![]() |
|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ค้นหา | ข้อความวันนี้ | ทำเครื่องหมายอ่านทุกห้องแล้ว |
![]() ![]() |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#136
|
|||
|
|||
![]() อ้างอิง:
![]() ![]() Solution : Group Theory Version เงื่อนไข $a^2 \equiv 1$ (mod $n$) ทุกจำนวนเต็ม $a$ ซึ่ง $(a,n)=1$ เขียนเป็นภาษา Group Theory ได้ว่า ทุกสมาชิกใน $\mathbb{Z}_n^{\times}$ มีขนาดไม่เกิน $2$ ดังนั้นเราจะได้ว่า $\mathbb{Z}_n^{\times}$ มีขนาดเป็น $2^m$ สำหรับบางค่า $m$ แต่เราทราบว่า $|\mathbb{Z}_n^{\times}|=\phi(n)$ เมื่อ $\phi$ เป็น Euler-phi function เราจึงได้ $$\phi(n) = 2^m .........(*)$$ ต่อไปเขียน $\displaystyle{ n=2^rp_1^{a_1}p_2^{a_2}\cdots p_k^{a_k} }$ เมื่อ $p_i$ เป็นจำนวนเฉพาะคี่ที่แตกต่างกัน ถ้า $a_i\geq 2$ เราจะได้ว่า $\phi(p_i^{a_i}) = p^{a_{i}-1}(p-1)$ ซึ่งไม่เป็น power ของ 2 จึงขัดแย้งกับ (*) ดังนั้น $a_i \leq 1$ ทุกค่า $i$ และจาก (*) เราจะได้ว่า $p_i$ ต้องอยู่ในรูป $2^{b}+1$ เนื่องจาก $7$ ไม่อยู่ในรูป $2^{b}+1$ เราจึงได้ว่า $(7,n)=1$ นั่นคือ $7\in \mathbb{Z}_n^{\times}$ ดังนั้น $7^2\equiv 1$ (mod $n$) เราจึงได้ว่า $n | 48$ ถ้า $n=48$ เราทราบว่า $(11,48) = 1$ แต่ $11^2\not\equiv 1$ (mod $48$) ดังนั้น $n$ เป็นตัวหารของ $24$ ซึ่งหลังจากตรวจสอบเงื่อนไขแล้วก็จะได้ $$n=2,3,4,6,8,12,24$$ ![]()
__________________
site:mathcenter.net คำค้น 07 กุมภาพันธ์ 2007 06:59 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nooonuii |
#137
|
|||
|
|||
![]() ใช้ group theory พิสูจน์ก็น่าสนใจมากครับ
![]() ว่าแต่คำไทยสำหรับ "order" (ของ element ของ group) นี่คือคำว่า "ขนาด" เหรอครับ ฟังดูแล้วมันแปลกจัง ตอนท้ายของการพิสูจน์ที่ใช้ 11 นั่นเปลี่ยนเป็น 5 ก็ได้ใช่ไหมครับ เห็นประโยค $\phi(n) = 2^m$ ในการพิสูจน์ของคุณ nooonuii แล้วทำให้นึกถึงความจริงที่ว่า รูป $n$ เหลี่ยมด้านเท่ามุมเท่า (regular $n$-gon) จะสร้างโดย Euclidean construction ได้ ก็ต่อเมื่อ $\phi(n)$ อยู่ในรูป $2^m$ พอดีผมเคยพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไป 2 ทีแล้ว คือ ที่นี่ กับ ที่นี่ แต่ยังไม่เคยพูดจุดนี้เลย ขอบคุณคุณ nooonuii สำหรับโจทย์ สวย-โหด-ประหาร ที่เอามาฝาก (ให้ปวดหัวกัน ![]() ป.ล. ใครว่างก็ลองมาทำโจทย์ข้อ 39-41 ที่เหลือ ของคุณ nongtum หน่อยนะ ดูแล้วไม่น่าจะยากครับ แต่ผมก็ยังไม่ได้ลองเหมือนกัน แหะๆ 11 เมษายน 2007 16:42 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ gon เหตุผล: Tag Post |
#138
|
|||
|
|||
![]() อ้างอิง:
![]() ส่วนตอนท้ายการพิสูจน์สามารถใช้ 5 ได้เหมือนกันครับ แต่ผมข้ามไป 11 ได้ไงหว่า ![]()
__________________
site:mathcenter.net คำค้น |
#139
|
|||
|
|||
![]() อ้างอิง:
