Number of the Beast กับชื่อคน

[differential_x]

สวัสดีครับ ผมสมาชิกใหม่ differential_x ครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ

666 (โรมัน DCLXVI) เป็นจำนวนที่รู้จักกันในชื่อ Number of the Beast ฟังชื่อแล้วไม่น่าจะเป็นจำนวนที่ดีเท่าไรนัก ว่ากันว่าเป็นจำนวนที่แสดงถึงคนหรือกลุ่มคนที่เป็น Antichrist

การโยงชื่อคนกับ 666 ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก ตัวอย่างแรกที่ผมเห็น เป็นคนที่ได้รับการขนานนามด้านไม่ดีมากที่สุดคนหนึ่ง เป็นเผด็จการครับ ชาวเยอรมัน เขาผู้นั้นคือ อดอล์ฟ ฮิตเล่อร์ (Adolf Hitler) นั่นเอง
ถ้าเราสมมุติให้ A = 100, B = 101, C = 102, ... ไปเรื่อยๆ จะได้ว่าผลบวกของค่าของตัวอักษรแต่ละตัวเท่ากับ 666 พอดี (H + I + T + L + E + R = 107 + 108 + 119 + 111 + 104 + 117 = 666)

จริงๆ แล้ว อย่างที่ผมพูด การโยงชื่อคนกับ 666 เป็นเรื่องง่าย ซึ่งผมจะแสดงวิธีให้ดู
ให้ a เป็นจำนวนเต็ม d เป็นจำนวนนับ สมมุติอักษรแต่ละตัวตามตารางข้างล่าง แล้วทำให้อยู่ในรูปผลสำเร็จ ซึ่งอยู่ในรูป ha + kd = 666 (h จะเป็นจำนวนอักษรในชื่อ, a เป็นค่าที่จะกำหนดให้ตัวอักษร A และ d เป็นผลต่างระหว่างค่าของตัวอักษร ทำนองว่า C - B = B - A = d) จากนี้เราแทนค่า d = 1, 2, 3, ... และหยุดเมื่อได้ a เป็นจำนวนเต็ม (นั่นคือหา d ฮ N ที่น้อยที่สุดที่ทำให้ a ฮ I)
เรื่องภาษาผมไม่เก่งนัก จะยกตัวอย่างให้ดู คงหนีไม่พ้นฮิตเล่อร์ครับ

ต้องการให้ H + I + T + L + E + R = 666 แทนแต่ละตัวอักษรตามตารางข้างล่าง และจัดให้อยู่ในรูปผลสำเร็จ จะได้ a + 11d = 111 (คือ 6a + 66d = 666 หารตลอดด้วย 6)
แทน d = 1 จะได้ a = 100 ดังนั้นสมมุติให้
A = 100, B = 101, C = 102, ... (เป็นไปตามตัวอย่างแรกที่ผมเห็น)

อีกตัวอย่างหนึ่งจะใช้นักวิทยาศาสตร์ผู้เรืองนาม อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (Albert Einstein)
ต้องการให้ E + I + N + S + T + E + I + N = 666 แทนแต่ละตัวอักษรตามตารางข้างล่าง จัดให้อยู่ในรูปผลสำเร็จ จะได้ 8a + 87d = 666
เมื่อแทน d = 1, 2, 3, 4, 5 จะได้ a ไม่เป็นจำนวนเต็ม
เมื่อแทน d = 6 จะได้ a = 18 ดังนั้นสมมุติให้
A = 18, B = 24, C = 30, ... และจะได้
E + I + N + S + T + E + I + N = 84 + 132 + 192 + 126 + 132 = 666 ตามที่ต้องการ