Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > ข้อสอบโอลิมปิก
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #346  
Old 27 เมษายน 2012, 12:06
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Pain 7th View Post
ข้อ Q5 n อยู่ในรูปนี้ได้หรือเปล่าครับ $\displaystyle n= \prod_{i=1}^n p_i^{\alpha_i}$

มันจะมี $p_{n+1}$ เป็นตัวประกอบหรือเปล่า (คาดหวังให้ไม่มีมากๆครับ)
ถ้าทำมาถูกทาง ข้อนี้มี 8 คำตอบ และทุกค่ามีแต่ 2,3 เป็น prime divisor (ยกเว้น 1)
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #347  
Old 27 เมษายน 2012, 12:40
Pain 7th Pain 7th ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 17 เมษายน 2012
ข้อความ: 198
Pain 7th is on a distinguished road
Default

ตอนผมจะทำเพื่อหา ตัวประกอบเฉพาะ n ผมได้ว่า ว่า n มีตัวประกอบเฉพาะ 3 ตัวอ่ะครับ

แล้วผมก็ลองว่าถ้ามันมากกว่า 7 ทุกตัว มันจะขัดแย้ง

แต่พอมี 2 ตัวเป็น 2 หรือ 3 แล้วตัวอื่นมันก็จริงหมดเลยอ่ะครับ

จาก $n \leq \sum_{i=1}^n p_i^2$ ผมสมามารถตัดได้ว่า

$p_1^{\alpha_1}p_2^{\alpha_2}p_3^{\alpha_3} \leq p_1^2+p_2^2+p_3^2$ โดยที่ $\alpha_i \in{ {1,2,3}}$ (กำลังตัวใดตัวนึงเป็น 0 ค่อยคิดทีหลัง)

ตามที่บอกว่ามากกว่า 7 ทุกตัวมันก็ขัดแย้ง แต่พอลองแทน 2,3,31 หรือ 2,3,71 มันก็จริงผมเลยไม่รู้ว่าจะไปไงต่ออ่ะครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #348  
Old 27 เมษายน 2012, 19:11
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ Pain 7th View Post

$p_1^{\alpha_1}p_2^{\alpha_2}p_3^{\alpha_3} \leq p_1^2+p_2^2+p_3^2$ โดยที่ $\alpha_i \in{ {1,2,3}}$ (กำลังตัวใดตัวนึงเป็น 0 ค่อยคิดทีหลัง)

ตามที่บอกว่ามากกว่า 7 ทุกตัวมันก็ขัดแย้ง แต่พอลองแทน 2,3,31 หรือ 2,3,71 มันก็จริงผมเลยไม่รู้ว่าจะไปไงต่ออ่ะครับ

โจทย์บอกว่า จำนวนเฉพาะที่ > 3 นะครับ ทำไมถึงแทน 2,3 ล่ะครับ
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #349  
Old 27 เมษายน 2012, 21:22
Pain 7th Pain 7th ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 17 เมษายน 2012
ข้อความ: 198
Pain 7th is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ passer-by View Post
โจทย์บอกว่า จำนวนเฉพาะที่ > 3 นะครับ ทำไมถึงแทน 2,3 ล่ะครับ
ขอบคุณมากๆครับ เดี๋ยวขอลองเรียบเรียงใหม่ก่อนทดมั่วเลย

งั้นแสดงว่าผมน่าจะเริ่มผิดตั้งแต่แรกเลยอ่ะครับที่บอกว่า $n= \prod_{i=1}^n p_i^{\alpha_i}$

27 เมษายน 2012 21:44 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Pain 7th
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #350  
Old 27 เมษายน 2012, 22:42
~ArT_Ty~'s Avatar
~ArT_Ty~ ~ArT_Ty~ ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 03 กรกฎาคม 2010
ข้อความ: 1,081
~ArT_Ty~ is on a distinguished road
Default

มีใครทำข้อของผมแล้วบ้าง อยากเห็น Solution จัง *O*

แนะนำครับ มีข้อสอบ TST ของฮ่องกงครับ

http://db.math.ust.hk/resource_shari...esource_03.htm
__________________
...สีชมพูจะไม่จางด้วยเหงื่อ แต่จะจางด้วยนํ้าลาย...

27 เมษายน 2012 22:52 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ ~ArT_Ty~
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #351  
Old 29 เมษายน 2012, 14:03
จูกัดเหลียง's Avatar
จูกัดเหลียง จูกัดเหลียง ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 21 กุมภาพันธ์ 2011
ข้อความ: 1,234
จูกัดเหลียง is on a distinguished road
Default

#350 Hint ต่อจาก Andormedra ทีคับ ไม่ทันจริงๆ
__________________
Vouloir c'est pouvoir
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #352  
Old 29 เมษายน 2012, 17:49
~ArT_Ty~'s Avatar
~ArT_Ty~ ~ArT_Ty~ ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 03 กรกฎาคม 2010
ข้อความ: 1,081
~ArT_Ty~ is on a distinguished road
Default

อสมการที่เกี่ยวกะสี่เหลี่ยมไงครับ อะไรเอ่ย...

Ptolemy's Inequality นั่นเอง
__________________
...สีชมพูจะไม่จางด้วยเหงื่อ แต่จะจางด้วยนํ้าลาย...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #353  
Old 30 เมษายน 2012, 05:26
PP_nine's Avatar
PP_nine PP_nine ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่ประสานใจ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 เมษายน 2010
ข้อความ: 607
PP_nine is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ passer-by View Post
Q3: สามเหลี่ยมมุมแหลม ABC มี P เป็นจุดภายใน และ $ d_a,d_b,d_c$ เป็นระยะจาก P ไปยังด้าน BC,CA,AB ตามลำดับ พิสูจน์ $$ \sum d^2_a \geq \sum (PA \sin (\frac{A}{2}))^2 \geq \frac{1}{3} (\sum d_a)^2 $$
ขอ hint ข้อนี้หน่อยครับ GI นี่ไปไม่ถูกเลย
__________________
keep your way.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #354  
Old 30 เมษายน 2012, 06:31
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default

__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #355  
Old 30 เมษายน 2012, 13:13
AnDroMeDa's Avatar
AnDroMeDa AnDroMeDa ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 ตุลาคม 2011
ข้อความ: 114
AnDroMeDa is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ passer-by View Post
Q3: สามเหลี่ยมมุมแหลม ABC มี P เป็นจุดภายใน และ $ d_a,d_b,d_c$ เป็นระยะจาก P ไปยังด้าน BC,CA,AB ตามลำดับ พิสูจน์ $$ \sum d^2_a \geq \sum (PA \sin (\frac{A}{2}))^2 \geq \frac{1}{3} (\sum d_a)^2 $$

รบกวนตรวจวิธีทำทีครับ
แล้วสร้างรูปเรขาคณิตนี่ใช้โปรแกรมอะไรกันหรอครับ

30 เมษายน 2012 19:07 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 4 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ AnDroMeDa
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #356  
Old 30 เมษายน 2012, 14:33
~ArT_Ty~'s Avatar
~ArT_Ty~ ~ArT_Ty~ ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 03 กรกฎาคม 2010
ข้อความ: 1,081
~ArT_Ty~ is on a distinguished road
Default

สุดยอดมากครับ

การสร้างรูป ใช้ GSP หรือ Geogebra ก็ได้ครับ
__________________
...สีชมพูจะไม่จางด้วยเหงื่อ แต่จะจางด้วยนํ้าลาย...

30 เมษายน 2012 14:34 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ ~ArT_Ty~
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #357  
Old 30 เมษายน 2012, 17:37
Beatmania's Avatar
Beatmania Beatmania ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณคุ้มครองร่าง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 พฤษภาคม 2011
ข้อความ: 279
Beatmania is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ passer-by View Post

Q2 : กำหนดจำนวนเต็มบวก m ,n พิสูจน์ว่ามีจำนวนนับ a เป็นอนันต์ที่ $ m | \phi(a+i)\,\, ,\forall i = 0,1,..,n$
ไม่แน่ใจวิธีคิดครับ =..="

จาก Dirichlet theorem จะได้ว่า

มีจำนวนเฉพาะในรูป mk+1 เป็นอนันต์ โดย m เป็นจำนวนเต็มค่าหนึ่ง

ให้ $p_1, p_2 ... $ แทนจำนวนเฉพาะในรูป mk+1 โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย

และจาก Chinese Remainder Theorem

จะได้ว่า สมการคอนกรูเอนซ์

$a \equiv 0 \pmod{p_1}

,a \equiv (p_2)-1 \pmod{p_2},

...

,a \equiv (p_{n+1})-n \pmod{p_{n+1}} $

มีคำตอบในมอดุโล $p_1p_2...p_n$

ซึ่งคำตอบดังกล่าวจะทำให้ $ m | \phi(a+i)\,\, ,\forall i = 0,1,..,n$ ครับผม

30 เมษายน 2012 17:40 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Beatmania
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #358  
Old 30 เมษายน 2012, 23:28
win1234 win1234 ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 ธันวาคม 2010
ข้อความ: 87
win1234 is on a distinguished road
Default

คราวนี้มาลองดูข้อง่ายๆกันครับ
Let $P$ be a point inside $\Delta ABC$, and $AP,BP,CP$ meet $BC,CA,AB$ at $L,M,N$ respectively.
Find the position of $P$ for which$(\frac{AP}{AL} )^2+(\frac{BP}{BM} )^2+(\frac{CP}{CN} )^2$ is minimum.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #359  
Old 30 เมษายน 2012, 23:59
~ArT_Ty~'s Avatar
~ArT_Ty~ ~ArT_Ty~ ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณไร้สภาพ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 03 กรกฎาคม 2010
ข้อความ: 1,081
~ArT_Ty~ is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ win1234 View Post
คราวนี้มาลองดูข้อง่ายๆกันครับ
Let $P$ be a point inside $\Delta ABC$, and $AP,BP,CP$ meet $BC,CA,AB$ at $L,M,N$ respectively.
Find the position of $P$ for which$(\frac{AP}{AL} )^2+(\frac{BP}{BM} )^2+(\frac{CP}{CN} )^2$ is minimum.
$P$ เป็นจุด centroid หรือเปล่าครับ ค่าน้อยสุดคือคือ $\frac{4}{3}$
__________________
...สีชมพูจะไม่จางด้วยเหงื่อ แต่จะจางด้วยนํ้าลาย...

01 พฤษภาคม 2012 00:01 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ ~ArT_Ty~
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #360  
Old 01 พฤษภาคม 2012, 00:02
passer-by passer-by ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 เมษายน 2005
ข้อความ: 1,442
passer-by is on a distinguished road
Default

# 355 (Andromeda)

ก็ไม่น่ามีอะไรผิดนะครับ ตรง SOS ผมไม่ได้ check เพราะผมไม่ได้เป็นมือโปรด้านนี้

อีกวิธีที่ทำได้ คือ พอเราได้ $ PA \sin^2 A = d_b^2+d_c^2 +2d_bd_c \cos A $ แล้ว ขวามือใช้ AM -GM จะได้ $ \leq (d_b^2+d_c^2)(1 + \cos A) $ จากนั้น ทั้ง 2 ข้างของอสมการ ใช้สูตรตรีโกณเปลี่ยนให้ติด $\frac{A}{2}$ .....ท้ายที่สุดจะได้ $ (PA \sin \frac{A}{2} )^2 \leq \frac{d_b^2+d_c^2}{2}$

เท่ากับว่าจบไปครึ่งทาง

ส่วนอีกครึ่งทาง start จาก $ PA \sin^2 A = d_b^2+d_c^2 +2d_bd_c \cos A $ เหมือนเดิม และ จัดรูป ขวามือ เป็น $ (d_b+d_c)^2 -2d_bd_c(1-\cos A) \geq (d_b+d_c)^2 -2(\frac{d_b+d_c}{2})^2(1-\cos A) = (d_b+d_c)^2 (\frac{1}{2})(1+\cos A) $

Simplify เป็น half angle จะได้ $ (PA \sin \frac{A}{2} )^2 \geq (\frac{d_b+d_c}{2})^2 $

ที่เหลือ apply อสมการ $ x^2+y^2+z^2 \geq \frac{1}{3}(x+y+z)^2$

-------------------------------------------------------------------------

# 357 (Beatmania)

สิ่งที่คุณ Beatmania ทำไว้ มีแต่อ้าง Dirichlet theorem ว่ามี จำนวนเฉพาะ $ p_i \equiv 1 \pmod m $

กับใช้ C.R.T. เพื่อบอกว่า มี a เป็นอนันต์ที่ $ p_i | a+i $

แต่ไม่ได้เชื่อมโยงกับ $ \phi$ ให้ดูเลยครับ
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 18:53


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha