Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > คณิตศาสตร์อุดมศึกษา
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 17:55
PURE MATH PURE MATH ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 มิถุนายน 2012
ข้อความ: 171
PURE MATH is on a distinguished road
Default

1. $$ให้ x\in \mathbf{R} ถ้า x^5+7x^3+5x\geqslant x^4+x^2+8 แล้ว x\geqslant 0$$
2. $$ให้ x\in \mathbf{R} ถ้า x^5-4x^4+3x^3-x^2+33x-4\geqslant 0 แล้ว x\geqslant 0$$
พิสูจน์โดยใช้การแย้งสลับที่

3. $$ถ้า a\in \mathbf{R} และ 0<x<4 แล้ว \frac{4}{x(4-x)}\geqslant 1$$
4. $$ถ้า n\in \mathbb{Z} แล้ว n^2+3n+4 เป็นจำนวนคู่$$
5. $$ถ้า n เป็นจำนวนคี่ แล้ว 8\mid (n^2-1)$$
6. $$ถ้า a และ b เป็นจำนวนเต็ม แล้ว a^2-4b-3\not= 0
พิสูจน์โดยใช้ข้อขัดแย้ง



ช่วยคิดหน่อยนะครับ ผมยังไม่มี ไอเดียเลย จะสอบวันจันทร์นี้แล้ววววว

6. $$ถ้า a และ b เป็นจำนวนเต็ม แล้ว a^2-4b-3\not= 0$$

16 พฤศจิกายน 2012 18:12 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ gon
เหตุผล: merge
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 18:11
gon's Avatar
gon gon ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 29 มีนาคม 2001
ข้อความ: 4,608
gon is on a distinguished road
Lightbulb

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ PURE MATH View Post
1. ให้ $x\in \mathbf{R}$ ถ้า $x^5+7x^3+5x\geqslant x^4+x^2+8$ แล้ว $x\geqslant 0$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 18:52
polsk133's Avatar
polsk133 polsk133 ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 14 สิงหาคม 2011
ข้อความ: 1,873
polsk133 is on a distinguished road
Default

5. แยกสองกรณีคือ n=4k+1,4k+3
__________________
เพจรวมโจทย์คอมบินาทอริกที่น่าสนใจ
https://www.facebook.com/combilegends
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 19:45
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ PURE MATH View Post
6. ถ้า $a$ และ $b$ เป็นจำนวนเต็ม แล้ว $a^2-4b-3\neq 0$
สมมติว่า มี $a,b$ ซึ่ง $a^2-4b-3=0$ จะได้

$a^2\equiv 3\pmod 4$

ซึ่งขัดแย้ง
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 20:52
PURE MATH PURE MATH ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 มิถุนายน 2012
ข้อความ: 171
PURE MATH is on a distinguished road
Default

#2 ขอบคุณครับ เข้าใจแล้วววว
#3 ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมต้อง ให้ n=4k+1 , 4k+3 แล้วจะทำต่อยังไงอ่ะครับ
#4 ผมยังไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ ขอบคุณทุกคำตอบนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 21:47
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ PURE MATH View Post
#4 ผมยังไม่ค่อยเข้าใจอ่ะครับ ช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้ไหมครับ
จำนวนเต็มใดๆจะอยู่ในรูป $a\equiv 0,1,2,3\pmod 4$

ลองยกกำลังสองดูครับว่าจะได้ค่าเป็นอะไรบ้าง
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 22:22
PURE MATH PURE MATH ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 มิถุนายน 2012
ข้อความ: 171
PURE MATH is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ nooonuii View Post
จำนวนเต็มใดๆจะอยู่ในรูป $a\equiv 0,1,2,3\pmod 4$

ลองยกกำลังสองดูครับว่าจะได้ค่าเป็นอะไรบ้าง


เข้าใจแล้วครับ มันขัดแย้งกับ $a^2\equiv 1(mod4)$ ใช่มั้ยครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 22:24
PURE MATH PURE MATH ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 มิถุนายน 2012
ข้อความ: 171
PURE MATH is on a distinguished road
Default

และก็ $a^2\equiv 0(mod4)$
ช่วยแนะ ข้อที่เหลือหน่อยนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 22:50
PURE MATH PURE MATH ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 มิถุนายน 2012
ข้อความ: 171
PURE MATH is on a distinguished road
Default

$If 5\mid 2a , then 5\mid a$
$Proof$ $Assume that $5\mid 2a$$
$there is an integer k such that 2a = 5(2k)$
$so a = 5k$
$therefore 5\mid a$


