ข้อมูล
ที่นี่ น่าจะขยายความ T score ได้ดีในระดับหนึ่งนะครับ โดยเฉพาะย่อหน้าที่บอกว่า
It may be difficult to work with z-scores, because half of them will be negative and all will probably lie between -3 and 3. Therefore, it is convenient to transform the z-scores into T-scores as follows: T = 50 + 10z. T-scores will have a mean (average) of 50 and a standard deviation of 10. Thus, a T-score of 60 represents a number-right score one standard deviation above the average. If the distribution of scores approximates the shape of the normal curve, about 16% of the T-scores will be above 60 and about 10% above 63. Similarly, about 16% of T-scores will be below 40 and about 10% below 37.
ตอนแรกที่ยังไม่เห็นสูตร T score ผมก็นึกว่าเหมือน t test ในสถิติซะอีก แต่พอเห็นสูตรแล้วถึงบางอ้อ ว่าคนละอารมณ์เลย และก็เลยไม่แปลกใจที่ทำไม คะแนนดิบกับ T score ถึงต่างกันมาก เพราะเรามอง T score 50 เท่ากับค่าเฉลี่ย แต่ค่าเฉลี่ยจริงๆ ไม่ว่าปีไหน ไม่เคยถึงครึ่ง โดยเฉพาะวิชาในสายวิทยาศาสตร์ ดังนั้น เมื่อประกาศคะแนนดิบออกมา คะแนนจึงลด ประมาณวิชาละ 25-30 คะแนน
แต่สำหรับผมนะ จะบอกหรือไม่บอก T score ก็คงไม่จำเป็นหรอก เพราะมันก็คล้ายๆ ปรับมาจากค่า Z อีกที
แต่ที่ผมว่าอัปยศที่สุด คงเป็นปัญหาทางเทคนิคมากกว่า เช่น
(1) คอมเห็นคะแนน 20 เป็น 0
(2) กระดาษคำตอบที่เขียนชื่อ แต่ฝนรหัสผิด กลับหาเจ้าของในฐานข้อมูลไม่ได้ จริงอยู่ที่เป็นความผิดเด็กส่วนหนึ่ง ที่ไม่รอบคอบ แต่โดยหลักการ มันก็ควรปรากฏชื่อเด็กในฐานข้อมูล ไม่รู้ใครเป็นคนจัดการ database จบจากสถาบันไหน อายไปถึงนั่น
(3) T score วิชาเดียวกันของ 2 คนเท่ากัน แต่คะแนนดิบต่างกัน
(4) กากบาทด้วยปากกา แล้วใช้คอมตรวจ เวลาลบต้องลบด้วยยางลบหมึก (ถ้า กา ผิด แทบไม่ต้องพูดกันเลยว่า กระดาษจะขาดหรือไม่)
ผมว่า ก่อนทำระบบนี้ น่าจะมีการเตรียมความพร้อมทุกฝ่ายให้ดีก่อน ก่อนจะใช้จริง นี่ยังไม่รวมปัญหาที่เด็กลอกกันกระจุยกระจาย ตามสนามสอบอีกนะครับ อาจารย์ผมที่โรงเรียนเก่าบอกมาว่า คนที่มาคุมสอบบางคนยังไม่รู้ขั้นตอนเลย มารู้กันตอนเช้าก่อนสอบ แถมรุ่นน้องบางคนก็ยังบอกว่า คนคุมสอบบางคนก็หลับ
สำหรับไอ้เรื่องฝนผิด ฝนไม่ครบ อะไรเนี่ย ผมว่าเจ้หาน้าที่คุมสอบน่าจะตรวจสอบกันตั้งแต่ ตอนส่งข้อสอบ หรือตอนให้เซ็นชื่อนะครับ อย่างน้อย ปัญหาก็จะได้ไม่ลุกลามใหญ่โตอย่างตอนนี้
ส่วนเรื่องอัตนัย อันนี้ก็พูดยาก เพระผมไม่รู้ว่า คนตรวจ ตรวจด้วยเกณฑ์ในการตรวจ หรือ ตรวจด้วยอารมณ์อย่างเดียว ตามปกติ มันก็ควรจะใช้เกณฑ์ และต้องตัดเรื่องอารมณ์ส่วนตัวทิ้งไป
ดูอย่างข้อสอบเวียดนาม โอลิมปิก หรือแม้แต่ APMO 2006 ที่ เขาจะบอกเลยว่า ถ้าตอบมาแค่นี้ ได้กี่คะแนน ตอบอย่างนี้ให้กี่คะแนน