#1
|
|||
|
|||
อสมการโคไซน์
โจทย์เอามาจากหนังสือคับ
ให้ $a_1,\cdots,a_n$ เป็นจำนวนจริง จงแสดงว่า $$ \sum_i\sum_jij\cos(a_i-a_j)\geq0 $$
__________________
INEQUALITY IS EVERYWHERE |
#2
|
||||
|
||||
สัญลักษณ์ที่ห้อย i กับ j นี่หมายความว่าอย่างไรครับ. หมายถึงว่าเริ่มที่ 1 เสมอหรือเปล่า?
สมมติว่าถ้าใช่ ถ้าลองคำนวณ $\sum_{i=1}^1\sum_{j=1}^2 i \cdot j \cos(a_i-a_j)$ โดยที่ $a_1 = \pi, a_2 = 0$ ก็จะได้ว่า $L.H.S = 1 \cdot 1 \cos (a_1 - a_1) + 1 \cdot 2 \cos (a_1 - a_2) = 1 - 2 < 0$ |
#3
|
|||
|
|||
ขออภัยครับลืมใส่ช่วงการ sum ลอกมาหนังสือทั้งดุ้นเลยครับ
คิดว่าโจทย์คงหมายถึง sum ตั้งแต่ 1 จนถึง $n$ ทั้ง $i$ และ $j$ ครับ ขอบคุณคุณ gon มากๆครับ
__________________
INEQUALITY IS EVERYWHERE |
#4
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ดังนั้น $$\sum_{i=1}^n \sum_{j=1}^n ij\cos(a_i-a_j)$$ $$= \left(\sum_{i=1}^n i\cos a_i\right) \left(\sum_{j=1}^n j\cos a_j\right) + \left(\sum_{i=1}^n i\sin a_i\right) \left(\sum_{j=1}^n j\sin a_j\right)$$ $$= \left(\sum_{i=1}^n i\cos a_i\right)^2 + \left(\sum_{i=1}^n i\sin a_i\right)^2 \ge0$$ คร้าบ |
#5
|
|||
|
|||
ว้าวง่ายอะไรจะปานนั้น
ผากอีกสองข้อละกันครับ 2. ถ้า $a+b+c+d+e+f=0$ และ $a^3+b^3+c^3+d^3+e^3+f^3=0$ แล้ว $$ (a+c)(a+d)(a+e)(a+f)=(b+c)(b+d)(b+e)(b+f) $$ 3. จงแสดงว่าทุกจำนวนเต็มบวก $m,n$ $$ \frac{1}{\sqrt[m]{n}}+\frac{1}{\sqrt[n]{m}}>1 $$
__________________
INEQUALITY IS EVERYWHERE 19 กุมภาพันธ์ 2006 05:53 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ sompong2479 |
#6
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
$$(x+y+z)^3-(x^3+y^3+z^3)= 3(x+y)(x+z)(y+z)$$ ดังนั้นผมขอแสดงขั้นตอนการพิสูจน์แบบคร่าวๆเท่านั้นครับ 1. เริ่มจากการพิสูจน์ว่า ถ้ามีผลบวกคู่ใดเป็น 0 เช่น $a+b=0$ แล้วอีก 4 ตัวที่เหลือจะต้องสามารถจับคู่กันแล้วมีผลบวกเป็น 0 ด้วย เช่นเราอาจได้ $c+f=0$ และ $d+e=0$ 2. พิสูจน์ว่าถ้าเกิดกรณีในข้อ 1. ขึ้น แล้วข้อความที่เราต้องการพิสูจน์จะเป็นจริง ซึ่งตรงนี้เราต้องแยกพิจารณาเป็น 2 กรณีคือ $a+b=0$ กับ $a+b\ne0$ 3. จัดการกับกรณีที่เหลือ ซึ่งก็คือไม่มีคู่ใดที่มีผลบวกเป็น 0 อยู่เลย โดยทำดังนี้ครับ จาก $a+c+d= -(b+e+f)$ และ $a^3+c^3+d^3= -(b^3+e^3+f^3)$ ยกกำลังสามสมการแรก แล้วลบด้วยสมการที่สอง จากนั้นใช้เอกลักษณ์ข้างบน เราจะได้ว่า $$(a+c)(a+d)(c+d)= -(b+e)(b+f)(e+f)$$ ทำนองเดียวกันจาก $a+c+e= -(b+d+f)$ และ $a^3+c^3+e^3= -(b^3+d^3+f^3)$ จะได้ $$(a+c)(a+e)(c+e)= -(b+d)(b+f)(d+f)$$ ทำเช่นนี้กับทุกกรณีที่ $a$ และ $b$ อยู่กันคนละฝั่งของสมการ แล้วนำผลที่ได้ทั้งหมดมาคูณกัน หลังจาก simplify แล้วเราจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการครับ 26 กุมภาพันธ์ 2006 01:17 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ warut |
#7
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
$a^b+b^a > 1$ for all $a,b > 0$. It is trivial if $a\geq 1$ or $b\geq 1$, so assume that $a,b \in (0,1)$. By Weighted AM-GM Inequality, we have \( \displaystyle{ (\frac{1}{a})^b = (\frac{1}{a})^b \cdot 1^{1-b} < \frac{b}{a} + 1 - b = \frac{a+b-ab}{a} } \) and \( \displaystyle{ (\frac{1}{b})^a = (\frac{1}{b})^a \cdot 1^{1-a} < \frac{a}{b} + 1 - a = \frac{a+b-ab}{b}. } \) Thus \( \displaystyle{ a^b + b^a > \frac{a}{a+b-ab} + \frac{b}{a+b-ab} = \frac{a+b}{a+b-ab} = 1 + \frac{ab}{a+b-ab} > 1. \ } \)
__________________
site:mathcenter.net คำค้น 26 กุมภาพันธ์ 2006 00:16 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nooonuii |
#8
|
|||
|
|||
ขอบคุณมากครับคุณ warut และคุณ nooonuii
วิธีของคุณ nooonuii เจ๋งจิงๆคับ มองทะลุจิงๆ ถามต่อนะครับ 4. จงแสดงว่าถ้ารูปหลายเหลี่ยมนูน (convex polygon) มีสมบัติว่า มีมุมสี่มุมที่เท่ากับ 90 องศา แล้ว รูปดังกล่าวต้องเป็น(ไอ้หน้า)สี่เหลี่ยมมุมฉากเท่านั้น
__________________
INEQUALITY IS EVERYWHERE |
#9
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ดังนั้นเราจะพิจารณาเฉพาะกรณีที่ไม่มีมุมใดที่กาง $180^\circ$ อยู่ ในการพิสูจน์ของผมจะใช้ความจริงที่ว่า convex polygon ไม่มีมุมที่กางมากกว่า $180^\circ$ อยู่ครับ ถ้า convex polygon มีด้าน $n>4$ ด้านและมีมุม $4$ มุมกาง $90^\circ$ ส่วนมุมที่เหลือแต่ละมุมกางน้อยกว่า $180^\circ$ เราจะได้ว่า มุมภายในรวมของรูปหลายเหลี่ยมนี้ มีค่าน้อยกว่า $180(n-4)+ 4\cdot 90 = 180n-360$ องศา แต่เรารู้ว่ารูป $n$ เหลี่ยมใดๆมีมุมภายในรวมเท่ากับ $180n-360$ องศา จึงเกิดข้อขัดแย้งขึ้นครับ ป.ล. คุณ sompong2479 มีเฉลยของโจทย์แต่ละข้อที่เอามาถามหรือเปล่าครับ |
#10
|
|||
|
|||
ขอบคุณคร้าบบบบบ ผมว่าเฉลยของคุณ warut กับคุณ nooonuii สวยมากแล้วละครับ
คงไม่ต้องดูเฉลยของหนังสือหรอกมั้งครับ แต่ถ้าสนใจดูได้จากหนังสือ 500 mathematical challenges, MAA ของ E. Barbeau, M. Klamkin, W. Moser PS ชอบข้อสุดท้ายจัง แต่คำตอบเลวจริงๆ เป็นไปได้แค่ไอ้หน้าเหลี่ยม
__________________
INEQUALITY IS EVERYWHERE |
#11
|
|||
|
|||
ขอเสนออีกวิธีสำหรับข้อ 3 ครับ WLOG: $m,n>1$
ให้ $x=\sqrt[m]{n}$ จะได้ว่า $x^m-1=(x-1)(x^{m-1}+\cdots+x+1)>m(x-1)$ (เนื่องจาก $x>1$) ดังนั้น $x-1<(n-1)/m$ ทำนองเดียวกัน ให้ $y=\sqrt[n]{m}$ จะได้ว่า $y-1<(m-1)/n$ เพราะฉะนั้น \[ (x-1)(y-1)<1\Longrightarrow\frac{1}{x}+\frac{1}{y}>1 \] DONE |
#12
|
|||
|
|||
วิธีพิสูจน์ข้อ 3. ของคุณ Punk ง่ายและสวยมากๆครับ
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
|
|