พิจารณา $$3,\ 2^p+3,\ 2^{p+1}+3,\ 2^{p+2}+3$$ กรณีที่ 1: $p\equiv1\pmod4$ จะเห็นว่า $5\mid2^p+3$ ดังนั้นในกรณีนี้เราจึงต้องได้ว่า $2^p+3=5$ นั่นคือ $p=1$ ซึ่งจะนำเราไปสู่คำตอบ $3,5,7,11$ กรณีที่ 2: $p\equiv3\pmod4$ จะเห็นว่า $5\mid2^{p+2}+3$ แต่ $2^{p+2}+3>5$ เสมอ ดังนั้นกรณีนี้จึงไม่มีคำตอบ กรณีที่ 3: $p\equiv0\pmod4$ จะเห็นว่า $5\mid2^{p+1}+3$ แต่ $2^{p+1}+3>5$ เสมอ ดังนั้นกรณีนี้จึงไม่มีคำตอบเช่นกัน กรณีที่ 4: $p\equiv2\pmod4$ ให้ $p=4k+2$ แล้วแบ่งเป็นอีก 3 กรณีย่อย กรณีที่ 4.1: $k\equiv1\pmod3$ จะเห็นว่า $7\mid2^{p+2}+3$ แต่ $2^{p+2}+3>7$ เสมอ ดังนั้นกรณีนี้จึงไม่มีคำตอบ กรณีที่ 4.2: $k\equiv2\pmod3$ จะเห็นว่า $7\mid2^{p+1}+3$ แต่ $2^{p+1}+3>7$ เสมอ (เพราะ $p\ge10$) ดังนั้นกรณีนี้จึงไม่มีคำตอบเช่นกัน กรณีที่ 4.3: $k\equiv0\pmod3$ จะเห็นว่า $7\mid2^p+3$ ดังนั้นในกรณีนี้เราจึงต้องได้ว่า $2^p+3=7$ นั่นคือ $p=2$ ซึ่งจะนำเราไปสู่คำตอบ $3,7,11,19$ สรุปว่ามีเพียง 2 คำตอบคือ $(n,p)=(3,1),(3,2)$ ป.ล. ยากกว่าที่คาดไว้เยอะเลยครับ แต่ยังไม่โหดร้ายเท่า ปัญหาชิงรางวัลข้อที่ 16 เนอะ ![]() |
#140
|
|||
|
|||
![]() โจทย์ข้อ 39. มีความยากและน่าสนใจโดดเด่นเป็นพิเศษ แต่ข้อ 40-41 นี่ไม่ได้ยากไปกว่าข้อ 38. เท่าไหร่เลย แต่ก็ไม่มีใครทำอยู่ดีง่ะ ดังนั้นผมขอแสดงวิธีทำแบบย่อๆนะครับ
อ้างอิง:
ถ้า $p\equiv1\pmod5$ แล้ว $5\mid3p+2$ ถ้า $p\equiv2\pmod5$ แล้ว $5\mid2p+1$ ถ้า $p\equiv3\pmod5$ แล้ว $5\mid4p+3$ ถ้า $p\equiv4\pmod5$ แล้ว $5\mid6p+1$ ดังนั้นคำตอบของข้อนี้จึงมีเพียง $p=5$ ครับ อ้างอิง:
อ้างอิง:
|
#141
|
||||
|
||||
![]() อ้างอิง:
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ) Stay Hungry. Stay Foolish. |
#142
|
|||
|
|||
![]() 43. จงหาจำนวนเต็มบวก $x,y,z$ ทั้งหมด ที่ทำให้ $4(x+y+z)=xyz$
ที่เอาสมการ Diophantine อันนี้มาให้ลองทำ เพราะมันเกิดจากความพยายามในการแก้โจทย์เกี่ยวกับสามเหลี่ยมข้อนึงครับ หลังจากมีคนทำข้อนี้ได้แล้ว ผมจะเล่าให้ฟัง แต่ถ้าใครอยากลองทายที่มาของสมการนี้ก็เชิญได้เลยนะครับ |
#143
|
||||
|
||||
![]() อ้างอิง:
กำหนดจำนวนเต็มบวก $a,b,c$ โดยที่ $a+2=x,b+2=y,c+2=z$ ดังนั้น \[\begin{array}{rcl} (a+2)(b+2)(c+2) &=& 4(a+b+c+6) \\ abc+2(ab+bc+ca)+4(a+b+c)+8 &=& 4(a+b+c)+24 \\ 2(ab+bc+ca)+abc &=& 16 \end{array} \] ลองแทน $a,b,c=2$ ฝั่งซ้ายของสมการจะเป็น $32$ ดังนั้นระหว่าง $a,b,c$ ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งตัวที่เท่ากับ $1$ สมมติให้เป็น $c$ \[3ab+2a+2b=16\] แทน $a,b=2$ ฝั่งซ้ายของสมการจะเป็น $20$ ดังนั้นระหว่าง $a,b$ ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งตัวที่เท่ากับ $1$ สมมติให้เป็น $b$ ดังนั้น $5a=14$ ซึ่ง $a$ ไม่เป็นจำนวนเต็ม ดังนั้นใน $x,y,z$ ต้องมีอย่างน้อยหนึ่งตัวที่น้อยกว่า $3$ สมมติให้เป็น $x$ กรณีที่ 1 $x=1$ \[\begin{array}{rcl} 4(1+y+z) &=& yz \\ (y-4)(z-4) &=& 20 \end{array} \] จะได้ $(y,z)=(9,8),(8,9),(14,6),(6,14),(24,5),(5,24)$ กรณีที่ 2 $x=2$ \[\begin{array}{rcl} 4(2+y+z) &=& 2yz \\ (y-2)(z-2) &=& 8 \end{array} \] จะได้ $(y,z)=(10,3),(3,10),(6,4),(4,6) $ ดังนั้น $(x,y,z)$ ทั้งหมดที่เป็นคำตอบของสมการคือ $(1,9,8),(1,8,9),(1,14,6),(1,6,14),(1,24,5),(1,5,24),(2,10,3),(2,3,10),(2,6,4),(2,4,6)$ |
