Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์โอลิมปิก และอุดมศึกษา > พีชคณิต
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 01 กันยายน 2007, 21:19
goodnews goodnews ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 มิถุนายน 2007
ข้อความ: 18
goodnews is on a distinguished road
Default (x-a)(x-59)=(x-b)(x-c)+97

กำหนดให้ (x-a)(x-59)=(x-b)(x-c)+97 จงหาค่าสูงสุดของ a+b+c ใครเคยเจอ

โจทย์แบบนี้ช่วยคิดทีครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 01 กันยายน 2007, 21:53
หยินหยาง's Avatar
หยินหยาง หยินหยาง ไม่อยู่ในระบบ
กระบี่จักรวาล
 
วันที่สมัครสมาชิก: 06 มกราคม 2007
ข้อความ: 2,921
หยินหยาง is on a distinguished road
Default

$a, b, c$ เป็นจำนวนเต็มหรือเปล่า ถ้าใช่ผมคิดได้ค่าสูงสุดของ $a+b+c = 369$ครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 01 กันยายน 2007, 22:49
gon's Avatar
gon gon ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 29 มีนาคม 2001
ข้อความ: 4,608
gon is on a distinguished road
Smile

ข้อนี้มาแนวเดียวกับ BMO 1988 (British Mathematical Olympiad)

อ้างอิง:
จงหาจำนวนเต็ม a, b, c ทั้งหมดซึ่ง
\[(x-a)(x-10) + 1 = (x+b)(x+c)\]
สำหรับทุกจำนวนจริง x
แนวคิดก็คือ

1. ใช้หลักการเทียบสัมประสิทธิ์
2. กำจัด 3 ตัวแปร ให้เหลือ 2 ตัวแปร
3. ใช้หลักการแยกตัวประกอบ

01 กันยายน 2007 22:52 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ gon
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 02 กันยายน 2007, 07:20
คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ ไม่อยู่ในระบบ
บัณฑิตฟ้า
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 กันยายน 2006
ข้อความ: 441
คณิตศาสตร์ is an unknown quantity at this point
Default

ยกตัวอย่างให้เห็นได้ชัดหน่อยครับ เคยเจอมาหลายครั้งแล้ว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 02 กันยายน 2007, 08:31
nongtum's Avatar
nongtum nongtum ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎทั่วไป
 
วันที่สมัครสมาชิก: 10 เมษายน 2005
ข้อความ: 3,246
nongtum is on a distinguished road
Default

ผมเคยแสดงวิธีทำโจทย์แนวนี้แล้ืวทั้งที่นี่ และในบอร์ดวิชาการ.คอม แต่ไม่รู้ว่าทำไว้ที่ไหน งั้นผมยกตัวอย่างแนวคิดคร่าวๆโดยอิงจากความคิดเห็นของคุณ gon ละกัน

[BMO 1988] จงหาจำนวนเต็ม $a, b, c$ ทั้งหมดซึ่ง $(x-a)(x-10)+1=(x+b)(x+c)$ สำหรับทุกจำนวนจริง $x$

แนวคิดก็คือ
  1. ใช้หลักการเทียบสัมประสิทธิ์

    หลังจากกระจายเทอมทั้งสองข้างจะพบว่า $x^2-(a+10)x+(10a+1)=x^2+(b+c)x+bc$
    ดังนั้น $a+10=-(b+c)$ และ $10a+1=bc$
  2. กำจัด 3 ตัวแปร ให้เหลือ 2 ตัวแปร แล้วใช้หลักการแยกตัวประกอบ

    สมมติว่าจะกำจัด $a$ ทิ้ง เราจะพบว่า $10a+1=bc=-10(b+c)-99$
    จัดรูปจะได้ $bc+10(b+c)+100=(b+10)(c+10)=1$
    เมื่อ $b+10=c+10=1$ จะได้ $b=c=-9$ และ $a=8$
    เมื่อ $b+10=c+10=-1$ จะได้ $b=c=-11$ และ $a=12$
__________________
คนไทยร่วมใจอย่าใช้ภาษาวิบัติ
ฝึกพิมพ์สัญลักษณ์สักนิด ชีวิต(คนตอบและคนถาม)จะง่ายขึ้นเยอะ (จริงๆนะ)

Stay Hungry. Stay Foolish.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 04 กันยายน 2007, 20:51
goodnews goodnews ไม่อยู่ในระบบ
เริ่มฝึกวรยุทธ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 มิถุนายน 2007
ข้อความ: 18
goodnews is on a distinguished road
Default

ขอบคุณมากครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 24 กันยายน 2007, 22:47
lunor's Avatar
lunor lunor ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 09 กันยายน 2007
ข้อความ: 106
lunor is on a distinguished road
Default

อ้อเข้าใจและตอนแรกก็งงจะหายังงัยดี
__________________
<N>![P]r0T!veVeN0m Yowwwww
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 24 กันยายน 2007, 22:48
putmusic putmusic ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 สิงหาคม 2007
ข้อความ: 183
putmusic is on a distinguished road
Default

เหอๆๆๆๆๆๆ ก็ใช้การแก้สมการ 3 ตัวแปรนี่เอง ไม่ทันเห็นกระทู้นี้แฮะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #9  
Old 24 กันยายน 2007, 23:21
lunor's Avatar
lunor lunor ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 09 กันยายน 2007
ข้อความ: 106
lunor is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ putmusic View Post
เหอๆๆๆๆๆๆ ก็ใช้การแก้สมการ 3 ตัวแปรนี่เอง ไม่ทันเห็นกระทู้นี้แฮะ
รู้สึกว่าเรื่องนี้คุณ putmusic ถนัดไม่ใช่เหรอคับ
__________________
<N>![P]r0T!veVeN0m Yowwwww
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #10  
Old 24 กันยายน 2007, 23:33
putmusic putmusic ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 11 สิงหาคม 2007
ข้อความ: 183
putmusic is on a distinguished road
Default

ทำไมถึงคิดงั้นล่ะครับ มั่วนี่นา
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #11  
Old 19 มกราคม 2008, 13:41
Mew Mew ไม่อยู่ในระบบ
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 มกราคม 2008
ข้อความ: 3
Mew is on a distinguished road
Default

จาก (x-a)(x-59)= (x-b)(x-c)+97
x-(a+59) = x-(b+c)+97 -xสองข้าง
-(a+59) = 97-(b+c) +(b+c)สองข้าง
(b+c)-(a+59)= 97
b+c-a-59 = 97 +59สองข้าง
b+c-a = 156
a+b+c = 156+a มั้ง 5555+

19 มกราคม 2008 13:43 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Mew
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #12  
Old 06 กันยายน 2009, 20:45
HIGG BOZON's Avatar
HIGG BOZON HIGG BOZON ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าใหม่
 
วันที่สมัครสมาชิก: 01 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 65
HIGG BOZON is on a distinguished road
Default

จาก $(x-a)(x-59)=(x-b)(x-c)+97$ จะได้ว่า $x^2-(a+59)x+59a=x^2-(b+c)x+(bc+97)$
เทียบสัมประสิทธิ์จะได้ว่า $a+59=b+c$ และ $59a=bc+97$
จากนั้นกำจัดตัวแปร $a$ โดยที่ $bc+97=59a=59(b+c)-59^2$
ดังนั้น $bc-59(b+c)+59^2=-97$ นั่นคือ $(b-59)(c-59)=-97$
เนื่องจาก $97$ เป็นจำนวนเฉพาะ $b,c$ มีความสมมาตรกัน จึงได้ว่า
กรณีที่ 1 ; $b-59=97$ และ $c-59=-1$
จะได้ $b=156$ และ $c=58$ ทำให้ได้ว่า $a=155$
กรณีที่ 2 ; $b-59=-97$ และ $c-59=1$
จะได้ $b=-38$ และ $c=60$ ทำให้ได้ว่า $a=-37$
จะเห็นว่าค่าของ $a+b+c$ จะเกิดค่าสูงสุดในกรณีที่ 1 นั่นคือ $a+b+c=369$

คำตอบของคุณ หยินหยาง ถูกต้องแล้วครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #13  
Old 10 กันยายน 2009, 02:36
Brownian's Avatar
Brownian Brownian ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 16 มิถุนายน 2005
ข้อความ: 98
Brownian is on a distinguished road
Send a message via MSN to Brownian
Default

คิดแบบนี้ก็ได้คับ

จาก $$(x-a)(x-59)=(x-b)(x-c)+97$$
มองว่ามันเป็นฟังก์ชันพหุนาม
เมื่อ $x=59$ เราได้ $(b-59)(c-59)=-97=(-97)(1)=(97)(-1)$
กรณีแรก b=-38,60 และ c=60,-38 ตามลำดับ
กรณีหลัง b=156,58 และ c=58,156

โดยความน่าจะเป็น ในการเกิดค่าสูงสุดควรเป็นกรณีหลัง ใช้ b,c=156,58 (สลับกันได้เพราะสมมาตร)
เมื่อ $x=b=156$ เราได้ $(b-a)(b-59)=97$ ทำให้ $a=155$

ทำให้ $a+b+c=155+156+58=369$ พอตรวจสอบกรณีที่เหลือพบว่าค่าน้อยกว่า จึงสรุปว่าเป็นค่ามากสุด

อันนี้เป็นกรณีที่ a,b,c เป็นจำนวนเต็มนะครับ ถ้าเป็นจำนวนจริงผมไม่แน่ใจว่าใช้วิธีเดียวกันนี้ได้รึเปล่าคับ หะหะ
__________________
"จงรักตัวเองด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น และรักผู้อื่นด้วยการพัฒนาตัวเอง"
<< i'm lovin' it>>

11 กันยายน 2009 13:26 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Brownian
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #14  
Old 13 กันยายน 2009, 19:44
Zenith_B Zenith_B ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 09 สิงหาคม 2009
ข้อความ: 121
Zenith_B is on a distinguished road
Default

ขอบคุณครับ

น่าทึ่งมาก
__________________
There is only one happiness in life, to love and be loved.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 06:46


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha