|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ค้นหา | ข้อความวันนี้ | ทำเครื่องหมายอ่านทุกห้องแล้ว |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
||||
|
||||
หลักรังนกพิราบ (จากหนังสือ สอวน.)
1. ให้ A เป็นเมทริกซ์ขนาด $m\times n$ และกำหนดให้ $d_i$ คือผลต่างของค่ามากสุดและค่าน้อยสุดในแถว i
$d=max{d_1,d_2,...,d_m}$ และเมื่อ เรียงเลขในแต่ละหลักจากมากไปน้อยโดยค่ามากสุดอยู่บนสุด จงแสดงว่า ผลต่างระหว่างค่าสูงสุดกับค่าต่ำสุดของแต่แถว ของเมทริกซ์ที่สลับแล้วมีค่าไม่เกิน d 2. มีทีมฟุตบอตทั้งหมด 28 ทีม แข่งแบบพบกันหมดโดยทีมที่ชนะจะได้ 2 คะแนน เสมอ 1 แพ้ 0 เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดแล้วพบว่ามากกว่า 75% ของการแข่งขันมีผลเสมอ จงแสดงว่าต้องมี 2 ทีมที่คะแนนรวมเท่ากัน |
#2
|
||||
|
||||
กำลังรออยู่ว่าจะมีคนมาตอบไหม
ในเมื่อผ่านมาหนึ่งวันแล้ว เดี๋ยว hint ให้ก่อน 1. ลองพิจารณาแค่ 2 คอลัมน์ใดๆ สมมติจำนวนที่อยู่ใน 2 คอลัมน์นั้นเป็น $a_1 \ge a_2 \ge \cdots \ge a_n$ และ $b_1 \ge b_2 \ge \cdots \ge b_n$ 2. ลองเปลี่ยนเป็นชนะได้ 1 คะแนน เสมอได้ 0 คะแนน แพ้ได้ -1 คะแนนดูครับ
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ |
#3
|
||||
|
||||
#2 ขอ hint เพิ่มหน่อยครับ ยังมองไม่ออกครับ
|
#4
|
||||
|
||||
แล้วก็ลองคิดดูว่าถ้าสมมติขัดแย้ง ทุกทีมคะแนนต่างกันหมดจะเกิดอะไรขึ้นครับ
แล้วการที่จะเกิดผลลัพธ์เช่นนั้นได้(ทุกทีมคะแนนต่างหมด) ต้องเกิดการแพ้/ชนะอย่างน้อยกี่ครั้ง
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ |
#5
|
||||
|
||||
ไม่แน่ใจตรวจให้หน่อยครับรู้สึกแปลกๆ
2.สมมุติให้ ทุกทีมคะแนนต่างกันหมด ให้ $x_i$ คือคะแนนของทีมที่ i โดย $x_i\not= x_j $ เมื่อ $i\not= j$ และ $-27 \leq x_i \leq 27$ และจะมีอย่างน้อย 14 ทีมที่มีคะแนนเป็นบวก /ลบ เหมือนกัน โดยไม่เสียนัยให้ทีมที่มีคะแนนเป็นบวกเหมือนกัน 14 ทีม จึงได้ $\sum _{ x_i >0} x_i \geq 1+2+3+...+14= 105$ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการชนะเกิดขึ้นอย่างน้อย 105 ครั้ง แต่จำนวนการแพ้/ชนะ ที่เกิดขึ้นได้มากสุดคือ $\binom{28}{2} /4= 94.5 $ หรือ 94 ครั้ง เกิดข้อขัดแย้ง เพราะฉะนั้นต้องมี 2 ทีมที่มีคะแนนเท่ากัน ปล. ขอข้อ 1 ด้วยครับยังไม่ได่เหมือนกัน ( มารื้อฟื้นความรู้ ทำไม่ค่อยได้เลย ) 17 กรกฎาคม 2016 15:47 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ ความรู้ยังอ่อนด้อย |
