|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#16
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
อีกวิธีนะครับ อัตราส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางของวงกลม I:II:III เท่ากับ $ \ a:b:c \ $เท่ากับ$ \ 3:4:5$ ดังนั้น อัตราส่วนของพื้นที่ของวงกลม I:II:III เท่ากับ $a:b:c$เท่ากับ$ \ 9:16:25$ จะเห็นว่า $9+16 =25$ ดังนั้น พื้นที่วงกลม I + วงกลม II = วงกลม III = $24$
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#17
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
|
#18
|
||||
|
||||
ข้อ10.ผมขอถามแบบไม่รู้ว่าทำไมต้องซอยเป็นส่วนๆด้วย เพราะทำแบบไม่ซอยก็ได้...ถามเพราะอยากรู้ ถ้าเป็นวิธีที่ง่ายกว่าก็จะได้เรียนรู้ไว้ครับ ผมคิดว่าหาพื้นที่แรเงาโดยเอาพื้นที่สามเหลี่ยมสองรูปนั้นไปลบจากพื้นที่ของสี่เหลี่ยม ขออนุญาตใช้ภาพของคุณหยินหยาง พื้นที่สามเหลี่ยม$CDE$ = $\frac{1}{2}\times CD\times CE $ $=\frac{1}{2}\times b \times\frac{2}{3}a $ $=\frac{ab}{3}$......เรารู้แล้วว่า$ab = 300$ พื้นที่สามเหลี่ยม$AFH$ = $\frac{1}{2}\times AF\times AH $ $=\frac{1}{2}\times\frac{b}{2}\times \frac{3}{4}a$ =$\frac{3ab}{16}$ พื้นที่ส่วนแรเงา =$พื้นที่สี่เหลี่ยมABCD-พื้นที่สามเหลี่ยมCDE-พื้นที่สามเหลี่ยมAFH$ $=ab-\frac{ab}{3}-\frac{3ab}{16}$ =$\frac{23}{48}ab$ =$\frac{23\times 25}{4}$ $=143.75$
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) 05 มีนาคม 2010 22:56 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ |
#19
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) 06 มีนาคม 2010 10:15 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ |
#20
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
พจน์ที่2 คือ $\frac{1}{3}+\frac{2}{3}$ =$1$ พจน์ที่3 คือ $\frac{1}{4}+\frac{2}{4}+\frac{3}{4}$ =$\frac{3}{2} $ =$1\frac{1}{2} $ พจน์ที่ 4 คือ $\frac{1}{5}+\frac{2}{5}+\frac{3}{5}+\frac{4}{5}$ =$2$ พจน์ที่ 5 คือ $\frac{1}{6}+\frac{2}{6}+\frac{3}{6}+\frac{4}{6}+\frac{5}{6}$ =$2\frac{1}{2}$ พจน์ที่ 99 คือ $\frac{1}{100}+\frac{2}{100}+\frac{3}{100}+...+\frac{99}{100}$ = $49\frac{1}{2}$ ลองมาเขียนใหม่จะได้เป็น $\frac{1}{2}+1+1\frac{1}{2}+2+2\frac{1}{2}+...+47\frac{1}{2}+48+48\frac{1}{2}+49+49\frac{1}{2}$ จัดหน้าตาใหม่อีกทีจะได้ $(1+2+3+...+49)+(\frac{1}{2}+1\frac{1}{2}+2\frac{1}{2}+...47\frac{1}{2}+48\frac{1}{2}+49\frac{1}{2})$ $(1+2+3+...+49)$ มีทั้งหมด 49 พจน์ ดังนั้น$(\frac{1}{2}+1\frac{1}{2}+2\frac{1}{2}+...47\frac{1}{2}+48\frac{1}{2}+49\frac{1}{2})$มีทั้งหมด 50 พจน์ จับคู่กันได้25คู่แต่ละคู่มีผลรวมกันได้ 50 $(1+2+3+...+49) =25\times 51= 1275$-----ตรงนี้คูณผิด....25x51 = 1225 $(\frac{1}{2}+1\frac{1}{2}+2\frac{1}{2}+...47\frac{1}{2}+48\frac{1}{2}+49\frac{1}{2}) = 50\times 25 = 1250$ คำตอบคือ$1275+1250 = 2525$.....คำตอบที่ถูกคือ $1225+1250 $คือ $2475$...ขอบคุณคุณอาBanker...ชี้จุดให้ครับ...
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) 06 มีนาคม 2010 13:24 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ |
#21
|
||||
|
||||
#18
ต้องขอโทษด้วยครับที่ทำให้สับสน ผมเพียงต้องการแซว คุณ banker ครับ เพราะเห็นคุณ banker ลากเส้นหลายเส้นผมก็เลยเสนอว่าถ้าจะทำแบบนั้นก็ทำแบบนี้ก็ได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายกว่าเท่านั้น และสามารถทดในใจได้ โดยดูสัดส่วนของฐานและสูง และวิธีของคุณ กิตติ ก็เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกแล้วครับ |
#22
|
||||
|
||||
ถามเพื่อรู้ครับ...ถ้ามีวิธีการที่ง่ายกว่า ผมก็อยากเรียนรู้ไว้ครับ ไม่ได้คิดอะไรครับ
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) |
#23
|
||||
|
||||
เห็นด้วยครับทำให้ดูง่ายขึ้น...ขอบคุณครับ
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) |
#24
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
หิน HINT นับช่องลงมา จะได้สี่เหลี่ยมจัตุรัส 51 x 51 = 2601 ลบ สีดำออก 101 จะเหลือเท่าไร?
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#25
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
$k = \frac{1}{2}+1+1\frac{1}{2}+2+2\frac{1}{2}+...+47\frac{1}{2}+48+48\frac{1}{2}+49+49\frac{1}{2}$ $ 2k = 1+2+3+...+49 = 4950$ $k = 2475$
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#26
|
||||
|
||||
ขอบคุณครับ....เมื่อคืนเบลอไปหน่อยครับ
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) |
#27
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#28
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ครน. ของ 30 และ 36 คือ 180 12 x 180 = 2160 วินาที = 36 นาที ตอบ ถ้าครั้งแรกกระพริบพร้อมกันตอน 10.45น.ไฟทั้งสองจะกระพริบพร้อมกันเป็นครั้งที่ 13 ในเวลา 11 : 21 นาที หหมายเหตุ ถ้าครั้งแรกกระพริบพร้อมกันตอน 10.45น. จึงตัองนับไปอีก 12 ครั้ง
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#29
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
จาก 100 ขึ้นไปทีละ 7 จาก 1000 ลงมาทีละ 8 อัตราส่วนเท่ากับ 7:8 15 ส่วน เท่ากับ 1000 - 100 = 900 หนึ่งส่วน = 60 ขึ้น 7 เท่ากับ 7 x 60 เท่ากับ 420 ดังนั้นขึ้นไปถึง 100 + 420 = 520 ลง 8 เท่ากับลง 8 x 60 = 480 ดังนั้นนับลงมา 1000 - 480 = 520 ทั้งสองคนจะนับได้เลขตรงกันที่จำนวน 520
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#30
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
จับมือ n คน = (n-1) + (n-2) +...+ 1 ครั้ง $1+2+3+...+21 = 231$ ดังนั้นมีคนร่วมงาน 22 คน
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
หัวข้อคล้ายคลึงกัน | ||||
หัวข้อ | ผู้ตั้งหัวข้อ | ห้อง | คำตอบ | ข้อความล่าสุด |
ต้องการ พิมพ์ Latex ใน Microsoft word 2003 | Siren-Of-Step | ซอฟต์แวร์คณิตศาสตร์ | 12 | 17 พฤษภาคม 2010 11:12 |
โจทย์จาก PMWC | คusักคณิm | ข้อสอบในโรงเรียน ประถมปลาย | 4 | 29 พฤศจิกายน 2009 10:17 |
ถามโจทย์ PMWC 1997 | sharkyboy | ปัญหาคณิตศาสตร์ ม. ต้น | 16 | 25 พฤษภาคม 2009 21:46 |
ผลการคัดเลือกนักเรียนไปแข่งขันคณิตศาสตร์โลก PMWC 2008 | Art_ninja | ข่าวคราวแวดวงประถม ปลาย | 16 | 10 เมษายน 2009 20:13 |
PMWC โปวเหลี่ยงก๊ก 2539-2543 | คusักคณิm | ข้อสอบในโรงเรียน ประถมปลาย | 1 | 06 กุมภาพันธ์ 2009 21:55 |
|
|