|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
||||
|
||||
เด็กจากรับตรงเจ๋งกว่าแอดมิชชั่น
พอดีวันนี้อ่านข่าว จาก นสพ. เดลินิวส์ เลยเอามาฝากให้อ่านกันครับ
วันอังคาร ที่ 01 มิถุนายน 2553 เวลา 7:56 น เด็กจากรับตรงเจ๋งกว่าแอดมิชชั่น รศ.ดร.เสริมเกียรติ จอมจันทร์ยอง คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ในฐานะหัวหน้าโครงงานวิจัยผลสัมฤทธิ์ผู้สำเร็จการศึกษาที่เข้าศึกษาคณะ วิศวกรรมศาสตร์ระบบรับตรงกับผ่านการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดม ศึกษาด้วยระบบกลางการรับนิสิตนักศึกษา หรือ แอดมิชชั่นกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะวิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลนิสิตนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ปี 2550-2551 ของมหาวิทยาลัยรัฐ 12 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ม.ธรรมศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ม.ขอนแก่น ม.เกษตรศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ม.เทคโนโลยี สุรนารี ม.นเรศวร ม.มหิดล สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เสร็จเรียบร้อยแล้ว รศ.ดร.เสริมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลที่ได้พบว่า ผลสัมฤทธิ์ของนิสิตนักศึกษาที่ผ่านระบบรับตรงมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ผ่านมา ทางระบบแอดมิชชั่น โดยดูได้จากตัวชี้วัด 3 ด้าน ได้แก่ 1.การถูกรีไทร์ และการลาออกของนิสิตนักศึกษาจากระบบแอดมิชชั่นมีสูงกว่ารับตรง 2.คะแนนเฉลี่ยของวิชาพื้นฐานด้านวิศวกรรมศาสตร์ เช่น แคลคูลัส เคมี ฟิสิกส์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ของกลุ่มแอดมิชชั่น ต่ำกว่ากลุ่มรับตรง และ 3.คะแนนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตร ม.ปลาย หรือ GPAX ของกลุ่มแอดมิชชั่นต่ำกว่ากลุ่มรับตรง “ผลการวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า องค์ประกอบและค่าน้ำหนักที่นำมาใช้ในการแอดมิชชั่นของวิศวะขณะนี้ยังไม่ เหมาะสม ซึ่งผมได้เสนอต่อที่ประชุมสภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย กระทรวงศึกษาธิการ และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ว่า ในการแอดมิชชั่นปี 2556 ของกลุ่มวิศวะจะต้องมีการปรับองค์ประกอบและค่าน้ำหนักใหม่ โดยจะใช้ GPAX 10% การวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT 20% และ ความถนัดวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT 70% แบ่งเป็น ความถนัดทางด้านคณิตศาสตร์ หรือ PAT1 20% และความถนัดทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ หรือ PAT3 50% จากปัจจุบันที่ใช้ GPAX 20% คะแนนแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ O-NET 30% GAT 15% และ PAT 35% แบ่งเป็นความถนัดทางวิทยาศาสตร์ หรือ PAT2 15% และ PAT3 20% โดยหวังว่า ทปอ.จะเห็นด้วยกับแนวทางนี้ แต่หากไม่เห็นด้วยคณะวิศวะมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ก็คงจะต้องรับผ่านระบบรับตรงมากขึ้นโดยอาจจะถึง 80-90% แล้วไปรับผ่านแอดมิชชั่นเพียง 10-20% เท่านั้น” รศ.ดร.เสริมเกียรติกล่าว. ผมอ่านจากข่าว ยังไม่ได้มีโอกาสได้อ่านงานวิจัยฉบับเต็ม ผมเกรงว่าแม้แก้ตามที่เสนอก็ไม่ได้แก้ปัญหา 3 ด้านที่ใช้เป็นตัวชี้วัด ผมอยากจะบอกว่าเป็นที่รู้กันในหมู่เด็ก ม.ปลายว่าเด็กที่เข้ารับตรงไม่ได้ จะเป็นกลุ่มเด็กที่มีความรู้ทางวิชาการด้อยกว่าพวกที่เข้าไปก่อนแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับว่าจะต้องมาปรับสัดส่วนของวิชาเลย เพราะจะใช้วิธีไหนมาคัดก็เป็นกลุ่มคนที่เหลือจากเข้ารับตรงไม่ได้ ซึ่งพูดให้ง่ายก็เป็นกลุ่มที่มีคุณภาพทางวิชาการด้อยกว่า ถ้าอยากแก้ปัญหานี้จริง ต้องไปแก้ที่คุณภาพการศึกษา ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ๋และสำคัญ แต่ดูมาหลายปีแล้วยังไม่เห็นผู้มีบุญกลับชาติมาเกิดแล้วมาทำทางด้านนี้เลยครับ |
#2
|
||||
|
||||
เห็นด้วยครับ
__________________
ผมจะต้องเป็นครูที่เก่งและที่ดีให้ได้เลยครับ
|
#3
|
|||
|
|||
ผมว่าpat 3 วัดผลได้ดีนะครับ ถึงจะมีข้อสอบผิด และก็เฉลยผิดบ้างก็ตาม
|
#4
|
||||
|
||||
#3
อันที่จริง pat 3 ก็ไม่ใช่ตัววัดที่ดีเท่าไรถ้าเทียบกับระบบ entrance ในสมัยก่อน เพราะ pat 3 เกิดจากการตกผลึกที่เป็นปัญหาของ A-NET จะเห็นว่า เนื้อหาของ pat 3 ก็ไม่ได้ครอบคลุมวิชาทั้งหมดที่เรียนในช่วงชั้น 4 และยังมีการผสมกับเนื้อหาทางคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวกับทางฟิสิกส์เข้าไปอีก 10-15% ถ้าเป็นสมัยที่ยังใช้ระบบ entrance อยู่คนที่จะเข้าวิศวะ จะสอบเพียง เลข เคมี ฟิสิกส์ อังกฤษ และความถนัดทางวิศวกรรม ทั้งเนื้อหาที่เข้มข้นและสัดส่วนล้วนสัมพันธ์กับวิชาที่จะไปต่อยอดในมหาวิทยาลัย แต่แน่นอนครับ ถ้าจัดสัดส่วนให้ pat 3 ถ่วงน้ำหนักมากขึ้น ย่อมคัดกรองได้ดีกว่าที่มีการถ่วงน้ำหนัก pat 3 น้อยกว่า (ทั้งนี้ข้อสอบต้องได้มาตรฐานและมีคุณภาพด้วย) แต่ที่ผมอ่านตามข่าวผมว่าไม่น่าจะแก้ได้ เพราะเด็ก ม.6 ส่วนใหญ่จะพยายามหาคณะเข้าก่อน ซึ่งการรับตรงก็เปิดรับก่อน แอดมิชชั่น ดังนั้นเด็กเก่งก็จะได้เข้าไปก่อน พอมาถึง แอดมิชชั่นแม้ว่าจะปรับสัดส่วน ให้เหมือนกับรับตรง ก็เหมือนกับว่าเราไปคัดคนเก่งจากของเหลือของรับตรง ดังนั้นเมื่อเข้าไปได้ ในทางตรรก ก็ไม่สามารถไปแข่งกับเด็กที่เข้าได้เพราะรับตรงอยู่ดี ยิ่งใช้ตัวชี้วัด 3 ด้านที่ว่าผมถึงบอกว่าไม่น่าจะแก้ได้ ยกเว้นจะมีเกณฑ์มาตรฐานว่าถ้าคะแนนไม่ถึง เท่าไร ไม่รับ ก็ดูอย่างปีที่ผ่านมาดูซิ เด็กวิศวะคอมคะแนนต่ำสุดยังไม่ถึง 15000 เลย ปล. อย่าไปซีเรียสกับมันมากครับเพราะเดี๋ยวก็ผ่านไป แก้พวกนี้ไม่ง่ายครับ |
#5
|
|||
|
|||
เดี๋ยวผลคะแนนmidtermออก จะได้รู้กันครับ ว่ารุ่นนี้มันแตกต่างขนาดไหน
|
|
|