#144
|
|||
|
|||
![]() โอ๊ะโอว... โจทย์ข้อ 43. นี่สามารถทำให้คุณ gools ปรากฎตัวออกมาได้แฮะ แถมรู้สึกว่ากลับมาคราวนี้ จะมีพลังยุทธเพิ่มขึ้นอีกซะด้วย
ที่มาของโจทย์ข้อนี้คือ คำถามหนึ่งในกระทู้ที่ วิชาการ.คอม ซึ่งให้หา สามเหลี่ยมที่เป็นไปได้ทั้งหมด ที่มีความยาวด้านเป็นจำนวนเต็ม และมีพื้นที่เท่ากับความยาวของเส้นรอบรูป ให้ $a,b,c\in\mathbb N$ แทนความยาวของด้านทั้งสามของสามเหลี่ยม ให้ $A$ แทนพื้นที่ของสามเหลี่ยม ให้ $r$ แทนรัศมีของวงกลมแนบในสามเหลี่ยม (inradius) ให้ $s$ แทน semiperimeter ของสามเหลี่ยม นั่นคือ $$s=\frac{a+b+c}{2}$$ เรามีสูตรอยู่ว่า $A=rs$ และในที่นี้เราต้องการให้ $A=2s$ ดังนั้น $r=2$ ดังนั้นปัญหาที่กระทู้นั้นจึงสมมูลกับ การหาสามเหลี่ยมที่เป็นไปได้ทั้งหมด ที่มีความยาวด้านเป็นจำนวนเต็ม และมี inradius เท่ากับ 2 ซึ่งปัญหาการหาสามเหลี่ยมที่เป็นไปได้ทั้งหมด ที่มีความยาวด้านและ inradius เป็นจำนวนเต็ม เป็นปัญหา classic ครับ กลับมาแก้ปัญหาของเรากันต่อ จาก Heron's formula เรารู้ว่า $$A= \sqrt{s(s-a)(s-b)(s-c)}$$ แต่เราต้องการให้ $A=2s$ ดังนั้นเราจึงได้ว่า $$(*) \quad 4s=(s-a)(s-b)(s-c)$$ เนื่องจาก $4s$ เป็นจำนวนเต็ม (ให้สังเกตว่า $s$ เป็นจำนวนเต็ม หรือไม่ก็เป็น half-integer) ดังนั้น $(s-a)(s-b)(s-c)$ เป็นจำนวนเต็ม นั่นแสดงว่า $s$ ต้องเป็นจำนวนเต็มด้วย ให้ $x=s-a,y=s-b,z=s-c$ จะเห็นว่า $x,y,z\in\mathbb N$ และ $x+y+z=s$ แทนค่ากลับลงไปใน $(*)$ เราก็จะได้สมการของโจทย์ข้อ 43. ครับ ถ้านำคำตอบที่คุณ gools หาได้มาแปลงกลับเป็นความยาวของด้านสามเหลี่ยม เราจะพบว่า สามเหลี่ยมที่มีความยาวด้านเป็นจำนวนเต็ม และมีพื้นที่เท่ากับความยาวของเส้นรอบรูป มีอยู่ 5 แบบคือ สามเหลี่ยมที่มีความยาวด้านเป็น $\{6,8,10\}$, $\{5,12,13\}$, $\{9,10,17\}$, $\{7,15,20\}$, $\{6,25,29\}$ ครับผม ![]() |
#145
|
||||
|
||||
![]() 44. Let x,y,z be positive integers such that
1/x-1/y=1/z Let h be the greatest common divisor of x,y,z.Prove that hxyz and h(y-x) are perfect squares. Edit: ใส่เลขข้อ 08 มีนาคม 2007 23:54 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ warut |
#146
|
||||
|
||||
![]() อ้างอิง:
From $\displaystyle\frac1x-\frac1y=\frac{y-x}{yx}=\frac1z$ we must have $xy=z$, since $y-x=yx/z$ is an integer, and the case $xy>z$ contradicts $z\not\vert x,\ z\not\vert y$. From this we get $x=x,\ y=x+1,\ z=x(x+1)$ which satisfy the desired conditions.### 45. Find the natural numbers $N$ so that $N\times8888$ contains all the digits of the decimal system, each taken once.
