Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์ทั่วไป > ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 24 พฤศจิกายน 2004, 16:56
Tony Tony ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 พฤศจิกายน 2004
ข้อความ: 131
Tony is on a distinguished road
Post ช่วยคิดด้วยครับ

จงหาสูตรของ (2ยกกำลัง m -1, 2ยกกำลัง n- 1 ) พร้อมทั้งพิสูจน์

24 พฤศจิกายน 2004 17:05 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Tony
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 25 พฤศจิกายน 2004, 02:50
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Post

คำตอบในรูปทั่วไปคือ (am-1,an-1) = a(m,n) - 1 ครับ การพิสูจน์ค่อนข้างยาวแต่ไม่ยากครับ เลียนแบบ Euclidean Algorithm ถ้ามีหนังสือ เสริมความรู้มุ่งสู่คณิตศาสตร์โอลิมปิก ของ อาจารย์ดำรงค์ ทิพย์โยธา ก็ดีเลยครับ จะอยู่ตอนท้ายๆเล่ม เป็นชุดปัญหาจากง่ายไปยากครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น

25 พฤศจิกายน 2004 02:51 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nooonuii
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 25 พฤศจิกายน 2004, 04:09
gon's Avatar
gon gon ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 29 มีนาคม 2001
ข้อความ: 4,608
gon is on a distinguished road
Smile

อ้า. นึกออกแล้วครับ. ว่าเคยตอบไปตรงหน้านี้ ไม่รู้ใช้ได้เปล่า หวังว่าไม่ผิดนะ Tmo
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 25 พฤศจิกายน 2004, 19:37
Tony Tony ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 พฤศจิกายน 2004
ข้อความ: 131
Tony is on a distinguished road
Post

ขอบคุณมากครับ พี่gonและ พี่noonuii

แต่ผมมีคำถามอีกข้อหนึ่งคือ
จงหาสูตรของ (2^m - 1 , 2^n + 1) พร้อมทั้งพิสูจน์
(จงยกตัวอย่าง m, n ที่ทำให้ (2^m-1, 2^n+1)=1และ1)
คล้ายกับข้อแรกครับแต่เปลี่ยนเครื่องหมาย

คือที่ผมคิดไว้นั้นลองแทนค่าดูก่อน

=1
m=1,nN
m=2,n=2t tN
.
.
.
1
m=2 n=3
m=4 n=3

แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้

พยายามหา ห.ร.ม. แบบยูคลิคก็ทำไม่ได้(ไม่รู้ทำถูกมั้ย)
ใครที่หาได้ช่วยบอกมาด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ

25 พฤศจิกายน 2004 20:35 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 4 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Tony
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 25 พฤศจิกายน 2004, 23:24
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Post

น่าจะมีสองคำตอบครับ คือ 1 กับ 2 แต่อาจจะต้องแยกกรณีกันวุ่นวาย น่าจะมีวิธีคิดแจ๋วๆนะ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 09 ธันวาคม 2004, 00:41
warut warut ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 พฤศจิกายน 2001
ข้อความ: 1,627
warut is on a distinguished road
Smile

อาศัยการแยกตัวประกอบโดยใช้ "cyclotomic polynomials" ทำให้ผมเชื่อว่า
คำตอบเป็นดังนี้ครับ

ให้ n = 2rs โดยที่ s เป็นจำนวนคี่และ r เป็นจำนวนเต็มที่มากกว่าหรือเท่ากับ 0
จะได้ว่า (2m - 1, 2n + 1) จะเท่ากับ 1 ถ้า 2r+1 หาร m ได้ไม่ลงตัว
และจะเท่ากับ 2(m,n) + 1 ถ้า 2r+1 หาร m ลงตัว

สำหรับการพิสูจน์ผมขอละไว้เป็นการบ้านให้คนอื่นทำละกัน

09 ธันวาคม 2004 01:51 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ warut
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 28 ธันวาคม 2004, 08:43
Tony Tony ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 พฤศจิกายน 2004
ข้อความ: 131
Tony is on a distinguished road
Post

เรขาคณิต
>> กระดาษซีรีส์เอคือกระดาษูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีสมบัติว่า เมื่อแบ่งครึ่งด้วยเส้นตรงที่ขนานกับด้านกว้างแล้วจะได้กระดาษรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองรูป ที่คล้ายกับรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเดิม ถ้าเส้นแทยงมุม DB ของกระดาษรูปสี่เหลียยมผืนผ้า ABCDถูกแบ่งเป็นสามส่วนที่มีความยาวเท่ากัน โดยเส้นขนาน L1 และ L2 ซึ่งผ่านจุด A และ C และตั้งฉากกับDB แล้วจงแสดงว่า กระดาษ ดังกล่าวเป็นกระดาษซีรีส์เอ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 28 ธันวาคม 2004, 09:09
Tony Tony ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 พฤศจิกายน 2004
ข้อความ: 131
Tony is on a distinguished road
Post

ทฤษฎีจำนวน
>> ในโรงเรียนแห่งหนึ่งมีล็อกเกอร์ 200 ลอกเกอร์ สำหรับนักเรียน 200 คน นักเรียน 200 คนมาตรวจล็อกเกอร์ โดยนักเรียนคนแรกตรงไปเปิดล็อกเกอร์ทุกบาน นักเรียนคนที่ 2 ตรวจล็อกเกอร์เลขคู่ถ้าล็อกเกอร์เปิดอยู่ก็จะปิด นักเรียนคนที่3 ไปตรวจล็อกเกอร์ที่ 3 ,6 ,... โดยเว้นทีละ 3 ถ้าพบล็อกเกอร์ที่เปิดอยู่ก็จะปิด และถ้าพบที่ปิดอยู่ก็จะเปิด หลังจากนั้นนักเรียนคนที่4 ตรวจล็อกเกอร์ที่ 4, 8, ... และทำเช่นเดียวกับคนที่ 3 ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนครบ 200 คน จงหาว่ามีล็อกเกอร์ที่เปิดอยู่กี่บาน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 29 ธันวาคม 2004, 23:39
gon's Avatar
gon gon ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 29 มีนาคม 2001
ข้อความ: 4,608
gon is on a distinguished road
Smile

ข้อทฤษฎีจำนวน จำได้ว่าเห็นมาหลายรอบมาก ๆ แล้วครับ. แล้วที่เล่นไปถึง 1000 ลอกเกอร์เลยมั้ง แต่ไม่เคยคิดจริง ๆ สักทีเลย เมื่อครู่ลองคิดดูบ้างแต่คิดว่าคงไม่ใช่แนวคิดที่ดีมากนัก ต้องลองไปคิดต่อดูอีกหน่อย หรือ ใครจะเสนอแนวคิดที่ง่ายกว่านี้ก็เอาเลยนะครับ. ผมคิดว่ามีง่ายกว่านี้

ที่ลอง ๆ คิดดู เราสามารถรู้ได้ง่าย ๆ ว่าลอกเกอร์หมายเลขไหน สุดท้ายแล้วเปิดหรือปิดได้จาก จำนวนตัวประกอบที่เป็นบวกของจำนวนนั้น ถ้าได้คี่ก็แสดงว่าลอกเกอร์นั้นเปิดอยู่ ถ้าได้คู่ก็ปิด เช่น ตัวประกอบของ 6 มี 4 จำนวน คือ 1, 2, 3, 6 แสดงว่าลอกเกอร์หมายเลข 6 จะปิด หรือ อย่าง 120 = (23)(3)(5) ซึ่งจะมีตัวประกอบที่เป็นบวกอยู่ทั้งหมด (3+1)(1+1)(1+1) = 16 จำนวน แสดงว่าก็ปิดอีกเช่นกัน

และ จะเห็นได้ว่าลอกเกอร์หมายเลข 1 ต้องเปิดแน่นอน บางทีมันอาจจะเกี่ยวกับ Euler phi function ซึ่งอาจจะได้ความจริงง่าย ๆ บางอย่างว่า จำนวนตัวประกอบของมันจะเป็นจำนวนคู่ เมื่อใดบ้าง ....
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 30 ธันวาคม 2004, 01:29
warut warut ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 พฤศจิกายน 2001
ข้อความ: 1,627
warut is on a distinguished road
Smile

อ้าว...ผมเพิ่งจะเห็นนะเนี่ยว่ามีโจทย์ทฤษฎีจำนวนน่าสนใจมากอยู่ตรงนี้ข้อนึง และผม
ก็ไม่เคยเห็นที่อื่นมาก่อนด้วยสิ

เอ่อ...ว่าแต่ข้อที่แล้วที่ผมตอบไปถูกผิดประการใดคุณ Tony ช่วยแจ้งให้ทราบด้วย
จะเป็นพระคุณยิ่งครับ

สำหรับโจทย์ข้อใหม่นี้คำตอบสำหรับกรณี n ล็อกเกอร์ก็คือ \(\lfloor\sqrt n\rfloor\)
ดังนั้นถ้า n = 200 จะได้คำตอบคือมีล็อกเกอร์เปิดอยู่เท่ากับ \(\lfloor\sqrt{200}\rfloor\) = 14 ล็อกเกอร์

สำหรับรายละเอียดที่มาของสูตรผมจะมาโพสต์ภายหลังครับ หรือใครมีเวลาว่างพิมพ์
ก็ช่วยอธิบายไปก่อนได้เลย ที่บอกได้ตอนนี้คือคุณ gon เริ่มไปถูกทางแล้วครับ (แต่ไม่
เกี่ยวกับ Euler's f function นะ) แต่ยังคงต้องไปต่ออีกนิดหน่อยจึงจะไปถึง
คำตอบข้างบน

30 ธันวาคม 2004 01:44 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ warut
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 30 ธันวาคม 2004, 13:31
Tony Tony ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 พฤศจิกายน 2004
ข้อความ: 131
Tony is on a distinguished road
Post

ถึงคุณ warut นะครับ
พอดีผมไม่รู้เรื่อง"cyclotomic polynomials"(ช่วยชี้แจงด้วยนะครับ หรือเรื่องนี้เรียนในไหนครับ ขอบพระคุณอย่างสูง)

แต่ผมลองแทนค่าดูแล้วก็น่าจะถูกต้อง

และขอบคุญพี่ gon มากครับ
ผมก็คิดคล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน
เช่น 1=1 เปิด
2=1*2 เปิด-ปิด
3=1*3 เปิด-ปิด
4=1*2*2 เปิด-ปิด-เปิด
.
.
.
ยังไม่รู้ว่าจนถึง 200 จะเปิดเท่าไร

30 ธันวาคม 2004 13:39 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Tony
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 31 ธันวาคม 2004, 02:39
warut warut ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 พฤศจิกายน 2001
ข้อความ: 1,627
warut is on a distinguished road
Smile

ที่มาของสูตรเป็นดังนี้ครับ

ให้ d(m) แทนจำนวนของตัวประกอบที่เป็นบวกทั้งหมดของ m

เพื่อที่จะหาว่าในล็อกเกอร์ n ล็อกเกอร์นั้นมีล็อกเกอร์ใดเปิดอยู่บ้าง เราสามารถทำได้
โดยหาว่ามีจำนวนนับ m ที่อยู่ในช่วง [1, n] ทั้งหมดกี่ตัวที่ d(m) เป็นจำนวนคี่

ถ้า m = \(p_1^{r_1}p_2^{r_2}\dots p_k^{r_k}\) > 1
โดยที่ p1, p2, ... , pk เป็นจำนวนเฉพาะที่ต่างกันและ r1, r2, ... , rk เป็นจำนวนเต็มบวก
(นั่นคือเขียน m ในรูปของ "prime factorization") แล้วเราจะได้ว่า
d(m) = (r1 + 1)(r2 + 1)...(rk + 1)

จะเห็นว่า d(m) จะเป็นเลขคี่ก็ต่อเมื่อ r1, r2, ... , rk เป็นเลขคู่ทั้งหมด
ซึ่ง r1, r2, ... , rk จะเป็นเลขคู่หมดทุกตัวก็ต่อเมื่อ m เป็นเลขกำลังสองสมบูรณ์

ดังนั้นคำตอบที่เราต้องการก็คือจำนวนของเลขกำลังสองสมบูรณ์ทั้งหมดที่อยู่ในช่วง
[1, n] ซึ่งมีค่าเท่ากับ \(\lfloor\sqrt n \rfloor\) เมื่อ แทนสัญลักษณ์ของ floor function (หรือ
greatest integer function นั่นเอง)

31 ธันวาคม 2004 22:33 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ warut
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 31 ธันวาคม 2004, 21:07
nooonuii nooonuii ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 25 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 6,408
nooonuii is on a distinguished road
Post

อ่า สรุปว่าสูตรอยู่ในรูป floor function ไม่ใช่ ceiling function ใช่มั้ยครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 31 ธันวาคม 2004, 22:02
R-Tummykung de Lamar R-Tummykung de Lamar ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 20 ธันวาคม 2004
ข้อความ: 566
R-Tummykung de Lamar is on a distinguished road
Post

อ้างอิง:
ดังนั้นถ้า n = 200 จะได้คำตอบคือมีล็อกเกอร์เปิดอยู่เท่ากับ \(\lfloor\sqrt{200}\rfloor\) = 14 ล็อกเกอร์

น่าจะเป็น floor มากกว่าครับ
__________________
[[:://R-Tummykung de Lamar\\::]] ||
(a,b,c > 0,a+b+c=3)
$$\sqrt a+\sqrt b+\sqrt c\geq ab+ac+bc$$
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #15  
Old 01 มกราคม 2005, 14:07
Tony Tony ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 19 พฤศจิกายน 2004
ข้อความ: 131
Tony is on a distinguished road
Post

เข้าใจแล้วครับ
ขอบคุณมากครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 08:33


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha