|
สมัครสมาชิก | คู่มือการใช้ | รายชื่อสมาชิก | ปฏิทิน | ข้อความวันนี้ | ค้นหา |
|
เครื่องมือของหัวข้อ | ค้นหาในหัวข้อนี้ |
#1
|
||||
|
||||
ผมจะถีบคุณออกไปไกล ๆ เลย อะไรกันผมสอนให้คุณเดิน แต่คุณจะเกาะขาผมไปจนคุณตายหรือ....
แอบเห็นลิ้งค์จากกระทู้ปัญหาของไอสไตน์ แล้วได้อ่านความเห็นของคุณgonเมื่อปี 2002......โดนใจอยากให้คนอื่นได้อ่านบ้าง
ผมเรียนหนังสือมาตั้งแต่เกิดไม่เคยเรียนพิเศษ เลย สมัยนักเรียนเคยคิดที่เรียนกวดวิชาเหมือนกัน ในตอนนั้นคิดว่าการเรียนกวดวิชาคือ การที่เราไปเรียนสิ่งที่ยากกว่า สิ่งที่ไม่มีในเนื้อหาห้องเรียน สิ่งที่ไม่อยู่ในแบบเรียน แต่ปรากฏว่า การเรียนกวดวิชาในความเป็นจริงที่เป็นอยู่นั้น มันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด นักเรียนเองแค่เรียนในห้องเรียนก็ไม่เข้าใจ ฟังครูก็ไม่เข้าใจ อ่านเองก็ยังไม่เข้าใจ ทำให้รู้ว่า คนเรานั้นมีความแตกต่างกัน แต่ในอุดมคติ ผมเชื่อว่า น่าจะมีวิธีการที่ทำให้นักเรียนแต่ละคน มีความสามารถในการพัฒนาตัวเองได้ด้วยตนเอง กล่าวตามใจจริงส่วนลึก นักเรียนที่ไปเรียนกวดวิชาปัจจุบันผมมองว่า ดูเหมือนว่าเขาจะดูถูกตัวเองเกินไปหน่อยล่ะมั้ง (ถ้าระบบการกวดวิชายังเป็นระบบแบบนี้อยู่) สิ่งที่ผมค้นพบนั่นก็คือถ้ามนุษย์เรามี 1. ความชอบ 2. ความขยัน และ 3. ความสามารถในการควบคุมตัวเองอย่างยิ่งยวดได้ ไม่ว่าจะทำอะไรย่อมสำเร็จ ตรงนี้ล่ะ คือจุดประสงค์ลึก ๆ แอบแฝงที่ผมตั้งไว้ในใจ อยากให้เด็กหรือใครก็ตามที่เข้ามา มองเห็นมันด้วยตัวเอง การเรียนในแบบกวดวิชาสมัยปัจจุบัน ผมมองว่าเป็นการที่คนสอนประคองเด็กให้เดิน ๆ ๆ ๆ ไป ถ้าปล่อยเมื่อไรก็ล้มลง เดินต่อเองไม่ได้ ยืนด้วยตัวเองไม่ได้ เด็กบางคนเรียนตั้งแต่ ม.4 จนจบ ม.6 ของสถาบันกวดวิชาที่ตัวเองชอบ คำถามที่ผมถามในใจ(แต่ก็ไม่รู้คำตอบ) ก็คือ สถานกวดวิชานั้นสอนให้คนเป็นง่อยหรือ เอารถเข็นไปให้หรือ จนต้องติดแหงกอยู่ไม่รู้จักกี่ปี ๆ เดินไม่เป็นสักที กับภาพที่มองคล้าย ๆ เห็นว่า เกรด 4 คือ พระเจ้า สอบ Ent ติดนั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน !! ถ้าผมจะเปิดสอนกวดวิชา ผมจะไม่สอนหรือมีคอร์สเตรียมสอบ บ้าบอคอแตกอะไรมากนัก หลักสูตรที่ผมสอนจะเน้นให้เด็กคิดเป็น หรือ มีความสามารถในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยตนเองเป็น พูดง่าย ๆ คือ ถ้าคุณจะเอารถเข็นล่ะก็ไปที่อื่นเถิด ที่นี่ไม่มีรถเข็นแต่มีสอนให้คุณเดิน และ ถ้าจบ 1 เทอม คุณมาบอกว่า ผมดีใจเหลือเกินที่ผมได้เกรด 4 ผมจะเรียนต่อที่นี่ไปจนตายเลย ช่วยผมทุกเทอมนะ เกรด 4 สอบ Ent' ติดพูดตรง ๆ ผมจะถีบคุณออกไปไกล ๆ เลย อะไรกันผมสอนให้คุณเดิน แต่คุณจะเกาะขาผมไปจนคุณตายหรือ แต่ถ้าคุณบอกว่ายังไม่มั่นใจตัวเองหรือวิธีการศึกษา หรือ อยากที่จะรู้อะไรที่มั่นไม่ใช่การเรียนเพื่อไปสอบ Ok. ผมสอนคุณต่อได้ เช่นกันถ้าคุณบอกว่าผมอ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ ผมอยากให้มันรู้เรื่อง Ok. อย่างนี้ผมก็สอนคุณ แต่ผมก็จะบอกคุณว่า เอาล่ะนะ ปล่อยวางเรื่องเกรดอะไรของคุณทิ้งไป คุณรู้ตัวเองและมีความพยายามที่จะเข้าใจ ถือว่าคุณมีความเยี่ยมยอดในระดับหนึ่ง(รู้จักตัวเอง) แล้ว ผมจะค่อย ๆ สอนคุณ ถ้าคุณเข้าใจจริง ๆ ๆ ๆ แน่นอนเกรด 4 มันย่อมลอยมาเอง สถาบันกวดวิชาที่ไหนที่คุณคิดว่ายอดเยี่ยม คุณก็เรียนต่อไปเถอะครับ. ไม่มีใครบังคับคุณได้หรอก จริง ๆ แล้วผมเชื่อนะว่าคนเราที่พานพบกันนั้น ล้วนแล้วแต่มีวาสนาต่อกัน ผมก็เตือนคุณด้วยความหวังดีล่ะกันนะครับว่า ถ้าคุณยังไม่สามารถเดินด้วยตนเอง คุณจะไปข้างหน้ารอดไหม คุณรู้ไหมว่าเด็กรุ่นหลัง ๆ หลาย ๆ คนหรือว่าพวกที่เรียนราม (เออ. ผมไม่ได้ว่าพวกที่เรียนราม เป็นพวกโง่หรืออะไรนะครับ.) ไปเรียนกวดวิชากัน อะไรกัน ระดับมหาวิทยาลัยคุณยังต้องมากวดวิชาอีกน่ะหรือ ติดเชื้อมาตั้งแต่มัธยมหรือ พูดตรง ๆ ถ้าไม่มีปัญญาในการศึกษาความรู้ด้วยตนเองล่ะก็ อย่าเรียนเถอะครับ เสียเวลาเปล่า เปลืองเงินบุพการี หรือ ผู้ส่งเสีย จบไปก็เป็นคนที่ไม่มีคุณภาพ สุดท้ายคนอย่างพวกนั้นก็อาจจะเป็นตัวสร้างปัญหาให้สังคมในวันข้างหน้าได้ ด้วยความหวังดีจริง ๆ นะครับ. คุณจะรับฟังหรือไม่ก็เรื่องของคุณ อ้างอิงจาก....ปัญญหา ตรรกศาสตร์ ข้อนี้ มีวิธี แก้ยังไงครับ __________________
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) 20 สิงหาคม 2012 11:38 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กิตติ |
#2
|
||||
|
||||
เมื่อก่อนยังวัยรุ่นไฟแรงสูงครับ ประมาณเคนชิโรหมัดเทพเจ้าดาวเหนือ อ่านดูแล้วก็รู้สึกว่าแรงไปนิด
เดี๋ยวนี้นุ่มนวลขึ้นเยอะครับ. |
#3
|
||||
|
||||
วิเคราะห์ดูแล้ว อ้างอิง ความรู้ ตรรกศาสตร์ จาก #2 $\rightarrow$ #1สรุปได้ว่าคนหนึ่งไฟมอดอีกคนไฟลุกโชติช่วง
อันที่จริงมีคนทำงานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับสถาบันกวดวิชาไว้มากพอสมควร ถ้าสนใจก็ลองศึกษาได้ http://docs.google.com/viewer?a=v&q=..._9dQ2iHdWh1Isw http://www.naewna.com/news.asp?ID=245505 http://www.kkict.org/~kkwelfare/repo...siness_007.pdf เท่าที่เคยอ่าน ส่วนใหญ่ก็มักจะระบุว่ามาจากระบบการศึกษา ซึ่งเด็กต้องมีการแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย และค่านิยมของคณะในแต่ละมหาวิทยาลัย จึงทำให้ต้องพึ่งพาธุรกิจนี้และทำให้ธุรกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง อย่างว่าละครับ เมื่อมีช่องให้ทำรายได้ มีหรือที่จะไม่โดดเข้าไปร่วมวง สมาชิกในนี้หลายท่านก็ยังร่วมวงอยู่ในธุรกิจนี้เลยครับ เมื่อแก้ระบบไม่ได้ก็ไปแก้ปัญหาของตัวผู้สอน ให้มีคุณธรรมและจริธรรมที่มีต่อวิชาชีพนี้ก็แล้วกัน ง่ายๆก็เริ่มที่ตัวเองก่อนนะ ว่าแต่ว่า ไม่ลองคิดเปิดสถาบันกวดวิชา Math Center หรือครับ น่าจะเปิดได้ทั่วประเทศเลยนะครับ คุณหมอกิตติอาจเปลี่ยนอาชีพมาเปิด Math Center สาขา ลำปาง ปล.มุดเข้าไปดูกระทู้ที่ว่านี้ http://www.mathcenter.net/forum/show...p?t=422&page=1 เห็น จุดประสงค์หลัก ๆ ในใจก็คือ ก. มุ่งไปทางคณิตศาสตร์โอลิมปิก เป็นข้อแรกเลย แต่เท่าที่ทราบคนที่อยู่ในระดับโอลิมปิกกับไม่ค่อยได้มาดูเว็บนี้ |
#4
|
||||
|
||||
คือตอนผมอยู่ ม.4 ครูหมวดเลขชวนให้สมัครสอบแข่งเลขโอลิมปิก ซึ่งในยุคที่อินเทอร์เน็ต โทรศัพท์มือถือยังไม่แพร่หลาย e-book ยังไม่เกิด โอลิมปิกวิชาการเป็นการสอบที่ลึกลับและท้าทายมากที่สุดรายการหนึ่งครับ รู้แต่ว่าข้อสอบรอบถัดไปยิ่งเพิ่มความยากขึ้นเรื่อย ๆ สมัยนั้นตำรับตำราอะไรแนวนี้ก็ไม่มี ข้อสอบแต่ละข้อนี่เรียกว่าต้องเค้นจินตนาการขึ้นมาเองสด ๆ เพราะไม่เคยเจอมาก่อน ต่างกับข้อสอบพวก Ent ที่ไม่น่าตื่นเต้นสักนิด ตอนนั้นผมเลยคิดเป็นรายการอันดับแรก ๆ ในใจ แต่เป้าหมายจริง ๆ แล้วคือต้องการให้ในประเทศมีคนชอบคณิตศาสตร์มากขึ้นเรื่อย ๆ ดีกว่าปล่อยไปตามยถากรรมครับ.
เรื่องโรงเรียนกวดวิชา ไม่ได้อยู่ในแผนหลักของผมครับ แต่อยู่ในแผนรองขั้นเกือบปลาย ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงรอยต่อของแผนระยะต้นกับระยะกลาง โรงเรียนกวดวิชาถ้าจะทำก็คงจะมีขึ้นมาเพื่ออยู่ฝ่ายสนับสนุนครับ ตอนผมเรียนปี 2 วิชาสำรวจต้องออกไปส่องกล้อง จะมีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มชอบมาสายหรือโดดประจำ มารู้ตอนหลังว่าเพื่อนแอบไปฝึกวิชาสอนพิเศษที่สำนัก PEP กับ Mathcenter ในยุคนั้น ซึ่งพอใกล้จบก็เห็นไปเปิดโรงเรียนเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งผมก็ได้ความรู้เรื่องโรงเรียนจากเพื่อนคนนี้พอสมควรเลยทีเดียว |
#5
|
||||
|
||||
คุณGonกับผมน่าจะยุคไล่ๆกัน เพราะผมก็เคยอ่านเคนชิโร่หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ติดงอมแงมเหมือนกัน...เหมือนจะมีหมัดดาวใต้ที่เป็นคู่ตรงข้ามกันอยู่ ถ้าจะให้เดาคุณgonก็น่าจะชอบอ่านกำลังภายในอย่างโกวเล้ง....
ซือแป๋ยุให้ผมเปิดกวดวิชาคณิตศาสตร์....สงสัยจะได้ตบยุงกับทานผลคุณสมหวังไปตามระเบียบ ถ้าจะทำจริงคงต้องคุยๆกับติวเตอร์ที่เข้าสังกัดว่า ต้องรักคณิตศาสตร์และชอบสอน ไม่งั้นอยู่เฉยๆดีกว่า.. เห็นคำว่า...Mathcenter...แล้วนึกถึงสำนักหนึ่งที่ดังมากสมัยผมเป็นนักเรียน สำนักอาจารย์สกนธ์ ผ่องพุทธคุณ ผมมารู้จักอาจารย์ตอนม.6 เพราะมีคนขนหนังสือติวของแกมาขายที่ร้านหนังสือมือสอง แว๊ปแรกที่เห็น อึ้งเลยทั้งคณิตและฟิสิกส์ มันสุดยอดมาก ในร้านหนังสือที่เชียงใหม่ในยุคนั้นไม่มีหนังสือของอ.สกนธ์ขาย ผมเลยต้องตีซี้กับเจ้าของร้านขายหนังสือมือสอง จนปัจจุบันนี้ก็ยังอุดหนุนร้านนี้อยู่ แต่เปลี่ยนมาให้รุ่นลูกทำแล้ว.....มารู้ว่าอ.สกนธ์จริงๆเรียนเตรียมแพทย์แล้วก็ขอย้ายไปเรียนคณะวิทยาศาสตร์แทน อาจารย์เก่งจริง อ่านที่คุณGonเขียนเมื่อปี 2002 แล้ว ชอบจริงๆ มันตรงใจ....เหมือนที่โกวเล้งพูดว่า ลูกผู้ชายมีบ้างพึงกระทำ มีบ้างไม่พึงกระทำ กับ คนเราทำอะไรไม่ต้องละอายต่อฟ้า ละอายต่อดิน จงยึดอกขึ้นตรง ตั้งศีรษะตรง ไม่ก้มหน้า
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) |
#6
|
||||
|
||||
หนังสือ อ.สกนธ์ผมมีอยู่สองเล่มครับ เป็นเพื่อนต่างห้องคนหนึ่งที่ลงมาเรียนพิเศษที่กรุงเทพช่วงปิดเทอม พอสอบเทียบเข้ามหาวิทยาลัยได้โดยใช้วุฒิสอบเทียบก็เอามาให้ผม บอกว่าอยู่กับคนอื่นคงไม่มีประโยชน์ ผมรับมาอ่านแล้วยอมรับว่าไม่รู้เรื่องครับ อ.สกนธ์ใช้ภาษาพูด เขียนลงในหนังสือมากและก็โยงเส้นโน่น นี่เยอะมาก ถ้าไปนั่งฟังบางทีอาจจะเข้าใจตามได้ แต่อ่านเองนี่ผมยอมแพ้จริง ๆ
นิยายจีนผมอ่านได้หมดครับ ปกติไม่ได้ดูที่ผู้แต่ง แต่ที่ชอบเป็นพิเศษคือแนวสุขนิยม อ่านแล้วเพลินดีไม่เครียดครับ. |
#7
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ถึงวันนี้อุดมการณ์ยังเหมือนเดิมอยู่รึเปล่าครับ หรือว่าเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดแล้ว |
#8
|
||||
|
||||
อุดมการณ์ยังชัดเจนแจ่มแจ๋วอยู่ครับ แต่วิธีการอาจจะต้องปรับเปลี่ยนบ้างให้เหมาะกับโลกปัจจุบันมากขึ้น
|
#9
|
||||
|
||||
อุดมการณ์ยังชัดเจนแจ่มแจ๋วอยู่ครับ แต่วิธีการอาจจะต้องปรับเปลี่ยนบ้างให้เหมาะกับโลกปัจจุบันมากขึ้นครับ
|
#10
|
||||
|
||||
นึกว่าหมอกิตติ ของขึ้น ซะแล้ว เห็นชื่อกระทู้ โหดมาก
|
#11
|
||||
|
||||
ประโยคนี้มันโดน......นึกถึงเรื่องที่พ่อสิงโตคาบลูกอยู่บนยอดหน้าผาแล้วปล่อยให้ตกไปในหุบเหว ถ้าตัวไหนรอดก็เลี้ยงต่อ หรือพ่อนกแม่นกที่โยนลูกนกที่ขนเริ่มออกที่ปีกแล้วกลัวไม่กล้าบิน แต่ก่อนจะทำแบบนี้คงได้ฝึกสอนกันจนมั่นใจว่าจะรอดแล้วถึงทำ เช่นเดียวกับการสอนคน ผมไม่กล้าถีบใครหรอกครับ
__________________
"ถ้าเราล้มบ่อยๆ ในที่สุดเราจะรู้ว่าถ้าจะล้ม ล้มท่าไหนจะเจ็บน้อยที่สุด และรู้อีกว่าต่อไปทำยังไงจะไม่ให้ล้มอีก ดังนั้นจงอย่ากลัวที่จะล้ม"...อาจารย์อำนวย ขนันไทย ครั้งแรกในชีวิตที่สอบคณิตสมาคมคณิตศาสตร์เมื่อปี2533...ผมได้แค่24คะแนน(จากร้อยคะแนน) |
|
|