#121
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ตามนิยาม ถ้าข้อมูลแต่ละค่ามีความถี่เท่ากันหมด ถือว่า ไม่มีฐานนิยม แต่คำตอบถูกแล้วครับ |
#122
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ถ้าอย่างนั้น ขอนี้ตอบเท่าไรครับ
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#123
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ไม่เช่นนั้นข้อนี้ก็จะไม่มีคำตอบที่ถูกต้องครับ ข้อ12 ตอบง.ถูกแล้วครับ 20 เมษายน 2012 15:44 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ artty60 |
#124
|
|||
|
|||
ยังคิดวิธีทำที่เป็นรูปแบบไม่ออก แต่หลังจากเพ่งพิศอยู่นานก็พบว่า ผลรวมของสองจำนวนใดๆเป็น 3 ชุด 13, 14, 15 19, 20, 21, 22 27, 28, 29 แต่ละชุดมีมี 3, 4, 3 จำนวน ตัวแรกๆ ต้องน้อยกว่า 13 ถ้านำ 6, 7, 8 มารวมกับ 13, 14, 15 ก็จะได้ 6, 7, 8, 13, 14, 15 6+7 = 13 6+8 =14 6+13 = 19 6+14 =20 6+15 =21 7+8 = 15 7+13 =20 7+14 = 21 7+ 15 = 22 8+13 =21 8+14=22 8+15=23 13+14=27 13+15=28 14+15 = 29 ดังนั้นข้อมูลชุดนี้คือ 6, 7, 8, 13, 14, 15 ค่าเฉลี่ยเลขคณิต = $\frac{6+7+8+13+14+15}{6} = 10.5$ มัธยฐาน = $\frac{8+13}{2} = 10.5$ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต + มัธยฐาน = 10.5+10.5 = 21 ใครมีวิธีคิดที่เป็นรูปแบบ มีหลัก มีเกณฑ์ กว่านี้ไหมครับ
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#125
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
โจทย์ถูกแล้วครับ ไม่ต้องเปลี่ยน เพราะถ้าเปลี่ยนเป็น "ง. ไม่มีฐานนิยม" คำกล่าวจะเป็นจริงหมด จะไม่มีตัวเลือกในคำตอบ จึงไม่ต้องเปลี่ยน
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#126
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ข้อนี้1. ต้องแสดงว่า ข้อมูลทุกตัวแตกต่างกันก่อน (ทำได้โดยดูว่า ถ้าซ้ำกัน 1 ตัวจะมีผลบวกได้กี่แบบ ถ้าซ้ำมากกว่า 1 ไม่ต้องพูดถึง) 2.กำหนดให้ ข้อมูลที่เรียงจากน้อยไปหามากคือ a,b,c,d,e,f ;a+b=13 ,a+c=14 ,e+f=29 ,d+f=28 นี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องระลึกรู้ พิจารณา 15 มันจะมีได้ 2 แบบ คืออยู่ในรูป b+c หรือ a+d ถ้า a+d=15 เราจะได้ ว่า a+e=16 (โดยการแก้ระบบสมการ ลบๆบวกๆกัน) ซึ่งไม่มีตามข้อกำหนด ถ้า b+c=15 เราจะได้ a=6,b=7,c=8 แล้วเรา งมต่อไม่นาน จะได้ d=13,e=14,f=15 |
#127
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ขอต้อนรับเข้าสู่ "ชมรมนักงม" แห่งประเทศไทย
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ (ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี) (แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด) |
#128
|
|||
|
|||
ข้อที่ ไม่มีฐานนิยมผมดูโจทย์ผิด นึกว่าถามฐานนิยม ขออภัยครับ
ใช้Stewart's Theorem กับ $\triangle ABC$ 2ครั้ง $6(7^2)+7(8^2)=13(42+AE^2)\rightarrow AE^2=\frac{196}{13} $ $8(7^2)+5(8^2)=13(40+AD^2)\rightarrow AD^2=\frac{192}{13}$ จากCosine's law$2^2=\frac{196}{13}+\frac{192}{13}-2\frac{14}{\sqrt{13}}\frac{8\sqrt{3}}{\sqrt{13}}cosD\hat A E $ $cosD\hat AE=\frac{\sqrt{3}}{2} \therefore D\hat AE=30^{\circ} $ |
#129
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ใช้กัยสามเหลี่ยม ABC จะได้ มุม BAC กาง 120 องศา ให้ 2x,2y แทนมุมABC , ACB ตามลำดับจะได้ 2x+2y=60 ; x+y=30 แล้ว มุม ADE , AED จะกาง 90-y,90-x ตามลลำดับ นั่นคือ DAE กาง x+y=30 องศา |
#130
|
|||
|
|||
ช่วยแสดงวิธีที่ทำให้$A\hat D E=90-y$ และ $A\hat E D=90-x$ หน่อยได้มั๊ยครับมองไม่ออกจริงๆครับ
|
#131
|
||||
|
||||
หาสามเหลี่ยมหน้าจั่วดูนะเทอ
|
#132
|
|||
|
|||
ขอบคุณครับ
|
#133
|
|||
|
|||
จากพ.ท.$\triangle ABC=\sqrt{3}$ จะได้$AC=2$ จาก$\triangle AOE\rightarrow \frac{OE}{AE}=tan30^{\circ} =\frac{1}{\sqrt{3}}\therefore OE=\frac{1}{\sqrt{3}}$ $\therefore R_{ex}=OD=1+\frac{1}{\sqrt{3}}=\frac{3+\sqrt{3}}{3}$ และคำตอบข้อ42 $r_c=1-\frac{1}{\sqrt{3}}=\frac{3-\sqrt{3}}{3}$ |
#134
|
|||
|
|||
แมลงวันจะไล่ตามมดทันต้องใช้เวลาเท่ากับระยะที่ห่างกันคือa+b $a^2+b^2=101^2.....(1)$ $a^2+(b-78)^2=29^2.....(2)$ $(1)-(2)\rightarrow 156b-78^2=101^2-29^2\quad\therefore b=99$ แทนค่า$b$ในสมการ$(1)\rightarrow a=20$ ดังนั้นตั้งแต่จุดเริ่มเดินแมลงวันจะตามมดทันใช้เวลาทั้งหมด$a+b=119$ ดังนั้นหักไป $6$ ก็จะใช้เวลาอีก$=113$ นาที |
#135
|
|||
|
|||
สมการ$y^2-10x+29\rightarrow y=(x-5)^2+4$ เป็นกราฟพาราโบล่าหงายมีจุดยอดที่พิกัด$(5,4)$ สมการ$y=-x^2+14x-41\rightarrow y=-(x-7)^2+8$ เป็นกราฟพาราโบล่าคว่ำมีจุดยอดที่พิกัด$(7,8)$ สังเกตเห็นว่าจุดยอดทั้งสองเป็นพิกัดที่อยู่บนกราฟพาราโบล่าทั้งสอง ดังนั้นจุดA,B คือจุดทั้งสอง $PA=PB\rightarrow (8-y)^2+(7-x)^2=(y-4)^2+(x-5)^2$ ได้$2y=18-x$ แทนค่าในสมการ $x^2-10x+29$ ได้ $x=2,\frac{15}{2}$ขอแก้ใหม่เป็น $x=\frac{19\pm \sqrt{41}}{4}$ แต่ $5<x<9$ $\therefore 4x=4(\frac{15}{2})=30$ ขอแก้ใหม่เป็น $4x=19+\sqrt{41} $ 24 เมษายน 2012 21:23 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ artty60 |
|
|