ผมเขียนพิสูจน์แบบนี้ได้มั้ยครับ ตรง $2a = 5(2k) , k\in \mathbb{Z} $
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 22:55
PURE MATH PURE MATH ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 มิถุนายน 2012
ข้อความ: 171
PURE MATH is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ PURE MATH View Post
$If 5\mid 2a , then 5\mid a$
$Proof$ $Assume that $5\mid 2a$$
$there is an integer k such that 2a = 5(2k)$
$so a = 5k$
$therefore 5\mid a$


ผมเขียนพิสูจน์แบบนี้ได้มั้ยครับ ตรง $2a = 5(2k) , k\in \mathbb{Z} $


Proof Assume that $$5\mid 2a$$
there is an integer k such that $$2a = 5(2k)$$
so $$a = 5k$$
therefore $$5\mid a$$


ผมเขียนพิสูจน์แบบนี้ได้มั้ยครับ ตรง $$ 2a = 5(2k) , k\in \mathbb{Z} $$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 16 พฤศจิกายน 2012, 23:39
Keehlzver's Avatar
Keehlzver Keehlzver ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 26 มกราคม 2009
ข้อความ: 533
Keehlzver is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ PURE MATH View Post
Proof Assume that $$5\mid 2a$$
there is an integer k such that $$2a = 5(2k)$$
so $$a = 5k$$
therefore $$5\mid a$$


ผมเขียนพิสูจน์แบบนี้ได้มั้ยครับ ตรง $$ 2a = 5(2k) , k\in \mathbb{Z} $$
จากนิยามการหารลงตัว $a \mid b$ ก็ต่อเมื่อมี $k \in \mathbb{Z} $ ที่ทำให้ $b=ak$
เพราะว่า $5 \mid 2a$ ดังนั้นมี $j$ ที่ีทำให้ $2a=5j$
เพราะว่า $5$ เป็นจำนวนเต็มคี่ $2a$ เป็นจำนวนเต็มคู่ เพราะฉะนั้น $j$ ต้องเป็นจำนวนเต็มคู่
จาก $j$ เป็นจำนวนเต็มคู่จะได้ว่า $j=2k$
เพราะฉะนั้น $2a=5(2k)$ ได้ว่า $a=5k$
เพราะว่า $k$ เป็นจำนวนเต็ม ดังนั้น $5\mid k$

อีกวิธีคือ ใช้เรื่องของการแบ่งจำนวนเต็มออกเป็นส่วนๆ ในที่นี้พิจารณา $a=5k,5k+1,...,5k+4$
โจทย์กำหนดว่า $5\mid 2a$ ต้องได้ว่า $a=5k$ จบขั้นตอนอ้างเหตุผล

ส่วนข้อ 2 ทำแบบที่พี่ gon ทำ

ข้อ 3 จากการที่ $0<x<4$ ได้ว่า $4-x > 0$ ทำให้เอา $x(4-x)$ คูณแล้วจัดรูปได้ $(x-2)^2 \geq 0$
(ประพจน์ตัวหลังเป็น $\geq 0$ เชื่อมด้วย "หรือ")

ข้อ 4 สังเกต $n^2+3n+4=(n+1)(n+2)+2$
พิสูจน์ว่า $2 \mid (n+1)(n+2)+2$
ทำได้มากกว่า 1 วิธีครับ ขอให้โชคดี
__________________
"ชั่วโมงหน้าต้องดีกว่าเดิม!"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 17 พฤศจิกายน 2012, 15:15
PURE MATH PURE MATH ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 มิถุนายน 2012
ข้อความ: 171
PURE MATH is on a distinguished road
Default

ขอบคุณมากๆครับ >< "
เดี๋ยวลองทำแล้ว ติดตรงไหนจะถามนะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 17 พฤศจิกายน 2012, 15:21
PURE MATH PURE MATH ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 มิถุนายน 2012
ข้อความ: 171
PURE MATH is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Keehlzver View Post

ข้อ 4 สังเกต $n^2+3n+4=(n+1)(n+2)+2$
พิสูจน์ว่า $2 \mid (n+1)(n+2)+2$
ทำได้มากกว่า 1 วิธีครับ ขอให้โชคดี
เราจะแสดงยังไงหรอครับว่า $2 \mid (n+1)(n+2)+2$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 17 พฤศจิกายน 2012, 15:34
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Default

แค่มองภาวะคู่-คี่ ก็ได้แล้วครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 17 พฤศจิกายน 2012, 15:50
PURE MATH PURE MATH ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 28 มิถุนายน 2012
ข้อความ: 171
PURE MATH is on a distinguished road
Default

แยกเป็นกรณีได้ใช่มั้ยครับ จำนวนเต็ม แยกเป็น จำนวนคู่ กับ จำนวนคี่
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 04:53


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha