Mathcenter Forum  

Go Back   Mathcenter Forum > คณิตศาสตร์มัธยมศึกษา > ปัญหาคณิตศาสตร์ ม. ต้น
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ข้อความวันนี้

ตั้งหัวข้อใหม่ Reply
 
เครื่องมือของหัวข้อ ค้นหาในหัวข้อนี้
  #16  
Old 18 กรกฎาคม 2009, 10:29
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

ขอบคุณคุณTOP ที่มาช่วย confirm ความเข้าใจ

ถ้าอย่างนั้นเราก็ทำโจทย์ต่อ แต่ขอเปลี่ยนโจทย์ใหม่เป็นดังนี้



อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ math_lnw View Post

ถ้านักเรียนได้เข้าร่วมรายการเกมโชว์แห่งหนึ่งโดยมีกล่องอยู่5ใบและมีกล่อง1ใบที่มีของรางวัลอยู่ในนั้น โดยพิธีกรจะให้นักเรียนเลือกกล่องก่อน 1ใบ จากนั้นพิธีกรซึ่งรู้อยู่แก่ใจว่ากล่องใดมีของรางวัล เปิดให้นักเรียนดูว่า1ในกล่อง4ใบที่ไม่ได้เลือกไม่มีของรางวัลอยู่ แล้วถามนักเรียนว่า จะเปลี่ยนใจหรือไม่
ถ้านักเรียนเปลี่ยนใจ ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ที่ได้รับของรางวัล : ความน่าจะเป็นที่ได้รับของรางวัลโดยไม่เปลี่ยนใจเป็น a:b แล้ว a และ b เป็นจำนวนเต็มโดยที่ไม่มีตัวประกอบร่วมนอกจาก1 จงหาค่าของ a+b

เพื่อความเข้าใจ เราจะย้อน 1000 กล่องของคุณTOP
ถ้าให้เปิดกล่องที่เหลือ 999 กล่อง ความน่าจะเป็นที่จะได้รางวัล = 999/1000 (ถ้าเปลี่ยนใจจะได้เปิดทั้งหมด999ครั้ง)
ถ้าให้เปิดกล่องที่เหลือ 500 กล่อง ความน่าจะเป็นที่จะได้รางวัล = 500/1000 (ถ้าเปลี่ยนใจจะได้เปิดทั้งหมด 500 ครั้ง)
ถ้าให้เปิดกล่องที่เหลือ 100 กล่อง ความน่าจะเป็นที่จะได้รางวัล = 100/1000 (ถ้าเปลี่ยนใจจะได้เปิดทั้งหมด 100 ครั้ง)
ถ้าให้เปิดกล่องที่เหลือ 10 กล่อง ความน่าจะเป็นที่จะได้รางวัล = 10/1000 (ถ้าเปลี่ยนใจจะได้เปิดทั้งหมด 10 ครั้ง)
ถ้าให้เปิดกล่องที่เหลือ 2 กล่อง ความน่าจะเป็นที่จะได้รางวัล = 2/1000 (ถ้าเปลี่ยนใจจะได้เปิดทั้งหมดอีก 2 ครั้ง )


กลับมาที่โจทย์พิธีกร
แทนที่พิธีกรจะเปิดเอง แต่ให้เราเปิดแทน (1กล่องจาก 4 กล่องที่เหลือ แล้วเปิดจริงอีก 1 ครั้ง เท่ากับเราได้เปิด 2 ครั้ง คือเปิดฟรีๆ 1 ครั้ง กับเปิดจริงอีก 1 ครั้ง ) ----> พิธีกรเปิดให้ดู 1 ครั้ง = เราเปิดฟรีๆเอง 1 ครั้ง

แสดงว่า ความน่าจะเป็นที่จะได้รางวัล = 2/5 (ถ้าเปลี่ยนใจ)
ถ้าไม่เปลี่ยนใจ ความน่าจะเป็นเท่ากับ 1/5

ดังนั้น $ \ \ \ \ \frac{เปลี่ยนใจ}{ไม่เปลี่ยนใจ} = \dfrac{\frac{2}{5}}{\frac{1}{5}} = \dfrac{a}{b} = \dfrac{2}{1}$

$a+b = 3$


ถูกไหมครับ (final answer แล้ว)


(กว่าจะเข้าใจกันได้ ... เหงื่อตก ... อย่างนี้ต้องรักกันนานๆ)
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #17  
Old 20 กรกฎาคม 2009, 23:37
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Default

ไม่ถูกครับ

กรณีกล่อง 1000 ใบ

ณ ตอนเริ่มต้นที่เราเลือกกล่องมาใบหนึ่ง
ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องนี้คือ $\frac{1}{1000}$ และ ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องอีก 999 ใบคือ $\frac{999}{1000}$
ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใดกล่องหนึ่งในกล่อง 999 ใบ คือ $= \frac{1}{999} \times \frac{999}{1000} = \frac{1}{1000}$

เมื่อเพื่อนช่วยเปิดกล่องที่ไม่มีเงิน 998 ใบ
เหลือกล่องที่ยังไม่เปิดเพียงใบเดียวจากกล่อง 999 ใบ
$\therefore$ ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใบนี้ $= \frac{1}{1} \times \frac{999}{1000} = \frac{999}{1000}$

สมมติว่าเพื่อนช่วยเปิดกล่องที่ไม่มีเงิน 500 ใบ
เหลือกล่องที่ยังไม่เปิด $= 999 - 500 = 499$ ใบ จากกล่อง 999 ใบ
$\therefore$ ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใบใดใบหนึ่งที่เหลือ $= \frac{1}{499} \times \frac{999}{1000} = \frac{999}{499000}$

สมมติว่าเพื่อนช่วยเปิดกล่องที่ไม่มีเงิน 1 ใบ
เหลือกล่องที่ยังไม่เปิด $= 999 - 1 = 998$ ใบ จากกล่อง 999 ใบ
$\therefore$ ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใบใดใบหนึ่งที่เหลือ $= \frac{1}{998} \times \frac{999}{1000} = \frac{999}{998000}$

จะเห็นได้ว่า แม้เพื่อนจะช่วยเปิดกล่องที่ไม่มีเงินเพียงใบเดียว การตัดสินใจเปลี่ยนกล่อง จะมีความน่าจะเป็นที่จะพบเงินมากกว่า การตัดสินใจไม่เปลี่ยน

หากคุณ banker เข้าใจแล้ว ลองคิดโจทย์ที่ถูกแก้ไขอีกสักครั้ง
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #18  
Old 21 กรกฎาคม 2009, 14:03
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ TOP View Post
ไม่ถูกครับ

กรณีกล่อง 1000 ใบ

ณ ตอนเริ่มต้นที่เราเลือกกล่องมาใบหนึ่ง
ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องนี้คือ $\frac{1}{1000}$ และ ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องอีก 999 ใบคือ $\frac{999}{1000}$
ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใดกล่องหนึ่งในกล่อง 999 ใบ คือ $= \frac{1}{999} \times \frac{999}{1000} = \frac{1}{1000}$

เมื่อเพื่อนช่วยเปิดกล่องที่ไม่มีเงิน 998 ใบ
เหลือกล่องที่ยังไม่เปิดเพียงใบเดียวจากกล่อง 999 ใบ
$\therefore$ ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใบนี้ $= \frac{1}{1} \times \frac{999}{1000} = \frac{999}{1000}$

สมมติว่าเพื่อนช่วยเปิดกล่องที่ไม่มีเงิน 500 ใบ
เหลือกล่องที่ยังไม่เปิด $= 999 - 500 = 499$ ใบ จากกล่อง 999 ใบ
$\therefore$ ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใบใดใบหนึ่งที่เหลือ $= \frac{1}{499} \times \frac{999}{1000} = \frac{999}{499000}$

สมมติว่าเพื่อนช่วยเปิดกล่องที่ไม่มีเงิน 1 ใบ
เหลือกล่องที่ยังไม่เปิด $= 999 - 1 = 998$ ใบ จากกล่อง 999 ใบ
$\therefore$ ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใบใดใบหนึ่งที่เหลือ $= \frac{1}{998} \times \frac{999}{1000} = \frac{999}{998000}$

จะเห็นได้ว่า แม้เพื่อนจะช่วยเปิดกล่องที่ไม่มีเงินเพียงใบเดียว การตัดสินใจเปลี่ยนกล่อง จะมีความน่าจะเป็นที่จะพบเงินมากกว่า การตัดสินใจไม่เปลี่ยน

หากคุณ banker เข้าใจแล้ว ลองคิดโจทย์ที่ถูกแก้ไขอีกสักครั้ง

ลองลอกตามดูนะครับ

กรณีกล่อง 5 ใบ

ณ ตอนเริ่มต้นที่เราเลือกกล่องมาใบหนึ่ง
ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องนี้คือ $\dfrac{1}{5}$ และ ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในอีก4 กล่อง คือ $\dfrac{4}{5}$

ถ้าเราเลือก 1 กล่อง จาก 4 กล่องนั้น ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใดกล่องหนึ่งในกล่อง 4 ใบ คือ $= \frac{1}{4} \times \frac{4}{5} = \frac{1}{5}$



เมื่อพิธีกรช่วยเปิดกล่องที่ไม่มีเงิน 1 ใบ
เหลือกล่องที่ยังไม่เปิด $= 4 - 1 = 3 $ ใบ จากเดิมที่มีกล่อง 4 ใบ
$\therefore$ ถ้าเราเลือก 1 กล่อง จาก 3 กล่องนั้น ความน่าจะเป็นที่เงินจะอยู่ในกล่องใบใดใบหนึ่งที่เหลือ $= \dfrac{1}{3} \times \dfrac{4}{5} = \dfrac{4}{15}$

$\therefore \ \ \ \ \dfrac{เปลี่ยนใจ}{รักแท้} = \dfrac{\dfrac{4}{15}}{\dfrac{1}{15}} = \dfrac{4}{1}$

ดังนั้น $a+b =5$

(สรุปว่าของเก่าสลัดทิ้ง หาใหม่ดีกว่า )


ขอให้ถูก ..... เพี้ยงงงง !!!
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #19  
Old 21 กรกฎาคม 2009, 18:45
อยากเก่งเลขครับ's Avatar
อยากเก่งเลขครับ อยากเก่งเลขครับ ไม่อยู่ในระบบ
จอมยุทธ์หน้าหยก
 
วันที่สมัครสมาชิก: 07 กรกฎาคม 2009
ข้อความ: 187
อยากเก่งเลขครับ is on a distinguished road
Default

รู้สึกปัญหานี้คล้ายๆ Monty Hall Problem

http://www.youtube.com/watch?v=mhlc7peGlGg

ลองดูวีดีโออาจเข้าใจมากขึ้นครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #20  
Old 22 กรกฎาคม 2009, 00:41
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Default

กรณีเปลี่ยนใจถูกแล้วครับ แต่กรณีรักแท้ ทำไมค่ามันเปลี่ยนไปจากเดิมละ รักแท้ต้องไม่มีวันเปลี่ยนแปลงสิครับ
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #21  
Old 22 กรกฎาคม 2009, 08:11
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

สงสัยอาการเบลอยังไม่หาย ตัวเลขต้องเป็นอย่างนี้ครับ รักแท้ต้องไม่เปลี่ยนแปลง

$\therefore \ \ \ \ \dfrac{เปลี่ยนใจ}{\color{red}{รักแท้}} = \dfrac{\dfrac{4}{15}} {\color{red}{\dfrac{1}{5}}} = \dfrac{4}{3}$


ดังนั้น $a+b = 7$



อ้อ ... ขอบคุณคุณ'อยากเก่งเลขครับ' ด้วยครับ
อ้างอิง:
อ้างอิง:
ข้อความเดิมเขียนโดยคุณ อยากเก่งเลขครับ View Post
รู้สึกปัญหานี้คล้ายๆ Monty Hall Problem

http://www.youtube.com/watch?v=mhlc7peGlGg

ลองดูวีดีโออาจเข้าใจมากขึ้นครับ
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)

22 กรกฎาคม 2009 14:00 : ข้อความนี้ถูกแก้ไขแล้ว 1 ครั้ง, ครั้งล่าสุดโดยคุณ banker
เหตุผล: เพิ่มขอบคุณ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #22  
Old 22 กรกฎาคม 2009, 23:16
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Default

ถูกต้องแล้วครับ
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #23  
Old 23 กรกฎาคม 2009, 08:02
banker banker ไม่อยู่ในระบบ
เทพเซียน
 
วันที่สมัครสมาชิก: 24 มกราคม 2002
ข้อความ: 9,910
banker is on a distinguished road
Default

ขอบคุณคุณ TOP ที่ช่วยชี้แนะมาโดยตลอด

ผมเชื่อว่า คนอื่นๆที่เข้ามาอ่านก็จะได้อานิสงส์นี้ด้วย
__________________
มาหาความรู้ไว้ติวหลาน
แต่หลานไม่เอาเลขแล้ว
เข้ามาทำเลขเอามันอย่างเดียว

ความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ยิ่งให้ ยิ่งมีมาก


รู้อะไรไม่สู้ รู้จักพอ
(ยกเว้นความรู้ ไม่ต้องพอก็ได้ หาไว้มากๆแหละดี)
(แต่ก็อย่าให้มากจนท่วมหัว เอาตัวไม่รอด)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
  #24  
Old 26 กรกฎาคม 2009, 22:02
TOP's Avatar
TOP TOP ไม่อยู่ในระบบ
ผู้พิทักษ์กฎขั้นสูง
 
วันที่สมัครสมาชิก: 27 มีนาคม 2001
ข้อความ: 1,003
TOP is on a distinguished road
Default

ปัญหานี้ยังมีอีกเวอร์ชันหนึ่งคือ ปัญหานักโทษ 3 คน

มีนักโทษรอเวลาถูกประหาร 3 คน คือ A, B และ C ทั้งสามคนถูกขังเดี่ยว
ทว่าเบื้องบนมีคำสั่งให้เว้นโทษประหารแก่นักโทษคนหนึ่ง ชื่อของนักโทษคนนั้นถูกส่งให้กับผู้คุม

นักโทษ A อยากทราบว่าใครที่ได้รับการเว้นโทษ จึงถามผู้คุม
ผู้คุมไม่ตอบคำถามเพราะเขาไม่มีสิทธิ์ให้ข้อมูลนี้แก่นักโทษ
นักโทษ A จึงเปลี่ยนมาถามผู้คุมว่า ใครที่จะถูกประหาร ให้เอ่ยมาสักชื่อหนึ่ง เช่น

หาก B ได้รับการเว้นโทษ ผู้คุมสามารถเอ่ยชื่อ C
หาก C ได้รับการเว้นโทษ ผู้คุมสามารถเอ่ยชื่อ B
แต่หาก A ได้รับการเว้นโทษ ก็ให้ผู้คุมโยนเหรียญเสี่ยงทายว่าจะเอ่ยชื่อ B หรือ C
ด้วยวิธีนี้ ไม่ว่าผู้คุมจะเอ่ยชื่อ B หรือ C ออกมา นักโทษ A ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าใครกันแน่ที่ได้รับการเว้นโทษ และก็ไม่อาจทราบได้ว่าตนจะถูกประหารหรือไม่

ผู้คุม: ก็ถ้าเอ็งเห็นข้าโยนเหรียญเสี่ยงทาย ก็จะรู้ได้ทันทีว่า เอ็งนั่นละได้รับการเว้นโทษ
นักโทษ A: ทำแบบนี้สิ ท่านค่อยให้คำตอบข้าวันพรุ่งนี้ คืนนี้ท่านกลับไปคิดหรือโยนเหรียญ ทีนี้ข้าก็ไม่เห็นแล้วว่าท่านโยนเหรียญหรือไม่

ผู้คุมคิดในใจ ด้วยวิธีนี้ ถึงเอ่ยชื่อไปก็ไม่ช่วยให้นักโทษ A ทราบว่าใครได้รับการเว้นโทษ ในขณะเดียวกัน นักโทษ A ก็ไม่อาจทราบได้ว่าตนจะถูกประหารไหม มันก็เหมือนกับไม่ให้ข้อมูลใดๆนั่นละ จึงตอบตกลง

วันรุ่งขึ้นผู้คุมจึงให้คำตอบกับนักโทษ A ว่า นักโทษที่จะถูกประหารคือ B

เมื่อได้รับคำตอบนี้ นักโทษ A ดีใจมาก เขารีบส่งสัญญาณผ่านท่อน้ำในห้องขังแจ้งให้นักโทษ C ทราบถึงเรื่องราวทั้งหมด และบอกว่าแต่ละคนมีโอกาสได้รับการเว้นโทษมากกว่าเมื่อก่อน จากเดิมแต่ละคนมีโอกาสได้รับการเว้นโทษเป็น $\frac{1}{3}$ แต่ตอนนี้โอกาสนั้นได้เพิ่มเป็น $\frac{1}{2}$ แล้ว

ท่านคิดว่านักโทษทั้งสองคนเข้าใจถูกต้องหรือไม่ ความจริงเป็นอย่างไรกันแน่
__________________
The difference between school and life?
In school, you're taught a lesson and then given a test.
In life, you're given a test that teaches you a lesson.
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความนี้
ตั้งหัวข้อใหม่ Reply



กฎการส่งข้อความ
คุณ ไม่สามารถ ตั้งหัวข้อใหม่ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบหัวข้อได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์และเอกสารได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความของคุณเองได้

vB code is On
Smilies are On
[IMG] code is On
HTML code is Off
ทางลัดสู่ห้อง


เวลาที่แสดงทั้งหมด เป็นเวลาที่ประเทศไทย (GMT +7) ขณะนี้เป็นเวลา 19:48


Powered by vBulletin® Copyright ©2000 - 2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
Modified by Jetsada Karnpracha