|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#16
|
|||
|
|||
ข้อ1$\alpha +\beta =110^{\circ} $และข้อ2$\alpha =\beta =55^{\circ} $ก็ถูกนะครับ
20 กุมภาพันธ์ 2012 20:23 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ artty60 |
#17
|
||||
|
||||
ขอข้อง่ายๆ ละกัน
ตอบ 3:5:6
__________________
WHAT MAN BELIEVES MAN CAN ACHIEVE |
#18
|
||||
|
||||
ครับ ข้อ 1 ถูกครับเเต่ผมว่าข้อ 2 ยังสรุปไม่ได้นะครับ
|
#19
|
|||
|
|||
อ้อ โทษทีตั้งใจจะพิมพ์ว่าก็ถูกได้นะครับ
|
#20
|
||||
|
||||
ข้อ 6 ชุดที่1
6.(NSEJS_2008-2009) จงหาค่าของ $(1-\tan A+\sec A)(1-\cot A+\csc A)$ ใช้วิชามาร ให้ $A=45^\circ $ $(1-\tan A+\sec A)(1-\cot A+\csc A)$ $=(\sec A)(\csc A)$ $=\sqrt{2} \times \sqrt{2} $ $=2$
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) 14 มิถุนายน 2013 16:28 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ |
#21
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
สามเหลี่ยม $ LMN = \frac{1}{4} ABC = \frac{1}{4} \times 48 = 12 $
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#22
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
AC ยาวที่สุดได้เท่ากับ 2001+1002 -1 = 3002 หน่วย AC + 1002 > 2001 AC > 999 999 < AC < 3003 AC = 1000 ---> 3002 = 2003 จำนวน
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#23
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
จะได้ $D = (a^2+a+1)^2$ $\sqrt D = a^2+a+1 = a(a+1)+1$ but $2|a(a+1)$ $\therefore 2 \nmid a(a+1)+1$ ข้อ 2
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ 21 กุมภาพันธ์ 2012 20:04 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Thgx0312555 |
#24
|
||||
|
||||
โอ้วววว วิชามาร สุดยอดดดดด
__________________
คณิตศาสตร์ คือ ภาษาสากล คณิตศาสตร์ คือ ความสวยงาม คณิตศาสตร์ คือ ความจริง ติดตามชมคลิปวีดีโอได้ที่http://www.youtube.com/user/poperKM |
#25
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
แต่ถ้าวิธีทำแบบนี้ก็ได้ครับ $(1-\tan A+\sec A)(1-\cot A+\csc A) = \dfrac{(cosA-sinA+1)(sinA-cosA+1)}{sinAcosA}$ $= \dfrac{1^2-(sinA-cosA)^2}{sinAcosA} $ $= \dfrac{1-(1-2sinAcosA)}{sinAcosA} $ $= \dfrac{2sinAcosA}{sinAcosA} $ $= 2$
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ 21 กุมภาพันธ์ 2012 20:26 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Thgx0312555 |
#26
|
||||
|
||||
ขอบคุณครับ ง่ายกว่าที่ผมทำอีก
แต่เจอโจทย์มันนึกไม่ออกอ่ะครับ เลยต้องทำแบบตรงๆไป
__________________
คณิตศาสตร์ คือ ภาษาสากล คณิตศาสตร์ คือ ความสวยงาม คณิตศาสตร์ คือ ความจริง ติดตามชมคลิปวีดีโอได้ที่http://www.youtube.com/user/poperKM |
#27
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
1, 2, 3 10, 11, 12, 13 20, 21, 22, 23 30, 31, 32, 33 100, 101, 102, 103 110 ลำดับที่20 คือ 110
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#28
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
$4a-18b = -13c$ $72b -16a = 52c$.......(*) $3a+3b-4c=0$ $3a+3b = 4c$ $39a+39b = 52c$...(**) $72b -16a = 39a+39b $ $ 55a = 33b$ $\frac{a}{b} = \frac{3}{5}$ ทำนองเดียวกัน จะได้ $\frac{b}{c} = \frac{5}{6}$ จะได้ว่า a : b : c = 3 : 5 : 6
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#29
|
|||
|
|||
ขอบคุณคุณbankerที่ช่วยมาแก้ไขข้อ7ชุด2ครับ
|
#30
|
||||
|
||||
ชุดแรก
อ้างอิง:
$n!+2=2(\frac{n!}{2}+1 )$ $\frac{n!}{2}=3\times 4\times ...\times n!$ จากตรงนี้ เราให้ $n>3$ ซึ่ง $\frac{n!}{2}$ เป็นจำนวนคู่แน่นอน ดังนั้น $\frac{n!}{2}+1$ เป็นจำนวนคี่ ดังนั้นพจน์ $\frac{n!}{2}+1$ จึงไม่สามารถแยกเอาเลข $2$ ออกมาเพื่อสร้างกำลังสองสัมบูรณ์ของ $2$ ได้ จะได้เอา เมื่อ $n>3$ จะไม่มีค่า $n$ ที่ทำให้ n!+2 เป็นกำลังสองสมบูรณ์ จึงเหลือทดสอบเมื่อ $n=1,2,3$ จึงเหลือแค่ $n=2$
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) |
หัวข้อคล้ายคลึงกัน | ||||
หัวข้อ | ผู้ตั้งหัวข้อ | ห้อง | คำตอบ | ข้อความล่าสุด |
พอจะมีข้อสอบ Cu-science | Influenza_Mathematics | ฟรีสไตล์ | 1 | 05 สิงหาคม 2011 12:31 |
What is science? | เทพแห่งคณิตศาสตร์ตัวจริง | ฟรีสไตล์ | 5 | 27 พฤษภาคม 2010 20:39 |
JUNIOR CALCULUS EXAMINATION | คusักคณิm | Calculus and Analysis | 2 | 20 ตุลาคม 2008 17:29 |
Journal of The Indian Mathematical | Soopreecha | อสมการ | 12 | 19 ตุลาคม 2008 18:58 |
Advanced National Educational Test 2550 | Mastermander | ข้อสอบในโรงเรียน ม.ปลาย | 53 | 04 พฤษภาคม 2007 03:00 |
|
|