#361
|
||||
|
||||
C.R.T ส่วนใหญ่จะใช้ในโจทย์แนวไหนเหรอครับ
__________________
...สีชมพูจะไม่จางด้วยเหงื่อ แต่จะจางด้วยนํ้าลาย... |
#362
|
|||
|
|||
#359
ถูกแล้วครับ แต่รบกวนช่วบแสดงวิธีทำมาหน่อยได้มั้ยครับ |
#363
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
กำหนดสัญลักษณ์$[ABC]$คือพื้นที่ของ$\triangle ABC$ พิจารณา $$\frac{AP}{AL} +\frac{BP}{BM} +\frac{CP}{CN}=\frac{AL-PL}{AL} +\frac{BM-MP}{BM} +\frac{CN-PN}{CN}=3-(\frac{PL}{AL}+\frac{PM}{BM} +\frac{PN}{CN} )=3-(\frac{[BPC]}{[ABC]}+\frac{[APC]}{[ABC]} +\frac{[ABP]}{[ABC]} )=3-1=2 $$ โดยอสมการโคชี-ซวาร์ซเราได้ว่า $$((\frac{AP}{AL} )^2+(\frac{BP}{BM} )^2+(\frac{CP}{CN} )^2)(1+1+1)\geqslant (\frac{AP}{AL} +\frac{BP}{BM} +\frac{CP}{CN})^2=4 \Rightarrow (\frac{AP}{AL} )^2+(\frac{BP}{BM} )^2+(\frac{CP}{CN} )^2\geqslant \frac{4}{3} $$ ซึ่งอสมการจะเป็นสมการเมื่อ$\frac{AP}{AL} =\frac{BP}{BM} =\frac{CP}{CN} =\frac{2}{3} $ (โดยการพิจารณาจุดเท่ากันของอสมการโคชี-ซวาร์ซ) ดังนั้นจุด $P$ ที่ทำให้เกิค่าต่ำสุดก็คือ จุด Centroid ของ$\triangle ABC \square$ |
#364
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
พิจารณา $a+i , \forall i \in (0,1,...,n)$ จะได้ว่า $p_i | a+i$ ส่งผลให้ $\phi (p_i )| \phi (a+i)$ $mk_i+1-1 | \phi (a+i) ,[\exists k_i \in \unicode{8469} ]$ $mk_i | \phi (a+i)$ $m | \phi (a+i) , \forall i \in (0,1,...,n)$ 01 พฤษภาคม 2012 08:51 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Beatmania |
#365
|
||||
|
||||
เห็นว่าโจทย์คอมบินาทอริกในกระทู้น้อยมากกก เลยเอามาเติมครับ
คงจะง่ายสำหรับคนในบอร์ดนี้นะครับ 1. มีคนอยู่ทั้งหมด 1600 คน ทำข้อสอบกาถูก-ผิดทั้งหมด 15 ข้อ โดยไม่มีนักเรียนคนใดทำถูกสองข้อติดกัน จงพิสูจน์ว่า มีอย่างน้อย 2 คน ที่รูปแบบการตอบเหมือนกัน 2.มีคนทั้งหมด 2012 คน แต่ละคนมีเพื่อนอย่างน้อย 1509 คน จงพิสูจน์ว่ามีกลุ่มคน 4 คน ที่ 2 คนใดๆในกลุ่มนี้รู้จักกัน 3.มีจุดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด $10\times 10$ จงหาจำนวนสี่เหลี่ยมจัตุรัสทั้งหมดที่สามารถสร้างได้โดยจุด 100 จุดดังกล่าว (ข้อนี้เคยเป็นแบบฝึกหัดค่าย 1 ของศูนย์ผมเมื่อปีที่แล้วด้วยครับ T.T) 4.(ข้อนี้มาแปลกครับ) ถ้า $(p+r\sqrt{q} )^n = a+b\sqrt{c} $ แล้ว $(p-r\sqrt{q} )^n = a-b\sqrt{c} $ โดย c เป็น Square Free Integer 5.จงหาค่าของ $\binom{3n}{0} +\binom{3n}{3} +...+\binom{3n}{3n} $ Credit : คอมบินาทอริก สอวน. + Lecture note Kim Y. Li 03 พฤษภาคม 2012 23:17 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Beatmania เหตุผล: จำเลขผิดครับ ขอโทษด้วย มึนมาก TT |
#366
|
||||
|
||||
ข้อ 1 ผมว่าน่าจะเริ่มจาก การหาจำนวนเลขฐาน 2 ความยาว 16 หลัก ที่ไม่มีเลข 1 ติดกัน
มันจะเท่ากับวิธีในการกาข้อสอบถูกผิดอย่างที่โจทย์บอกอ่ะครับ
__________________
...สีชมพูจะไม่จางด้วยเหงื่อ แต่จะจางด้วยนํ้าลาย... |
#367
|
||||
|
||||
ข้อสาม. 385 รูป. ใช่รึเปล่าครับ
ปล.ไม่เเน่ใจมากๆ
__________________
God does mathematics. 01 พฤษภาคม 2012 12:06 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 2 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ กระบี่ทะลวงด่าน เหตุผล: ผิด |
#368
|
||||
|
||||
ยังไม่ใช่ครับ
ข้อนี้ผมถึกนิดนึงครับ อยากเห็นวิธีของคนอื่นจัง 01 พฤษภาคม 2012 12:16 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Beatmania |
#369
|
|||
|
|||
#263
ข้อที่ 5 มี $f:\mathbb{N} \rightarrow \mathbb{N} $ หรือไม่ที่สอคล้องคล้องกับ $f(f(n-1))=f(n+1)- f(n),\forall n\in \mathbb{N},n\geqslant 2 $ วิธีทำ(ไม่รู้ว่าถูกต้องหรือเปล่านะครับช่วยตรวจสอบให้ด้วยครับ) สมมติให้มีฟังก์ชัน $f$ ที่สอดคล้องกับโจทย์ จากโจทย์ได้ว่า $f(f(n-1))=f(n+1)-f(n)>0$ ทำให้ $f(1)<f(2)<f(3)<...<f(n-1)<f(n)$ โดยที่ $n\in \mathbb{N} $ จัดรูปสมการโจทย์ได้ว่า $f(f(n-1))+f(n)=f(n+1)$ ดังนั้น $f(f(n-1))<f(n+1)$ เนื่องจาก $f$ เป็นฟังกชันเพิ่มโดยแท้ ทำให้เราได้ว่า $f(n-1)<n+1$ หรือนั่นคือ $f(n)<n+2$ และจากการที่ $f$ นั้นเป็นฟังก์ชันเพิ่มโดยแท้ทำให้เราได้ว่า $f(n)\geqslant n$ ดังนั้น $f(n)$ ที่เป็นไปได้คือ $f(n)=n$ หรือ $f(n)=n+1$ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเท็จ เกิดข้อขัดแย้ง สรุปได้ว่าไม่มีฟังก์ชัน $f$ ที่สอดคล้องกับโจทย์ |
#370
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
พิจารณาจาก ในสี่เหลี่ยม ABCD ลาก $D,B$ ตั้งฉาก $AC$ ที่ $F,E$ ตามลำดับ ได้ว่า พท.$=1=\dfrac{1}{2}AC(DF+BE)\le\dfrac{1}{2}AC\cdot BD\leftrightarrow AC\cdot BD\ge 2$ ดังนั้น $AC+BD\ge \sqrt{8}$ ส่วนอีกอันนึง โดย Ptolemy $$2\le AC\cdot BD\le AB\cdot CD+BC\cdot AD\le\frac{AB^2+BC^2+CD^2+DA^2}{2}\leftrightarrow AB^2+BC^2+CD^2+DA^2\ge 4$$ ซึ่งพิสูจน์ได้(ไม่)ง่ายว่า $AB+BC+CD+DA\ge 4$
__________________
Vouloir c'est pouvoir |
#371
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
#369 อาจจะเกิดกรณีแบบที่ f(1)=1 f(2)=2 f(3)=4 ได้หนิครับ 01 พฤษภาคม 2012 19:17 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Beatmania |
#372
|
|||
|
|||
#371
ลองใช้สมบัติของฟังก์ชันโจทย์+สมบัติของฟังก์ชันเพิ่มโดยแท้ ดูครับ มันจะได้ว่า f(1)=1 หรือ 2 ครับ แล้วลองทำต่อไปดูซักพักมันจะขัดแย้งครับ(ไม่ยากหรอกครับลองทำดูเองได้แน่นอน) 01 พฤษภาคม 2012 19:41 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ win1234 |
#373
|
|||
|
|||
#370
