#1
|
|||
|
|||
โจทย์เศษส่วน
$X = \frac{1}{6} + \frac{1}{24} + \frac{1}{60} + ... + \frac{1}{1030200} Xมีค่าเท่าใด$
ข้อนี้ทำยังไงอ่ะครับ 01 สิงหาคม 2010 14:39 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ เทพแห่งคณิตศาสตร์ตัวจริง |
#2
|
||||
|
||||
ข้อนี้ไม่ยากครับ ใช้หลักว่า
$\frac{1}{n(n+1)(n+2)} =\frac{1}{n(n+1)} -\frac{1}{n+1(n+2)} $ สังเกตุ $\frac{1}{6} =\frac{1}{1\times 2} -\frac{1}{2\times 3} $ $\frac{1}{24} =\frac{1}{2\times 3} -\frac{1}{3\times 4} $ . . . $\frac{1}{1030200} =\frac{1}{99\times100 } -\frac{1}{100\times 101} $ บวกกันทั้งหมดจะได้ว่า $ \frac{1}{6} +\frac{1}{24}+...+\frac{1}{1030200}= \frac{1}{2} - \frac{1}{10100}$ จะได้ $X= \frac{5049}{10100} $
__________________
** ถ้าไม่สู้จะรู้หรือว่าแพ้ ถ้าอ่อนแอคงไม่รู้ว่าเข้มแข็ง ** ไม่ยืนหยัดคงไม่รู้ว่ามีแรง ไม่ถูกแซงคงไม่รู้เราช้าไป ** Sub #1 สิ่งที่มั่นใจที่สุดกลับทำให้รู้สึกแย่ที่สุด T T 01 สิงหาคม 2010 23:42 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ TuaZaa08 |
#3
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
$X = \frac{1}{6} + \frac{1}{24} + \frac{1}{60} + ... + \frac{1}{1030200} $ $= \frac{1}{1\times2\times3} + \frac{1}{2\times3\times4} + \frac{1}{3\times4\times5} + ... + \frac{1}{100\times101\times102} $ ซึ่งสามารถจัดรูปเป็นแบบพีชคณิตดังนี้ $\because \ \ \dfrac{1}{k(k+1)(k+2)} = \dfrac{(\frac{1}{2})}{k(k+1)} - \dfrac{(\frac{1}{2})}{(k+1)(k+2)}$ $\therefore \ \ \dfrac{2}{k(k+1)(k+2)} = \dfrac{1}{k(k+1)} - \dfrac{1}{(k+1)(k+2)}$ $\frac{2}{1 \cdot 2 \cdot 3} = \frac{1}{1 \cdot 2} - \frac{1}{2 \cdot 3}$ $\frac{2}{2 \cdot 3 \cdot 4} = \frac{1}{2 \cdot 3} - \frac{1}{3 \cdot 4}$ $\frac{2}{3 \cdot 4 \cdot 5} = \frac{1}{3 \cdot 4} - \frac{1}{4 \cdot 5}$ . . . $\frac{2}{101 \cdot 101 \cdot102} = \frac{1}{100 \cdot 101} - \frac{1}{101 \cdot 102}$ ดังนั้น $= \frac{1}{1\times2\times3} + \frac{1}{2\times3\times4} + \frac{1}{3\times4\times5} + ... + \frac{1}{100\times101\times102} $ $ = \frac{1}{2}(\frac{1}{1 \cdot 2}-\frac{1}{101 \cdot 102})$ $ = \frac{1}{2}(\frac{1}{2}-\frac{1}{10302})$ $ = \frac{1}{2}(\frac{5150}{10302})$ $ = \frac{2575}{10302}$
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) 02 สิงหาคม 2010 13:23 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ banker เหตุผล: แก้คำผิด |
#4
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ที่ถูกคือ $\frac{1}{n(n+1)(n+2)} =\frac{1}{2}(\frac{1}{n(n+1)} -\frac{1}{(n+1)(n+2)}) $ |
#5
|
||||
|
||||
เห็นด้วยครับคุณอาbanker
|
#6
|
||||
|
||||
โจทย์ อ.โต้ง?
|
#7
|
|||
|
|||
|
|
|