#6
|
||||
|
||||
เป็น hint ที่หนักเหมือนกันแต่ยังไม่ขนาดเฉลยครับ
เพื่อความง่ายเราจะดูแค่สองคอลัมน์และดูตารางที่สลับแล้ว สมมติว่าตารางเป็นแบบนี้ (แต่ละคอลัมน์เรียงจากมากไปน้อย) $\matrix{x_1 & y_1 \\ x_2 & y_2 \\ x_3 & y_3 \\ x_4 & y_4 \\ x_5 & y_5} $ ทีนี้ไม่ว่าจะสลับมั่วๆอย่างไร เช่น $\matrix{x_1 & y_3 \\ x_2 & y_4 \\ x_3 & y_1 \\ x_4 & y_5 \\ x_5 & y_2} $ ค่า max ของผลต่างก็จะเพิ่มขึ้น
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ |
#7
|
||||
|
||||
#6 ยังไม่ออกเลยครับ 5555
ขอฝากโจทย์เพิ่ม 1.มีนักเรียน 49 คนทำข้อสอบ 3 ข้อ โดยแต่ละข้อมีคะแนนตั้งแต่ 0-7 จงแสดงว่า มีนักเรียนอย่างน้อย 2 คนซึ่งหนึ่งในนั้นได้คะแนนในแต่ละข้อไม่น้อยกว่าอีกคนเสมอ 2.ให้ $S={a_1,a_2,...,a_n}$ เป็นลำดับของจำนวนเต็มบวก ซึ่ง $a_n \not= n+1$ และ $a_1+a_2+...+a_n=2n$ จงแสดงว่า ถ้า n เป็นเลขคู่ แล้วจะมีบางสับเซตของ S ซึ่งผลบวกของสมาชิกทุกตัวเท่ากับ n |
#8
|
||||
|
||||
Hint สุดท้ายแล้วครับ
สำหรับทุก $i$ จะมี $(x,y)$ ซึ่ง $a_i-b_i \le a_x - b_y$ โดยที่ $a_x$ อยู่แถวเดียวกับ $b_y$ ถ้ายังไม่ได้อีก 2-3 วันเดี๋ยวมาเฉลยครับ ข้อข้างล่างคุ้นๆเหมือนเคยเฉลยอยู่ครั้งนึงครับ
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ |
#9
|
||||
|
||||
ข้อข้างล่างข้อ 1 เคยเฉลยไว้ครั้งนึงในบอร์ดนี้แล้ว
แต่จะยังไม่ลงลิงค์ให้ เดี๋ยวลง hint ให้ก่อน ถ้าให้คะแนนของนักเรียนแต่ละคนแทนด้วย $(a,b,c)$ สังเกตว่าไม่มีนักเรียนสองคนใดมี $(b,c)$ เท่ากันครับ
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ |
#10
|
||||
|
||||
1. ตามที่ hint เลยนะครับ พิจารณาใน 2 คอลัมน์ใดๆ
ให้ $a_{i+1} \geq a_i$ และ $b_{i+1}\geq b_i $ โดยที่ i=1,2,...,m-1 สำหรับจำนวนเต็มบวก k ซึ่ง $1\leq k\leq m$ พิจารณา $a_k-b_k \leq a_i-b_k$ เมื่อ $m\geq i \geq k$ และ $a_k-b_k \leq a_k-b_j$ เมื่อ $k \geq j \geq 1$ ให้ $S=\left\{\,(a_i,b_j) | m\geq i \geq k และ k \geq j \geq 1\right\} $ สมมุติให้ สลับแถวเรียบร้อยแล้ว แล้วมีไม่มีคู่อันดับ $(a_i,b_j)$ ซึ่ง $(a_i,b_j)\in S$ จะได้ว่า $(a_i,b_j) \notin S$ สำหรับ $k \leq i\leq m$ และ $k+1 \leq j \leq m$ จะเห็นว่า จะต้องมีบาง $b_i$ ซึ่งใช้ร่วมกับ $a_x,a_y$ เป็นไปไม่ได้ (แต่ละ $a_i$ คู่กับ $b_j$ ได้เพียงตัวเดียว) เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะสลับอย่างไร ก็จะต้องมี $(x,y)$ ซึ่งทำให้ $a_i-b_j \leq a_x-b_y$ เสมอ ปล. ถ้า $a_x-b_y < 0$ ทำคล้ายๆกัน แต่กลับข้างเครื่องหมายปะครับ? |
#11
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
idea ของข้อนี้คือ จะต้องมี $i \in \left\{ k,k+1,...,m \right\}$ และ $j \in \left\{ 1,2,...,k \right\}$ ซึ่ง $a_i$ อยู่แถวเดียวกับ $b_j$ ซึ่งการที่มาของข้อสรุปนี้ควรจะมาจากข้อความนี้ สังเกตว่า $a_k,a_{k+1},...,a_m$ ไม่สามารถจับคู่กับ $b_{k+1},...,b_m$ ได้ทั้งหมด ซึ่งการเขียน $(a_i,b_j) \notin S$ สำหรับ $k \leq i\leq m$ และ $k+1 \leq j \leq m$ มันก็ยังผิดความหมายอยู่ ควรจะเขียนว่า สำหรับ $k \leq i\leq m$ ถ้า $(a_i,b_j) \notin S$ แล้ว $k+1 \leq j \leq m$ มากกว่า ก็เรื่อง logic เล็กๆน้อยๆครับ ส่วนกรณี $a_x-b_y < 0$ ไม่ต้องแยกกรณีครับเพราะใน proof นี้ไม่มีส่วนไหนที่ใช้ความที่ $a_x-b_y \ge 0$ อ้างอิง:
ให้เป็น hint เหมือนเดิม - induction (อะไรที่เท่ากันก็เอาไปไว้คนละข้าง) - สังเกตว่าจะต้องมีตัวเลข $1$ อยู่เยอะมากเลยครับ - เงื่อนไข $n$ เป็นเลขคู่ ให้มาเพื่อกำจัดกรณีเป็น $2$ หมดเฉยๆ สามารถตัดเงื่อนไขนี้ทิ้งและเปลี่ยนเงื่อนไขเป็น มีเลขที่มากกว่า $2$ แทน
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ |
#12
|
||||
|
||||
ผมก็รู้สึกว่าเขียนงงๆ แต่ไม่รู้จะเขียนออกมายังไงเดี๋ยวจะไปแก้ครับ ส่วนอีกข้อลองตรวจให้หน่อยครับ
ให้ $a_i \leq a_{i+1}$ โดยที่ i=1,2,...,n-1 พิจารณา $\sum_{i=1}^{n} a_i \geq n-1+a_n$ เพราะฉะนั้นจะได้ $a_n \leq n $ และ $a_1=1$ สำหรับจำนวนนับ n $(a_n \not= n+1)$ พิจารณา $\sum_{i=1}^{n-1} a_i \geq \dfrac{n}{2}+\dfrac{na_{\frac{n}{2}+1}}{2}$ จะได้ว่า $a_{\frac{n}{2}+1} \leq 3$ ถ้ามี i ที่ $i \leq n/2$ ซึ่ง $a_i \geq 3$ จะทำให้ $\sum_{i=1}^{n} a_i > 2n$ เพราะฉะนั้น $a_i=1,2$ สำหรับ $i \leq n/2$ ให้ $p=a_1+a_2+...+a_{n/2}$ และให้ $P=\left\{\,a_1,a_2,...,a_{\frac{n}{2}}\right\} $ จะเห็นว่า $\dfrac{n}{2}\geq p \leq n-1$ พิสูจน์ได้ไม่ยากว่ามีบางสับเซตของ P , called Q, ซึ่ง $\sum_{i \in Q} a_i =k $ สำหรับทุก $k \leq p$ ( พิสูจน์จาก k สามารเขียนในรูป 2j หรือ 2j+1) ให้ r เป็นจำนวนเต็มบวกซึ่ง $\sum_{i=\frac{n}{2}+1}^r <n$ แต่ $\sum_{i=\frac{n}{2}+1}^{r+1} a_i >n$ ให้ $\sum_{i=\frac{n}{2}+1}^r =n-s$ กรณี 1: $s \leq p$ จะได้ $\sum_{i \in Q} a_i + \sum_{i=\frac{n}{2}+1}^{r}=n$ กรณี 2: $s > p$ จาก$\sum_{i =\frac{n}{2}+1}^{r+1} >n $ ทำให้ $a_{r+1}>s>p\geq \dfrac{n}{2}$ เพราะฉันนั้น $a_i \geq \dfrac{n}{2}+2$ สำหรับ $i\geq r+1$ สำหรับ n>5 พิจารณา $a_1+a_2+...+a_n= p+\sum_{i=\frac{n}{2}+1}^{r+1}+a_{r+2}+...+a_n > \dfrac{n}{2}+n+\dfrac{n}{2}+2>2n $ เหลือแค่กรณี n=2,n=4 (นั่งแทนค่า ) |
#13
|
||||
|
||||
solution ยังผิดอยู่แต่สามารถแก้ได้ครับ
บรรทัดสุดท้ายถ้า $r+1=n$ ก็จะผิดครับ เช่นในกรณี $1,1,1,...,1,n+1$ เนื่องจากว่าดูเหมือนจะไม่มีใครใช้วิธีที่ hint ให้ไป ขอเฉลยวิธีผมเลยนะครับ แต่ยังไม่ต้องดูก็ได้ induction บนจำนวนของจำนวนเต็มที่มากกว่า 1 ในลำดับดังกล่าว ให้ $P(k)$ แทนข้อความ ให้ $a_1,a_2,...,a_n$ เป็นลำดับของจำนวนเต็มบวกซึ่ง $a_1+a_2+\cdots+a_n=2n$ และมีจำนวนที่มีค่ามากกว่า $1$ อยู่ $k$ ตัว โดยมีเงื่อนไขคือมีจำนวนที่มากกว่า $2$ อยู่อย่างน้อย $1$ ตัว (ตัดเงื่อนไข $n$ เป็นเลขคู่ออก) Case $k=1$ จะได้จำนวนที่มากกว่า $1$ นั้นคือ $n+1$ ขัดแย้งกับโจทย์ จึงเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่า $P(k)$ เป็นจริงสำหรับ $k \ge 2$ Base Step $k=2$ เหมือน step induction Base Step $k=3$ สมมติจำนวนที่มากกว่า $1$ คือ $l,m,p$ จะต้องมีเลข $1$ อยู่ $l+m+p-6$ ตัว ขั้นนี้เป็นขั้นที่ใช้เงื่อนไขมีจำนวนมากกว่า $2$ จึงสมมติ $l \ge 3$ และเลือก $S=\left\{ \overbrace{1,1,...,1}^{l-3},m,p \right\}$ Inductive Step สมมติ $P(k-2)$ ใช้ได้ จะพิสูจน์ $P(k)$ ใช้ได้ สมมติ $l,m \ge 2$ (เลือก $l,m$ ให้เหลือเลขที่เกิน $2$ อยู่) จะมีเลข $1$ อยู่อย่างน้อย $l+m-4$ ตัว แบ่งเป็นสองกลุ่มที่ผลบวกเท่ากันได้ดังนี้ $\left\{ \overbrace{1,1,...,1}^{m-2},l \right\}$, $\left\{ \overbrace{1,1,...,1}^{l-2},m \right\}$ ตัดออกและใช้ induction Case เป็น $2$ หมด trivial, เฉพาะเคสนี้ที่ใช้เงื่อนไข $n$ เป็นคู่ ส่วนที่ hint ให้ใช้ $x_i$ แทนจำนวนของตัวเลข $i$ จะได้ความสัมพันธ์นี้ครับ ซึ่งบอกจำนวนเลข $1$ ที่ต้องมี $x_1=x_3+2x_4+3x_5+\cdots+(n-2)x_n$
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ 22 กรกฎาคม 2016 23:27 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 3 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Thgx0312555 |
#14
|
|||
|
|||
ขอบคุณ คุณThgx0312555 ที่ให้คำแนะนำนะคะ
พิสูจน์แบบนี้ ใช้ได้ไหมคะ ให้ $T = \{a_1, a_2, a_1 + a_2, a_1 + a_2 + a_3, ..., a_1+a_2+...+a_n \}$ ซึ่งมี $n+1$ สมาชิก โดยหลักรังนกพิราบ จะมีอย่างน้อย 2 สมาชิก $A, B \in T$ ซึ่ง $A \equiv B (\bmod n)$ กรณีที่ 1 : $\mid A \mid = \mid B \mid$ $A = a_1 , B = a_2$ 1.1 $a_1 = a_2$ ที่สอดคล้องกับเงื่อนไขโจทย์ มี 2 กรณี คือ $ a_1 = a_2 = 1$ และ $a_n \not= n+1$ เป็นไปได้หลายแบบ เช่น $ S = \{\underbrace{1, 1, ..., 1}_{\text{$n-2\;$ ตัว}},2, n \} $ และ subset ที่เลือกมามี 1 อยู่ $n-2$ ตัว และมี 2 อยู่ 1 ตัว $ a_1 = a_2 = 2$ เป็นไปได้แบบเดียวคือ $ S = \{\underbrace{2, 2, ..., 2}_{\text{$n\; $ตัว }}\} \;$โดย $n$ ต้องเป็นเลขคู่ และ subset ที่เลือกมามี 2 อยู่ $\frac{n}{2}$ ตัว 1.2 $a_1 \not= a_2$ $a_2 < n+1 $ มิฉะนั้น จะมีบาง $a_i = 0 $ $a_2 - a_1 < n+1-a_1 \leq n$ $a_2 - a_1 < n$ ดังนั้น $a_2 \not\equiv a_1 (\bmod n)$ ซึ่งขัดแย้งกับ $A \equiv B (\bmod n)$ กรณีที่ 2 : $\mid A \mid \not= \mid B \mid$ $A-B$ จะมีผลบวกของสมาชิกทุกตัว หารด้วย $n$ ลงตัว เนื่องจาก $a_1+a_2+...+a_n=2n$ ดังนั้น $A-B$ จะมีผลบวกของสมาชิกทุกตัว เท่ากับ $ n$ จึงสรุปได้ว่า จะมีบางสับเซตของ $S$ ซึ่งผลบวกของสมาชิกทุกตัวเท่ากับ $n $ ไม่ทราบว่ากรณี $ a_1 = a_2 = 1$ ต้องหารูปทั่วไปของกรณีที่ใช้ได้ไหมคะ หรือแค่ยกตัวอย่างก็พอแล้ว |
#15
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
และต้องบอกด้วยว่าทำไมถึงแบ่งได้แค่ 2 แบบนี้ (จริงๆตรงนี้สามารถแก้ได้ไม่ยาก ลองสังเกตว่าเราไม่จำเป็นต้องเลือกคู่ $a_1,a_2$ มาก็ได้)
__________________
----/---~Alice~ จงรับรู้ไว้ ชื่อแห่งสีสันหนึ่งเดียวที่แสดงผล ---/---- ~Blue~ นี่คือ สีแห่งความหลังอันกว้างใหญ่ของเว็บบอร์ดนี้ |
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
|
|