Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์ทั่วไป > ปัญหาคณิตศาสตร์ทั่วไป
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #1  
Old 17 สิงหาคม 2001, 00:28
Hell's Avatar
Hell Hell ไม่อยู่ในระบบ
หัดเดินลมปราณ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 13 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 30
Hell is on a distinguished road
Post 2=4

ให้ 2=xxxxx...
จะได้ 2= x2
หรือ x=sqrt(2)

และ 4=yyyy...

จะได้ 4 = y4
ได้ y=sqrt(2)
ได้ x=y ก็คือ 2=4 ด้วย จาก
xxxx... = yyyy... = 2 = 4

??????
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #2  
Old 17 สิงหาคม 2001, 15:24
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Exclamation

พิจารณา x2 = 2 จะได้ x = 21/2 = 2
ตรวจคำตอบโดยคร่าวๆ
(- 2)(- 2)(- 2)(- 2)(- 2) = - 0.27 - 0.14 i 2 \ - 2 ไม่ใช่ผลเฉลย
22222 = 1.89 2 \ 2 เป็นผลเฉลยที่ถูกต้อง

พิจารณา y4 = 4 จะได้ y = 41/4 = { 2 , i2 }
ตรวจคำตอบโดยคร่าวๆ
กรณี y = 2 ถูกแสดงให้เห็นแล้วว่าได้ค่า yyyyy = { 1.89 , - 0.27 - 0.14 i } จึงไม่ใช่ผลเฉลยของสมการนี้
(i2)(i2)(i2)(i2)(i2) = 0.17 + 0.08i \ i2 จึงไม่ใช่ผลเฉลยของสมการนี้
(- i2)(- i2)(- i2)(- i2)(- i2) = 0.17 - 0.08i \ - i2 จึงไม่ใช่ผลเฉลยของสมการนี้
สรุป yyyy... = 4 ไม่มีผลเฉลยของสมการ

ดังนั้น เมื่อเราไม่สามารถหา y ออกมาได้ (และ y 2) จึงเป็นอันว่า x y ==> 2 4

สำหรับกรณีทั่วไป xxxx... = a (โดยที่ a R+) จะสามารถหาผลเฉลยได้เมื่อ a ( 0 , e ] เท่านั้น และจะมีผลเฉลยเพียงค่าเดียวคือ x = รากตัวแรกของ a1/a
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #3  
Old 18 สิงหาคม 2001, 17:04
Hell's Avatar
Hell Hell ไม่อยู่ในระบบ
หัดเดินลมปราณ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 13 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 30
Hell is on a distinguished road
Post

ทำไมถึงต้องเป็น e หรือ น้อยกว่า e ล่ะครับ
มันมาจากไหนครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #4  
Old 18 สิงหาคม 2001, 18:09
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Lightbulb

ทำไมถึงเป็นช่วง ( 0 , e ] หรือ ? คงต้องให้น้องๆช่วยกันไขปริศนานี้ละกัน (ให้เวลา 2 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ต้องมีน้องๆมาช่วยคิดด้วยนะ ไม่งั้นไม่เฉลย)

มีหลายๆประเด็นในคำถามนี้ ที่น้องน่าจะนำไปคิดด้วยเช่นกันได้แก่
  • ตรงที่พี่บอกว่า (- 2)(- 2)(- 2)(- 2)(- 2) = - 0.27 - 0.14 i น้องน่าจะแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ได้

    ถ้ายังไม่รู้สึกสงสัย ก็ลองหาค่านี้ดูว่าได้เท่าไร (- 2)(- 2) = ? , (- p)(- p) = ?
    แน่นอนครับว่ามันย่อม แตกต่างจากการหาค่า (- 2)(- 2) และผลลัพธ์ที่ได้ก็ ... (HINT รึเปล่าหว่า : ลองตอบคำถามที่พี่ทิ้งเอาไว้ 2 ข้อในเรื่องจำนวนเชิงซ้อน แต่ไม่มีใครมาตอบสักที )
  • ทำไมผลเฉลยจึงมีได้เพียงค่าเดียวเท่านั้น และต้องเป็นรากตัวแรกของ a1/a
  • ช่วงของ a ที่สามารถหาผลเฉลยได้ทำไมจึงเป็น a ( 0 , e ] เท่านั้น
ลองคิดกันดูนะ แล้วจะได้ความรู้อะไรหลายๆอย่างมากเลย (ใช้ความรู้ในส่วนของเสริมประสบการณ์หลายๆเรื่องมารวมกัน ก็แก้ได้แล้ว) หากใครคิดหรือตอบปัญหาเหล่านี้ได้ทุกข้อแล้ว ก็ลองแวะไปตอบคำถามเก่าๆของพี่ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เช่นกัน (ยังไม่มีใครมาตอบเหมือนเดิม ) ที่นี่
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #5  
Old 14 กันยายน 2001, 02:24
Hell's Avatar
Hell Hell ไม่อยู่ในระบบ
หัดเดินลมปราณ
 
วันที่สมัครสมาชิก: 13 พฤษภาคม 2001
ข้อความ: 30
Hell is on a distinguished road
Post

ตอบคำถามที่ทิ้งเอาไว้ 2 ข้อในเรื่องจำนวนเชิงซ้อนครับ
1.ii=(cos Pi/2 + i sin Pi/2)i
=ei*i*Pi/2
=e- Pi/2

2.(i+1)i+1=( (sqrt 2)*(cos Pi/4 + i sin Pi/4) )i+1
=e(i+1)*(ln 2)*i*Pi/8
=e-(ln 2)*Pi/8*(2)*(cos Pi/8 + i sin Pi/8 )

แต่โยงกับเรื่อง (0,e] ไม่เห็นติดเลยอ่ะครับ

14 กันยายน 2001 02:32 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Hell
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #6  
Old 14 กันยายน 2001, 17:53
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Lightbulb

นึกว่าจะไม่มีใครมาคิดซะแล้ว

สำหรับข้อแรก ถูกต้อง แต่สำหรับข้อสอง 1 + i = sqrt(2)*eip/4 = eln(sqrt(2))+ip/4 แล้วก็แก้ไปตามแนวทางที่ทำมาก็เรียบร้อย (อันที่จริงแล้วมันยังมีรายละเอียดบางอย่างที่น่าสนใจมากกว่านี้อีก หากอยากรู้ว่ามันคืออะไรต้อง ตามไปคิดปัญหาข้อนี้ ที่นี่)

ทีนี้ก็มาถึงเรื่องของปัญหาข้อนี้กันละ เราจะหาช่วงของ a ที่ทำให้สมการนี้มีผลเฉลย ก็คือการหาเรนจ์ของ f(x) = xxxx...
สมมติให้ xxxx... = a (ในที่นี้เราสนใจการหาค่า a ที่เป็นไปได้ทั้งหมด)
จะได้ xa = a
a ln(x) = ln(a) , โดยที่ aR+ ตามที่ได้กำหนดเอาไว้ตอนแรก -----(1)
เราจะพบว่า x ที่สามารถทำให้สมการนี้เป็นจริงได้ ต้องเป็น R+ เท่านั้น(เป็นจำนวนเชิงซ้อนไม่ได้)
ดังนั้นในกรณีของคำถามข้างบนที่ a = 2,4 จึงไม่ต้องไปตรวจสอบผลเฉลยบริเวณอื่นเลย ให้ตรวจสอบเฉพาะผลเฉลยที่เป็น R+ เท่านั้น

ให้ y1 = [ln(x)] a และ y2 = ln(a) จะได้ว่า y1 เป็นสมการเส้นตรงที่มีความชันเป็น ln(x) และ y2 เป็นฟังก์ชัน Logarithm
ลองวาดกราฟของ y1 และ y2 เพื่อดูจุดตัดกันของกราฟทั้งสอง
<applet code="PGC.class" archive="applets/PGC.jar" width=480 height=320><param name=launch_button value=""><param name=launch_size value=""><param name=control_panel value=><param name=graph_border value=><param name=background_image value=""><param name=builtin_functions value=><param name=builtin_examples value=><param name=center value="(2.5,0)"><param name=zoom value=80><param name=line value=><param name=plot value=><param name=spin value=><param name=active value="a"><param name=t_minimum value=0><param name=t_maximum value=3*pi><param name=t_count value=100><param name=a value="(1,-1)"><param name=b value=""><param name=c value=""><param name=d value=""><param name=f value=""><param name=g value="(t,ln(t))"><param name=h value="(t-pi,ay*(t-pi)/ax)"><param name=k value=""><param name=m value="(e,t-pi)"><param name=n value=""></applet>
เราจะพบว่าค่าความชันของสมการเส้นตรง(ln x) ที่ทำให้กราฟตัดกัน(มีผลเฉลย) เริ่มจาก - และเพิ่มค่าความชันขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งที่กราฟทั้งสองสัมผัสกัน บริเวณนี้จะเป็นค่าสุดท้ายของความชันหรือค่า x ที่เป็นไปได้ หากเพิ่มความชันหรือ x มากไปกว่านี้จะทำให้กราฟไม่ตัดกัน(หาผลเฉลยไม่ได้นั่นเอง) เราจะหาว่าค่าความชันสุดท้ายเป็นเท่าไร ?

ความชันของ y1 = [ln(x)] a ที่ a ใดๆคือ ln(x) และ ความชันของ y2 = ln(a) ที่ a ใดๆคือ 1 / a ดังนั้น บริเวณที่กราฟทั้งสองสัมผัสกันจะมีความชันเท่ากัน
จึงได้ว่า ln(x) = 1 / a หรือ a = 1 / ln(x)
แทนค่า a กลับไปในสมการ (1) เพื่อหาค่า x จะได้ 1 = ln(1 / ln(x)) จึงได้ x = e1/e และ a = e

เนื่องจาก x(0,e1/e] โดยที่
ที่ x = 0+ จะได้ a = 0+ และที่ x = e1/e จะได้ a = e
และเมื่อพิจารณากราฟ x = y1/y จะพบว่าเป็นฟังก์ชันเพิ่มในช่วงของ y(0,e]
จึงสรุปได้ว่า a(0,e]
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #7  
Old 18 กรกฎาคม 2009, 12:21
Love math Love math ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 31 มีนาคม 2009
ข้อความ: 103
Love math is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ TOP View Post
พิจารณา x2 = 2 จะได้ x = 21/2 = 2
ตรวจคำตอบโดยคร่าวๆ
(- 2)(- 2)(- 2)(- 2)(- 2) = - 0.27 - 0.14 i 2 \ - 2 ไม่ใช่ผลเฉลย
22222 = 1.89 2 \ 2 เป็นผลเฉลยที่ถูกต้อง

พิจารณา y4 = 4 จะได้ y = 41/4 = { 2 , i2 }
ตรวจคำตอบโดยคร่าวๆ
กรณี y = 2 ถูกแสดงให้เห็นแล้วว่าได้ค่า yyyyy = { 1.89 , - 0.27 - 0.14 i } จึงไม่ใช่ผลเฉลยของสมการนี้
(i2)(i2)(i2)(i2)(i2) = 0.17 + 0.08i \ i2 จึงไม่ใช่ผลเฉลยของสมการนี้
(- i2)(- i2)(- i2)(- i2)(- i2) = 0.17 - 0.08i \ - i2 จึงไม่ใช่ผลเฉลยของสมการนี้
สรุป yyyy... = 4 ไม่มีผลเฉลยของสมการ

ดังนั้น เมื่อเราไม่สามารถหา y ออกมาได้ (และ y 2) จึงเป็นอันว่า x y ==> 2 4

สำหรับกรณีทั่วไป xxxx... = a (โดยที่ a R+) จะสามารถหาผลเฉลยได้เมื่อ a ( 0 , e ] เท่านั้น และจะมีผลเฉลยเพียงค่าเดียวคือ x = รากตัวแรกของ a1/a

ผมก็เห็นด้วยครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #8  
Old 21 กรกฎาคม 2009, 04:01
picmy's Avatar
picmy picmy ไม่อยู่ในระบบ
ลมปราณบริสุทธิ์
 
วันที่สมัครสมาชิก: 15 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 107
picmy is on a distinguished road
Default

เพิ่มเติมคับ เว็บนี้อาจเป็นประโยชน์นะคับ
http://mathworld.wolfram.com/PowerTower.html
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 20:36


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha