Mathcenter Forum

Mathcenter Forum (https://www.mathcenter.net/forum/index.php)
-   ปัญหาคณิตศาสตร์ ประถมปลาย (https://www.mathcenter.net/forum/forumdisplay.php?f=5)
-   -   Marathon - Primary # 2 (https://www.mathcenter.net/forum/showthread.php?t=10982)

banker 06 กรกฎาคม 2010 16:34

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ เทพแห่งคณิตศาสตร์ตัวจริง (ข้อความที่ 92406)
สนุกกันต่อครับ




2)$x^2 + xy + xz = 9$

$y^2 + xy +yz = 27$

$z^2 + xz + yz = 45$

หาค่า x,y,z


เหตุผลก็คือ


$x^2 + xy + xz = 9$

$x(x+y+z)= 9$......(1)


$y^2 + xy +yz = 27$

$y(x+y+z)= 27$......(2)


$z^2 + xz + yz = 45$

$z(x+y+z)= 45$......(3)


(1)+(2)+(3) $ \ \ (x+y+z)(x+y+z) = 9+27+45 = 81$

$(x+y+z) = 9$ .....(4)


$\frac{(1)}{(4)} \ \ \ \ x =1$

$\frac{(2)}{(4)} \ \ \ \ y =3$

$\frac{(3)}{(4)} \ \ \ \ z =5$

Siren-Of-Step 06 กรกฎาคม 2010 16:35

ถ้า $(b^2+c^2)^2-(b+c)^2+b(c-2)+c(b+2)+6=0$
จงหา $2009b+2009c+2009$ ( ref : คุณที่คุณลุง ไม่อยากทำโจทย์ของเขานั่นแหละ )

Scylla_Shadow 06 กรกฎาคม 2010 16:56

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Siren-Of-Step (ข้อความที่ 92442)
ถ้า $(b^2+c^2)^2-(b+c)^2+b(c-2)+c(b+2)+6=0$
จงหา $2009b+2009c+2009$ ( ref : คุณที่คุณลุง ไม่อยากทำโจทย์ของเขานั่นแหละ )

มันเป็นโจทย์เมื่อนานมาแล้ว จะมาบอกว่าต้องแก้นิดนึง
เป็นแบบนี้ดีกว่าครับจะได้มีคำตอบ (อันเดิมไม่มีคำตอบ)

กำหนด b และ c เป็จำนวนจริงซึ่งทำให้ $(b^2+c^2)^2-(b-c)^2+b(c-2)+c(b+2)+6=0$
ค่าของ $2010b+2010c+2010$ เป็นเท่าไร

Tanat 06 กรกฎาคม 2010 18:06

[quote=banker;92419]
อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Tanat (ข้อความที่ 92389)


ถ้าTanatโตขึ้น ทำโจทย์มากขึ้น ก็จะเห็นเองว่า โจทย์เติมคำตอบกับโจทย์มี choice บางครั้งก็ต่างกัน

กรณีที่โจทย์มีหลายคำตอบได้ การเติมคำตอบ อาจตอบได้หลายคำตอบ แต่เมื่อมี choice มากำกับ ก็ต้องเลือกคำตอบที่มีใน choice

อย่างโจทย์ข้อข้างต้น ถ้าเป็นกรณีเติมคำตอบ จะตอบ 676 หรือ 289 ก็ถูกเหมือนกัน

แต่พอมี choice เราก็ต้องเลือก 289 เพราะ 676 ไม่มีใน choice ทั้งๆที่ถูกเหมือนกัน


ส่วนเรื่อง "แทนทูลั่ม" เดี๋ยวนี้คนออกข้อสอบรู้ไต๋ โจทย์ที่จะใช้ แทนทูลั่มได้ มีน้อยลง (แต่ข้อสอบ admission ก็ยังพอมีให้เห็นอยู่) :haha:


ข้อสอบระดับประถม เริ่มเปลี่ยนแนวมาเป็นแบบเติมคำตอบมากขึ้น ทำได้ก็คือทำได้ ทำไม่ได้ ก็ไม่มีแทนทูลั่มให้ใช้ ผมเชื่อว่า ต่อไปข้อสอบแข่งขัน จะมีข้อแสดงวิธีทำมากขึ้น แม้จะตรวจยากหน่อย แต่ก็วัดกึ๋นได้ดี :haha:

เข้าใจเหตุผลการแก้ปัญหา มี Choice และ no choice ของคุณลุงแล้วครับ ในกรณีที่มีหลายคำตอบ ขอบคุณครับ :please:

สำหรับแนวข้อสอบแข่งขัน หรือข้อสอบเรียนต่อน้ัน ในส่วนตัวผมมีความเห็นว่า ข้อสอบที่ยุติธรรมที่สุด (ไร้ข้อกังขา) และไม่สามารถพึ่งดวงได้ คือข้อสอบที่ให้เขียนเฉพาะคำตอบครับ หรือจะใช้วิธีการตอบให้เป็นแบบรอบแรกของ สสวท ปีที่แล้วก็ได้ครับ (ฝนวงกลมสามหลักหรือมากกว่าที่เป็นคำตอบ แต่ไม่ใช่เป็นปรนัยน่ะ) เหตุผลที่ผมคิดว่ายุติธรรมที่สุด คือ วิธีในการแกัไขปัญหาทางคณิตศาสตร์ ไม่ได้มีเพียงวิธีเดียวที่จะได้คำตอบ และวิธีแต่ละวิธีก็มีแนวคิดของมันเอง ผมเคยโหลดตัวอย่างการแข่งขัน และวิธีการให้คะแนนการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติระดับประถม (ของประเทศหนึ่ง) วิธีการเขียนคำตอบโจทย์ที่เป็นวิธีทำ จะเป็น Pattern สำเร็จรูปเลยครับ ไม่ว่าใครจะมาเป็นผู้ตรวจคำตอบก็ได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าวิธีทำมีประโยคสัญลักษณ์ ตามที่เค้ากำหนดไว้แล้ว ได้คะแนน และถัดไปมีวิธีการทำหรือมีข้อความที่กำหนด ได้คะแนน ไล่ไปจนถึงคำตอบ ถ้าคำตอบตรง ก็จะได้คะแนน แต่คะแนนของคำตอบนั้น คิดเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับคะแนนรวมท้ังหมดของข้อนั้น

ลองนึกดูเล่นๆ น่ะครับว่า ถ้าเด็กที่มีพรสวรรค์ทางคณิตศาสตร์(แต่ไม่มีโอกาสเข้าถึงข้อมูล เพราะปัญหาทางเศรษฐกิจ) ที่สามารถคิดคำตอบต่างๆ ได้โดยใช้วิธีคิดของเขาเอง และวิธีทำของเค้าที่ใช้แก้ไขปัญหาโจทย์น้ั้น ไม่ตรงกับ Pattern ที่ใช้สำหรับตรวจคำตอบ คะแนนรวมที่เค้าทำได้จะน้อยมาก ถึงแม้จะทำได้เกือบทุกข้อ และทำจากพรสวรรค์ของเขาเอง แต่มีวิธีทำที่ไม่ตรงกับผู้ออกสอบและเฉลยข้อสอบ

อีกกรณีหนึ่ง เด็กที่เข้าร่วมแข่งขันเวทีเดียวกันกับเด็กคนแรก เตรียมตัวพร้อม มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี (ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น หาซื้อหนังสือ เรียนพิเศษ ฯ) รู้วิธีที่จะตอบให้ได้คะแนนตามแนวข้อสอบ และหากโชคดีมีโอกาสไปได้เรียนกับผู้ออกข้อสอบโดยตรง ก็ยิ่งมีความแตกต่างกันด้านคะแนนมากย่ิงขึ้น

อะไรจะเป็นเกณฑ์ตัดสินความสามารถทางคณิตศาสตร์ของเด็กทั้งสองคนนี้ ที่ความถูกต้องและยุติธรรม เมื่อทั้งสองคนก็สามารถที่จะหาคำตอบได้เหมือนกัน อะไรจะเป็นตัวตัดสินว่าวิธีไหนดีกว่ากัน ถ้าดีกว่าหรือง่ายกว่า ก็น่าทำได้ถูกต้องและจำนวนข้อมากกว่า ซึ่งนั่นก็เป็นวิธีทียุติธรรมครับ :)

Siren-Of-Step 06 กรกฎาคม 2010 20:28

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Siren-Of-Step (ข้อความที่ 90781)
$\frac{a}{a-b}+\frac{b}{b-c}+\frac{c}{c-a}=\sqrt{8}\cdot \sqrt{12345}$
แล้วจงหาค่าของ $(\frac{2a-b}{a-b})^2+(\frac{2b-c}{b-c})^2+(\frac{2c-a}{c-a})^2$
ref : Scylla_Shadow

สมมุติให้ $\ \frac{a}{a-b}+\frac{b}{b-c}+\frac{c}{c-a}=\sqrt{8}\cdot \sqrt{12345} = K$ และ $\ \frac{a}{a-b} = x$, $\ \frac{b}{b-c} = y$, $\ \frac{c}{c-a}= z$
จัดรูปแต่ละสมการใหม่ได้ $\ \frac{a}{b} = \frac {x}{x-1}$, $\ \frac{b}{c} = \frac {y}{y-1}$, $\ \frac{c}{a} = \frac {z}{z-1}$ เอาทั้งสามสมการมาคูณกันได้ $\ 1 = \frac {x}{x-1}\cdot \frac {y}{y-1} \cdot \frac{z}{z-1} $
เมื่อกระจายจะได้รูปสมการใหม่เป็น $(xy+yz+zx) = (x+y+z)-1 = K - 1$ ------ (1)

จากสมการตั้งต้น เขียนในรูป x,y,z ใหม่ได้เป็น $(x+y+z) = K$,
ยกกำลังสองได้ $k^2 = x^2+y^2+z^2+2(xy+yz+zx) = x^2+y^2+z^2+2(K-1)$
จัดรูปสมการใหม่ได้ $x^2+y^2+z^2 = K^2 - 2K + 2$ -------(2)

เริ่มทำโจทย์ได้แล้วครับ
$\ \begin{array}{rcl} \frac{2a-b}{a-b})^2+(\frac{2b-c}{b-c})^2+(\frac{2c-a}{c-a})^2 & = & (1+\frac{a}{a-b})^2+(1+\frac{b}{b-c})^2+(1+\frac{c}{c-a})^2 \\ & = & (1+x)^2+(1+y)^2+(1+z)^2 \\ & = & 3+2(x+y+z)+(x^2+y^2+z^2) \\ & = & 3+2(K)+(K^2-2K+2) \\ & = & K^2+5\ <-- โดยที่ K = \sqrt{8}\cdot \sqrt{12345} \end{array}$

credit : Puriwatt

banker 06 กรกฎาคม 2010 21:14

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Scylla_Shadow (ข้อความที่ 92443)
มันเป็นโจทย์เมื่อนานมาแล้ว จะมาบอกว่าต้องแก้นิดนึง
เป็นแบบนี้ดีกว่าครับจะได้มีคำตอบ (อันเดิมไม่มีคำตอบ)

กำหนด b และ c เป็จำนวนจริงซึ่งทำให้ $(b^2+c^2)^2-(b-c)^2+b(c-2)+c(b+2)+6=0$
ค่าของ $2010b+2010c+2010$ เป็นเท่าไร

( ref : คุณที่คุณลุง ไม่อยากทำโจทย์ของเขานั่นแหละ )

ไม่ใช่ไม่อยากทำโจทย์ของเขา

โจทย์ของเขา ผมทำทุกข้อแหละ ข้อไหนทำได้ ดีใจโคตรๆๆ

แต่ส่วนใหญ่ทำไม่ได้ โจทย์แต่ละข้อ ไม่รู้พี่แกไปขุดมาจากหลุมไหน


อย่างไรก็ตาม คำตอบของโจทย์มักเป็นเลขสวยๆ

ไม่เลขตอง ก็เป็นเลขเรียง บางข้อก็พอเดาคำตอบได้

อย่างข้อนี้ ผมทำไม่ได้หรอก แต่ถ้าเล็งๆจากคำถาม b กับ c น่าจะห้ำหั่นประหารกัน จนตายไปทั้งสองฝ่าย

คำตอบจึงน่าจะเหลือแค่ 2010 (เลขสวยอีกแล้ว) :haha:

ดังนั้นข้อนี้ถ้าเดาคำตอบในห้องสอบ ก็ขอเดาว่า

ค่าของ $2010b+2010c+2010$ เป็น $2010$ :D

Siren-Of-Step 06 กรกฎาคม 2010 21:20

ไม่รู้พี่แกไปขุดมาจากหลุมไหน ?

หลุมข้างบ้านครับ 55+
ที่แน่ ๆ โจทย์ ไม่ธรรมดาทุกครั้ง
โจทย์ของเขาแต่งเองหมด บางข้อก็ดัดแปลงมา (copy คำพูดของเขา)
ถ้าแต่งเอง >> เซียน
ดัดแปลงมา >> อาจารย์ :D:laugh:

banker 07 กรกฎาคม 2010 09:00

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Siren-Of-Step (ข้อความที่ 92469)
ข้อนี้ไม่ยากแล้วครับ

จงหาจำนวนเต็ม $n$ ซึ่ง $\sqrt{n}+\sqrt{n+2005}$ ถอดรากได้เป็นจำนวนเต็ม


ใครว่าง่าย ผมว่ายากนะ ประถมคงทำไม่ได้

ให้ $\sqrt{n}+\sqrt{n+2005} = A^2$

$ A^2 - n^{\frac{1}{2}} = \sqrt{n+2005}$

$ A^4 - 2A^2n^{\frac{1}{2}} + n = n+2005$

$ A^4 -2005 = 2A^2n^{\frac{1}{2}}$

$ ( A^4 -2005)^2 = 4A^4 n$

$4n = (\frac{ A^4 -2005}{A^2})^2 \ \ \ \ \ $

$4n = ( A^2 -\frac{2005}{A^2})^2 \ \ \ \ \ $


$n$ จะเป็นจำนวนเต็ม เมื่อ $A$ เป็นเท่าไร

ยังไปต่อไม่ถูก ขอไปนวดก่อน เดี๋ยวมาดูใหม่ :haha:





12:12 7/7/2553

มาทำต่อครับ


$4n = ( A^2 -\frac{2005}{A^2})^2 $

$n = \frac{1}{4}( A^2 -\frac{2005}{A^2})^2 $


พิจารณา $\frac{2005}{A^2}$ จะเห็นว่า $A^2 < 2005 \ $ (เพราะถ้ามากกว่า, $\frac{2005}{A^2}$ ก็จะไม่เป็นจำนวนเต็ม)

$A^2 $ เป็นเลขกำลังสอง เช่น $1^2, 2^2, 3^2, 4^2, ..., 44^2$

จาก $\frac{2005}{A^2} = \frac{401 \times 5}{A \times A} $ ทั้ง $ \ 5 \ $ และ $ \ 401 \ $ เป็นจำนวนเฉพาะ

จะเห็นว่า มี $A^2 = 1$ เท่านั้นที่ ทำให้ $( A^2 -\frac{2005}{A^2})$ เป็นจำนวนเต็ม

จะได้ $n = \frac{1}{4}( 1 -\frac{2005}{1})^2 = \frac{1}{4} (-2004)^2 = 501 \times 2004 = 1004004 $

ตอบ $n$ ที่เป็นจำนวนเต็มนั้นคือ $1004004$


Siren-Of-Step 07 กรกฎาคม 2010 22:01

คุณอาตอบ มาไม่หมดครับ
โดย $\sqrt{n} = a , \sqrt{n+2005} = b$
ให้ $\sqrt{n}+\sqrt{n+2005} \in \mathbb{Q} $
$a-b \in \mathbb{Q} $

$n = a^2$
$n+2005 =b^2$

$2005 = b^2-a^2 = (b-a)(b+a)$
รู้สึกว่าจะได้คำตอบเพิ่มอีก 1 คือ $198^2$

คusักคณิm 11 กรกฎาคม 2010 12:36

ปลุกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เทพแห่งคณิตศาสตร์ตัวจริง 11 กรกฎาคม 2010 13:23

เงียบมาหลายวัน ไม่มีคนตั้งโจทย์ ผมขอตั้งเอง

$\triangle ABC$ แนบในวงกลมโดยมี BC เป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง ลากAX ตั้งฉากกับ BC วัดAX ได้ 6 ซม. และทำให้ BX สั้นกว่า CX อยู่ 5 ซม. จงหาพื้นที่วงกลมที่ล้อมรอบ $\triangle ABC$

kimchiman 11 กรกฎาคม 2010 14:03

จาก power of point
$6^2=x(x-5)$
x=9
ดังนั้นรัศมีวงกลม=$\frac{9+4}{2}$
พท.วงกลม=$42.25\pi $

kimchiman 11 กรกฎาคม 2010 14:23

ข้อต่อไป
สี่เหลี่ยม ABCD แนบในวงกลมที่มี AC เป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง มี AB=BC และจุด D เป็นจุดใดๆบนส่วนโค้งที่อยู่ด้านตรงข้ามกับจุด B กําหนด BE ตั้งฉากกับ AD ที่จุด E ถ้าพื้นที่ของสี่เหลี่ยม ABCD =1 ตารางหน่วย แล้วจงหาความยาวของ BE

banker 11 กรกฎาคม 2010 16:57

อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ kimchiman (ข้อความที่ 92852)
ข้อต่อไป
สี่เหลี่ยม ABCD แนบในวงกลมที่มี AC เป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง มี AB=BC และจุด D เป็นจุดใดๆบนส่วนโค้งที่อยู่ด้านตรงข้ามกับจุด B กําหนด BE ตั้งฉากกับ AD ที่จุด E ถ้าพื้นที่ของสี่เหลี่ยม ABCD =1 ตารางหน่วย แล้วจงหาความยาวของ BE

ถ้าไม่กำหนดเงื่อนไขอิ่น ผมก็จะวาด สี่เหลี่ยม ABCD เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส แล้วจุด E ทับจุด A

สี่เหลี่ยม ABCD มีพื้นที่ 1 ตารางหน่วย ด้าน BE = BA = 1 หน่วย

ตอบ ความยาวของ BE เท่ากับ 1 หน่วย


คำตอบถูกไหมครับ :haha:

banker 11 กรกฎาคม 2010 17:29

1 ไฟล์และเอกสาร
อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ เทพแห่งคณิตศาสตร์ตัวจริง (ข้อความที่ 92846)
เงียบมาหลายวัน ไม่มีคนตั้งโจทย์ ผมขอตั้งเอง

$\triangle ABC$ แนบในวงกลมโดยมี BC เป็นเส้นผ่านศูนย์กลาง ลากAX ตั้งฉากกับ BC วัดAX ได้ 6 ซม. และทำให้ BX สั้นกว่า CX อยู่ 5 ซม. จงหาพื้นที่วงกลมที่ล้อมรอบ $\triangle ABC$


โจทย์ไม่ได้กำหนดว่า x อยู่ตำแหน่งใด

คุณkimchiman ทำแบบรูปแรก ก็เลยได้รัศมี 13 ซม. ดังรูปแรก


อ้างอิง:

ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ kimchiman (ข้อความที่ 92850)
จาก power of point
$6^2=x(x-5)$
x=9
ดังนั้นรัศมีวงกลม=$\frac{9+4}{2}$
พท.วงกลม=$42.25\pi $


แล้วถ้า x อยู่บนเส้นรอบวง แบบรูปล่าง พื้นที่จะยังเท่าเดิมไหมเอ่ย ?

Attachment 3336

แค่ฝากไว้ว่า ถ้าโจทย์ไม่รัดกุม ก็จะมีหลายคำตอบได้


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 02:49

Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha