac{(n)^2(n + 1)(n+2)}{6}$

$ N = \frac{(n)^2(n + 1)(n+2)}{6}$
รูปภาพที่แนบมาด้วย
 

30 กันยายน 2009 00:50 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 26 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ เอกสิทธิ์
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #28  
Old 30 กันยายน 2009, 09:27
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

ขนาดอ่านอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว
แต่คน key เหนื่อยกว่า (แก้ตั้งเกือบ 30 ครั้งกว่าจะเข้าที่) เห็นใจ และขอบคุณจริงๆ

ก็คงเอาสูตรนี้ไปติวหลานได้
(เอาไว้ให้มันโตแล้วไปหาทางพิสูจน์เอาเอง ปู่แก่แล้ว ปวดหมอง)
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)

30 กันยายน 2009 09:29 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ banker
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #29  
Old 30 กันยายน 2009, 09:41
เอกสิทธิ์'s Avatar
เอกสิทธิ์ เอกสิทธิ์ ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 30 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 602
เอกสิทธิ์ is on a distinguished road
Default

ไม่เป็นไรครับ ไม่เหนื่อยเลยก็แค่ต้อง refresh ปรับบ่อย ๆ เพื่อคอยดูผลเท่านั้นเองครับ สนุกอีกต่างหาก ได้ทำอะไรใหม่ ก่อนนอน web นี้ทำให้กะลาของกระผมแตก ได้เจอแนวความคิดในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ใหม่ ๆ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #30  
Old 30 กันยายน 2009, 10:38
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ เอกสิทธิ์ View Post
ไม่เป็นไรครับ ไม่เหนื่อยเลยก็แค่ต้อง refresh ปรับบ่อย ๆ เพื่อคอยดูผลเท่านั้นเองครับ สนุกอีกต่างหาก ได้ทำอะไรใหม่ ก่อนนอน web นี้ทำให้กะลาของกระผมแตก ได้เจอแนวความคิดในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ ใหม่ ๆ
ใช้ปุ่ม แสดงผลข้อความแบบรวดเร็ว สิครับ จะได้ไม่ต้องกด refresh บ่อยๆ และทำให้สามารถแก้ไขข้อความก่อนส่งได้ด้วย
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 23:36


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha