|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#181
|
||||
|
||||
ถือว่าถูกนะครับคุณ Mathophile ตั้งข้อต่อไปได้เลยครับ
__________________
ค ว า ม รั บ ผิ ด ช อ บ $$|I-U|\rightarrow \infty $$ |
#182
|
||||
|
||||
ข้อ 55. ผมพูดไม่ค่อยถูกอ่ะครับ ถ้าใครมีคำอธิบายที่ชัดเจนกว่านี้ก็นำมาแบ่งปันกันบ้างนะครับ
คำถามข้อต่อไปครับ... 56. ในปีนี้มีกิจกรรมหลายกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์ หรืออาจไม่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์โดยตรง แต่เป็นกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ซึ่งเวลาและระยะเวลาในการจัดก็แตกต่างกันไป จากชื่อกิจกรรมต่อไปนี้ ให้เรียงลำดับระยะเวลาในการจัดกิจกรรมจากสั้นที่สุดไปนานที่สุด หากระยะเวลาเท่ากัน ให้เรียงลำดับเวลาการจัดก่อนหลังครับ A) IMO 2007 B) 4th POSN-MO C) ICMA-MU 2007 D) มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 12 E) Bangkok International Book Fair 2007 F) Silpakorn workshop and conference in Mathematics G) การประชุุมวิชาการคณิตศาสตร์ประจำปี 2550 (ครั้งที่ 12)ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา |
#183
|
||||
|
||||
ข้อ 55 ลองเข้าไปอ่านคำอธิบายในกระทู้นี้ได้ครับ
ข้อ 56 ขอตอบแบบนี้นะครับ (ช่วงเวลา วัน.เดือน.ปี , ระยะเวลาเป็นวัน) ชื่องาน (17-18.05.2007, 2) G) การประชุมวิชาการคณิตศาสตร์ประจำปี 2550 (ครั้งที่ 12)ภาควิชาคณิตศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.บูรพา (15-17.08.2007, 3) C) ICMA-MU 2007 (1-5.05.2007,5) F) Silpakorn workshop and conference in Mathematics (4-9.05.2007,6) B) 4th POSN-MO (31.03-10.04.2007, 11) E) Bangkok International Book Fair 2007 (17-28.10.2007, 12) D) มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 12 (19-31.07.2007, 13) A) IMO 2007 บางงานผมลองกูเกิลดูก็เจอแต่ลิงค์มาที่เวบบอร์ดนี้ แปลกดีจริงๆ
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ) Stay Hungry. Stay Foolish. |
#184
|
||||
|
||||
ไม่แปลกหรอกครับ เพราะกิจกรรมทั้งหมดนี้ผมเอามาจากปฏิทินของบอร์ดนี้เองล่ะครับ
จริงๆ ผมยึดคำตอบตามปฏิทินในบอร์ดนี้ซึ๋งจะทำให้คำตอบแตกต่างจากของคุณ nongtum เล็กน้อยคือข้อ A จะเลื่อนมาเป็นลำดับที่ 2 แต่ลอง google แล้วพบว่าคำตอบตรงกับของคุณ nongtum ครับ คำถามข้อต่อไปเป็นสิทธิของคุณ nongtum ครับ |
#185
|
||||
|
||||
ข้อต่อไปถามแบบสบายๆละกันครับ
57. บุคคลในรูปด้านล่างคือใคร มีผลงานที่สำคัญคืออะไร
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ) Stay Hungry. Stay Foolish. 06 มกราคม 2008 23:49 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nongtum เหตุผล: แก้รูป |
#186
|
||||
|
||||
ขอตอบว่า Lobachevsky ครับ เบาะๆเลย และขอถามว่า นิวตันและไลบนีซ เป็นผู้คิดค้นวิชาแคลคูลัสจริง แต่ นิวตันตั้งชื่อวิชานี้ว่าอะไร????
__________________
ANYONE can do the math |
#187
|
||||
|
||||
คำตอบถูกต้อง แต่ตอบไม่ครบตามคำถามนะครับ แต่ให้ละกัน
เฉลยข้อ 57 คือ Nikolai Ivanovich Lobachevsky นักคณิตศาสตร์ชาวรัสเซีย มีผลงานที่รู้จักกันในด้าน non-Euclidean geometry ครับ ข้อ 58 ผมขอตอบโดยอ้างจากเวบไซต์นี้ว่า... theory of fluxions and fluents, known today as differential calculus.
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ) Stay Hungry. Stay Foolish. 08 กุมภาพันธ์ 2008 15:19 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nongtum เหตุผล: เพิ่มเฉลยข้อ 57 |
#188
|
||||
|
||||
อึมๆลึกซื้งยิ่ง แล้วคุณ Nongtum จะตั้งคำถามว่าอะไรต่อล่ะงับ
__________________
ANYONE can do the math |
#189
|
||||
|
||||
เอาล่ะ ไม่รู้ว่าเคยถามไปหรือยัง แต่จะถามละนะ ไม่ยากมาก
59. ในอดีตมีประธานาธิบดีสหรัฐท่า่นหนึ่ง ได้แสดงบทพิสูจน์ทฤษฎีบทปีทาโกรัส(หนึ่งในหลายร้อยเวอร์ชัน)ของตนเอง ประธานาธิบดีท่านนั้นคือใคร เป็นประธานาธิบดีคนที่เท่าไหร่้ของสหรัฐ
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ) Stay Hungry. Stay Foolish. |
#190
|
||||
|
||||
ลืมเฉลย
ปล ข้อ 58 น่ะ นิวตันตั้งชื่อว่า Fluxions นะครับ
__________________
ANYONE can do the math |
#191
|
|||
|
|||
59. ตอบ ประธานาธิบดี James A. Garfield เป็นประธานาธิบดีคนที่ 20 ของสหรัฐอเมริกา ครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
#192
|
||||
|
||||
ถูกต้องแล้วครับ แนวการพิสูจน์ที่ท่านใช้ เป็นแนวการพิสูจน์โดยอาศัยพื้นที่ของสี่เหลี่ยมคางหมู ที่แม้แต่เด็กประถมก็เข้าใจได้ไม่ยากครับ
หากสนใจตามไปดู The President's Proof ทั้ง แบบสั้น และ แบบยาว พร้อมแนวคิดเบื้องหลัง ได้ครับ ข้อต่อไปเป็นสิทธิ์ของคุณ nooonuii ครับ
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ) Stay Hungry. Stay Foolish. |
#193
|
|||
|
|||
60. คำถามนี้ไม่ยากครับ แค่อยากแนะนำเวบไซต์ที่น่าสนใจทางคณิตศาสตร์เวบไซต์หนึ่ง เวบนี้มีชื่อว่า
The Mathematics Genealogy Project จงใช้ข้อมูลจากเวบไซต์นี้เรียงลำดับชื่อนักคณิตศาสตร์ต่อไปนี้์ตามลำดับของความเป็นศิษย์อาจารย์กัน David Hilbert Donald Ornstein Douglas Lind Felix Klein Ferdinand Lindemann Gottfried Leibniz Gustav Dirichlet Hermann Weyl Irving Kaplansky Jacob Bernoulli Jean Baptiste Fourier Johann Bernoulli Joseph Lagrange Leonhard Euler Michael Boyle Rudolf Lipschitz Saunders Mac Lane
__________________
site:mathcenter.net คำค้น 08 กุมภาพันธ์ 2008 12:41 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nooonuii |
#194
|
||||
|
||||
60. ที่จริงรูปในเวบที่ให้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ก็ขาดไปหลายคน ดังนั้นผมขอลองเรียบเรียงคำตอบอีกทีละกัน
เริ่มแรก จะขอแบ่งสายศิษย์ อาจารย์ เป็นสองสายคือสายของ Gauss กับ Leibniz ดังนี้ (ในวงเล็บคือปีค.ศ.ที่ได้ Ph.D) สายของ Gauss : Gauss (1799) ซึ่งเป็นศิษย์ของ Pfaff มีศิษย์ที่เด่นๆ เช่น 1. Bessel (1810) 2. Gerling (1812) มีศิษย์คือ Pluecker (1823) 3. Gudermann (1841) มีศิษย์คือ Weierstrass (1854) 4. Dedekind (1852) สายของ Leibniz: Leibniz (1666) มี Jacob Bernoulli (1684) เป็นศิษย์ ต่อมาอีกสิบปี Jacob ก็เป็นอาจารย์ให้น้องชาย คือ Johann Bernoulli (1694) Johann เป็นอาจารย์ของ Euler (1726) Euler มีศิษย์คือ Lagrange ซึ่งน่าแปลกว่า Lagrange ไม่มี Dissertation เลย แต่ Lagrange ก็มีศิษย์สองคน คือ Fourier กับ Poisson (ไม่มีการระบุถึง dissertation ของสองคนนี้เช่นกัน) Fourier กับ Poisson เป็นอาจารย์ของ Dirichlet (1827) Dirichlet เป็นอาจารย์ของ Eisenstein (1845) Kronecker (1845) และ Lipschitz (1853) คราวนี้ก็ถึงจุดที่สองสายมาจวบกัน เมื่อทั้ง Pluecker และ Lipschitz เป็นอาจารย์ของ Klein (1868) Klein มีลูกศิษย์หลายคน ที่เด่นๆคือ 1. Story (1875) มีศิษย์คือ Lefschetz (1911) (สายนี้ชื่อไม่คุ้นแฮะ) 2. Lindemann (1873) มีศิษย์คือ Hilbert (1885) จาก Hilbert คราวนี้ก็เป็นศิษย์เป็นอาจารย์ต่อกันเป็นทอดๆดังนี้ครับ Hilbert เป็นอาจารย์ของ Weyl (1908) Weyl กับ Bernays เป็นอาจารย์ของ Mc Lane (1934) Mc Lane เป็นอาจารย์ของ Kaplansky (1941) Kaplansky เป็นอาจารย์ของ Ornstein (1957) Ornstein เป็นอาจารย์ของ Lind (1973) Lind เป็นอาจารย์ของ Michael Boyle (1983) (คนละคนกับ Robert Boyle เจ้าของกฏก๊าซของบอยล์นะครับ) ปล. คำถามนี้ไม่ยากแต่เหนื่อย หวังว่าคงครบทุกคนที่ถามนะครับ
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ) Stay Hungry. Stay Foolish. 08 กุมภาพันธ์ 2008 15:03 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nongtum |
#195
|
|||
|
|||
คุณ nongtum ตอบได้ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์แล้วล่ะครับ แถมมีวิเคราะห์แต่ละสายเพิ่มเติมให้อีก ที่ผมเลือกสายของ Mike Boyle มาถามเพราะว่าต่อจากชื่อนี้ก็สามารถเติมชื่อผมลงไปได้ด้วยครับ
สายของ Lefschetz ก็มีนักคณิตศาสตร์ดังๆอยู่หลายคนทีเดียว รวมทั้งตัว Lefschetz เองก็ดังมากๆ แต่คุณ nongtum อาจจะไม่คุ้นชื่อนักเพราะพวกเขาเหล่านี้เป็น Topologist ครับ ชื่อต่อไปนี้คนที่เคยเรียน Algebraic Topology จะรู้จักเป็นอย่างดีครับ Solomon Lefschetz Norman Steenrod William Massey, Edwin Spanier, George Whitehead คุณ nongtum ถามข้อต่อไปได้เลยครับ
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
หัวข้อคล้ายคลึงกัน | ||||
หัวข้อ | ผู้ตั้งหัวข้อ | ห้อง | คำตอบ | ข้อความล่าสุด |
Geometry marathon | Char Aznable | เรขาคณิต | 78 | 26 กุมภาพันธ์ 2018 21:56 |
Algebra Marathon | nooonuii | พีชคณิต | 199 | 20 กุมภาพันธ์ 2015 10:08 |
Trigonometric Marathon | Mastermander | พีชคณิต | 251 | 24 พฤศจิกายน 2013 21:21 |
Marathon | Mastermander | ฟรีสไตล์ | 6 | 02 มีนาคม 2011 23:19 |
Inequality Marathon | nongtum | อสมการ | 155 | 17 กุมภาพันธ์ 2011 00:48 |
|
|