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ) Stay Hungry. Stay Foolish. 09 มีนาคม 2007 15:19 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ nongtum |
#147
|
||||
|
||||
![]() สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ ฝากตัวด้วยครับ
คุณ nongtum ครับ ผมว่าการสรุปว่า xy=z ไม่ถูกนะครับ เช่น x=6, y=10, z=15 เป็นคำตอบ แต่ไม่สอดคล้อง xy=z 09 มีนาคม 2007 19:14 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Onasdi |
#148
|
||||
|
||||
![]() อ้างอิง:
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ) Stay Hungry. Stay Foolish. |
#149
|
|||
|
|||
![]() อ้างอิง:
กรณีที่ 1: $h=\gcd(x,y,z)=1$ จาก $\dfrac1x-\dfrac1y=\dfrac1z$ ดังนั้น $(y-x)(z-x)=x^2$ ต่อไปเราจะแสดงว่า $\gcd(y-x,z-x)=1$ สมมติให้มีจำนวนเฉพาะ $p$ ที่หาร $\gcd(y-x,z-x)$ ลงตัว จากที่ $(y-x)(z-x)=x^2$ ดังนั้น $p\mid x^2$ นั่นคือ $p\mid x$ และเนื่องจาก $p\mid y-x$ และ $p\mid z-x$ ดังนั้น $p\mid y$ และ $p\mid z$ แสดงว่า $p$ เป็นตัวหารร่วมของ $x,y,z$ จึงขัดแย้งกับที่เราสมมติว่า $\gcd(x,y,z)=1$ ดังนั้น $\gcd(y-x,z-x)$ จึงต้องเป็น $1$ จากที่ $(y-x)(z-x)=x^2$ และ $\gcd(y-x,z-x)=1$ ดังนั้น $y-x$ (และ $z-x$) จึงเป็น perfect square และเนื่องจาก $xyz=(y-x)z^2$ ดังนั้น $xyz$ จึงเป็น perfect square ด้วย กรณีที่ 2: $h>1$ ให้ $x=hx'$, $y=hy'$, $z=hz'$ เราจะได้ว่า $\gcd(x',y',z')=1$ และ $\dfrac{1}{x'} -\dfrac{1}{y'} =\dfrac{1}{z'}$ จากกรณีที่ 1 เราจึงได้ว่า $x'y'z'$ เป็น perfect square ดังนั้น $hxyz=h^4x'y'z'$ จึงเป็น perfect square และเนื่องจาก $hxyz=h(y-x)z^2$ ดังนั้น $h(y-x)$ จึงเป็น perfect square ด้วย ป.ล. ช่วงนี้ผมคงแทบไม่มีโอกาสได้เข้ามาเล่น ขอให้สนุกกันให้เต็มที่นะครับ ![]() |
#150
|
||||
|
||||
![]() อ้างอิง:
![]()
__________________
The Lost Emic <<-- หนังสือเฉลยข้อสอบระดับประถมนานาชาติ EMIC ครั้งที่ 1 - ครั้งที่ 8 ชุดสุดท้าย หลงมา ![]() 13 มีนาคม 2007 15:44 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ gon |
![]() ![]() |
![]() |
||||
หัวข้อ | ผู้ตั้งหัวข้อ | ห้อง | คำตอบ | ข้อความล่าสุด |
ปัญหาชิงรางวัลข้อที่ 23: Number Theory once more | warut | คณิตศาสตร์อุดมศึกษา | 17 | 28 ธันวาคม 2011 20:38 |
ช่วยคิดหน่อยครับ เกี่ยวกับ Number Theory | kanji | ทฤษฎีจำนวน | 0 | 08 กันยายน 2006 18:22 |
ปัญหาชิงรางวัลข้อที่ 5: From Number Theory Marathon | warut | คณิตศาสตร์อุดมศึกษา | 9 | 17 มกราคม 2006 18:47 |
ปัญหา Number Theory | kanji | ทฤษฎีจำนวน | 4 | 16 พฤศจิกายน 2005 20:30 |
ขอลองตั้งคำถามบ้างครับ (Number theory) | Nay | ทฤษฎีจำนวน | 3 | 15 พฤษภาคม 2005 13:40 |
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
|
|