ผมมาขอลองทำส่วนที่ $AB+BC+CD+DA\geqslant 4$ จาก พื้นที่สี่เหลี่ยม ABCD= พื้นที่สามเหลี่ยม ACD+พื้นที่สามเหลี่ยม ABC $1=\frac{1}{2}(AD)(DC)sinADC+\frac{1}{2}(AB)(BC)sinABC$ $1\leqslant\frac{1}{2}(AD)(DC)(1)+\frac{1}{2}(AB)(BC)(1) $ ได้ว่า $(AB)(BC)+(AD)(DC)\geqslant 2$ ในทำนองเดียวกันได้ว่า $(AB)(AD)+(BC)(DC)\geqslant 2$ นำทั้งสองอสมการมารวมกันได้ว่า $(AB+CD)(BC+AD)\geqslant4$ โดยอสมการ AM-GM $(AB+CD)+(BC+AD)\geqslant2\sqrt{(AB+CD)(BC+AD)}\geqslant4 $ |
#374
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
แต่น่าจะเขียนเป็น จาก $p_i | a+i$ ดังนั้นให้ $ p_i^{\alpha}|| a+i $ สำหรับบาง $ \alpha \in \mathbb{N}$ เพราะ $ \phi $ เป็นฟังก์ชันแยกคูณ (multiplicative function) ดังนั้น $\phi (p_i^{\alpha} )| \phi (a+i)$ แต่ $ p_i-1 | \phi (p_i^{\alpha}) \Rightarrow m |\phi (p_i^{\alpha}) \Rightarrow m |\phi (a+i) $ -------------------------------------------------------------------------- แถมข้อ Q7 (Algebra) a,b,c เป็นจำนวนเชิงซ้อนต่างกัน และ $ |a|= |b|= |c|$ ถ้า $ a^2 + \frac{bc}{a} \,\, ,b^2 + \frac{ac}{b} \,\, ,c^2 + \frac{ab}{c} \in \mathbb{R} $ พิสูจน์ $ abc =1$
__________________
เกษียณตัวเอง ปลายมิถุนายน 2557 แต่จะกลับมาเป็นครั้งคราว |
#375
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ให้ $|a|=|b|=|c|=r $ และ $a=r cis \theta _A,b=r cis \theta _B,c=r cis \theta _C , 0 \leqslant \theta _A, \theta _B, \theta _C < 2\pi $ เงื่อนไที่สอง จะได้ว่า $r^2 sin (2 \theta _A)+rsin ( \theta _B +\theta _C -\theta _A) =0$ $r^2 sin (2 \theta _B)+rsin ( \theta _C +\theta _A -\theta _B) =0$ $r^2 sin (2 \theta _C)+rsin ( \theta _A +\theta _B -\theta _C) =0$ เนื่องจาก $r > 0$ ดังนั้น $r sin (2 \theta _A)= -sin ( \theta _B +\theta _C -\theta _A) (1)$ $r sin (2 \theta _B)= -sin ( \theta _C +\theta _A -\theta _B) (2)$ $r sin (2 \theta _C)= -sin ( \theta _A +\theta _B -\theta _C) (3)$ $(1)+(2) \rightarrow 2r sin ( \theta _A+ \theta _B)cos( \theta _A- \theta _B) = -2 sin ( \theta _C) cos ( \theta _A- \theta _B)$ $r sin ( \theta _A+ \theta _B)= - sin ( \theta _C) (4)$ $(1)-(2) \rightarrow 2r cos ( \theta _A+ \theta _B) sin ( \theta _A- \theta _B) = -2 cos( \theta _C) sin ( \theta _B- \theta _A)$ $r cos ( \theta _A+ \theta _B)= cos( \theta _C) (5)$ $(4)^2+(5)^2 \rightarrow r^2=1$ แต่ $r>0$ ดังนั้น $r=1$ ที่เหลือก็น่าจะต่อได้นะครับ ^^ 02 พฤษภาคม 2012 15:03 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 5 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ Beatmania เหตุผล: รู้สึกว่าลืมเช็คกรณีบางตัวอยู่อ่ะครับ = = |
|
|